between motivationally relevant asp

between motivationally relevant aspects of the person and the im- mediate social context.
Our main hypothesis was that the presence of agonistic social motivations would potentiate the effects of heat on hostility. Findings from both studies confirmed that heat led to hostile cognition (Experiment 1) and aggression (Experiment 2), but only after rejection and only among individuals high in FNE — those who tend to experience agonistic motives following rejection. Under routine circumstances, those agonistic motives often take the form of passivity and avoidance. Indeed, when not primed with heat, high FNE participants did display relatively low levels of hostility and aggression after rejection. This pattern is consistent with the characteristic social withdrawal often displayed by high FNE people in responses to social threats. When primed with heat, however, the responses of high FNE individuals became substantially more hostile. This pattern resembles the transition from flight to fight that often occurs in response to threat (Blanchard et al., 1986).
More broadly, these results are consistent with the idea that the effects of low-level sensory experiences depend on the motivational state of the perceiver. Incidental haptic sensations may not affect social processes in the same way across people and situations. Rather, they may interact with motivationally relevant individual differences and aspects of the social context. For example, heat did not promote hostility among individuals low in FNE. This makes sense in light of the fact that those individuals tend to display affiliative motives rather than agonistic motives after rejection (Maner et al., 2007). Among those individuals, heat could interact with affiliative motives to influence prosocial responses. Although the current studies were not designed to assess people's propensity for affiliation, Bargh and Shalev (2012) suggested that, among those experiencing affiliative social motives after rejection, warm temperature sensations might help fulfill people's desire for social bonding. Overall, these findings support the notion that heat can promote hostility, but mainly when such responses are consistent with an individual's current agonistic motivations
Although the interplay between social contexts and individual differences is a central and classic tenet of social psychology, few studies in the sensory priming literature have demonstrated that person by situation interactions moderate the psychological effects of sensory states. Sensory states are invariably experienced within some broader social context and by individuals experiencing particular motivations (Smith & Semin, 2004). The current paper provides a valuable springboard for investigating the manner in which situational factors and individual differences shape responses to a range of bodily sensations.
The current data may contribute to current discussions regarding the replicability of priming effects in social psychology (see Kahneman, 2012). Although priming research has seen a long and successful history in social psychology, recently some have questioned the reliability of these findings (e.g., Lebel & Campbell, 2013). By highlighting the importance of moderating variables, the current research suggests a possible reconciliation. Sensory primes may elicit psychological responses only in some people and some situations. Many previous priming studies have fallen short of attending to moderating variables and thus the effect of those variables could have been obscured. Integrating a greater focus on boundary conditions into theories of sensory priming has potential for advancing the field.
Limitations and future directions
Limitations of the current work provide valuable opportunities for future research. In the experiments we reported here, we did not examine all possible cognitive and behavioral responses to heat. In addition to psychological links between heat and hostility, for example, there is evidence for links between warm temperatures and affiliation (Fay & Maner, 2012; IJzerman & Semin, 2009; IJzerman et al., 2013; Williams & Bargh, 2008). For example, warm temperatures can lead
people to see others as friendlier — as “warmer” or more interpersonally close (Williams & Bargh, 2008). The current studies were not designed to assess links between heat and interpersonal closeness. Nevertheless, consistent with the overall conceptual framework of the current paper, some previous work suggests that effects of warmth on affiliation depend on the social motives of the perceiver (Fay & Maner, 2012; IJzerman et al., 2013). Indeed, the sensory prime used here (sitting on a heating pad) has been shown to evoke both hostile responses (in the current research) and affiliative responses (as in Fay & Maner, 2012), depending on the motives of the perceiver. Thus, the type of responses observed after a temperature prime may be more a function of the perceiver's social motives than simply the obje

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระหว่าง motivationally แง่ของบุคคลและ im - ไกล่เกลี่ยบริบททางสังคมสมมติฐานหลักของเราคือ ว่า การปรากฏตัวของ agonistic สังคมแรงจูงใจจะมีอำนาจผลของความร้อนในความเกลียดชัง ผลการวิจัยจากการศึกษาทั้งสองยืนยันว่า ความร้อนที่นำความรู้ความเข้าใจเป็นมิตร (ทดลอง 1) และความก้าวร้าว (ทดลอง 2), แต่หลัง จากการปฏิเสธ และเฉพาะใน หมู่บุคคลสูง FNE — ผู้ที่มักจะพบแรงจูงใจ agonistic ต่อการปฏิเสธ ภายใต้สถานการณ์ประจำวัน แรงจูงใจ agonistic เหล่านั้นมักจะใช้แบบของดุษณีและหลีกเลี่ยง แน่นอน เมื่อไม่งเยีย ด้วยความร้อน ร่วม FNE สูงไม่แสดงระดับค่อนข้างต่ำของความเกลียดชังและความก้าวร้าวจากการปฏิเสธ รูปแบบนี้จะสอดคล้องกับถอนสังคมลักษณะมักแสดง โดยสูง FNE คนในการตอบสนองภัยคุกคามสังคม เมื่องเยีย ด้วยความร้อน อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของบุคคล FNE สูงเป็นมิตรมากขึ้น รูปแบบนี้คล้ายกับการเปลี่ยนจากเที่ยวบินในการต่อสู้ที่มักเกิดขึ้นในการตอบสนองภัยคุกคาม (Blanchard et al. 1986)ใช้ในวงกว้าง ผลลัพธ์เหล่านี้จะสอดคล้องกับความคิดที่ว่า ผลกระทบของประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสที่ระดับต่ำขึ้นอยู่กับสถานะของ perceiver ที่สร้างแรงบันดาลใจ เสียความรู้สึกสัมผัสอาจไม่มีผลต่อกระบวนการทางสังคมแบบเดียวกับคนและสถานการณ์ ค่อนข้าง มันอาจโต้ตอบกับ motivationally แต่ละความแตกต่างและลักษณะของบริบททางสังคม ตัวอย่างเช่น ความร้อนไม่ส่งเสริมความเกลียดชังในหมู่ประชาชนต่ำ FNE นี้ทำให้รู้สึกในแง่ความจริงที่ว่าบุคคลเหล่านั้นมักจะ แสดงแรงจูงใจผูกพันมากกว่า agonistic แรงจูงใจหลังจากการปฏิเสธ (Maner et al. 2007) ในหมู่บุคคลเหล่านั้น ความร้อนสามารถโต้ตอบกับแรงจูงใจผูกพันมีอิทธิพลต่อการตอบสนอง prosocial แม้ว่าการศึกษาปัจจุบันไม่สามารถรองรับการประเมินของผู้กลั่นสำหรับสังกัด Bargh และ Shalev (2012) แนะนำว่า หนึ่งในผู้ประสบกับแรงจูงใจทางสังคมที่ผูกพันหลังจากการปฏิเสธ อุณหภูมิความรู้สึกอาจช่วยตอบสนองความปรารถนาของผู้คนสำหรับพันธะทางสังคม โดยรวม ค้นพบเหล่านี้สนับสนุนความคิดที่ว่า ความร้อนสามารถส่งเสริมความเกลียดชัง แต่ส่วนใหญ่เมื่อการตอบสนองดังกล่าวจะสอดคล้องกับแต่ละบุคคลของปัจจุบัน agonistic แรงจูงใจแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างบริบททางสังคมและความแตกต่างของแต่ละบุคคลเป็นศูนย์กลาง และทฤษฎีคลาสสิกของจิตวิทยาสังคม การศึกษาน้อยในวรรณคดีด้วยประสาทสัมผัสได้แสดงให้เห็นบุคคลนั้น โดยโต้ตอบสถานการณ์ บรรเทาผลกระทบทางจิตวิทยาของอเมริกาทางประสาทสัมผัส ประสาทสัมผัสอเมริกามีประสบการณ์อย่างสม่ำเสมอภาย ในบริบททางสังคมบางกว้าง และบุคคลที่ประสบแรงจูงใจเฉพาะ (Smith & Semin, 2004) กระดาษปัจจุบันให้มีคุณค่าเพื่อกระโดดสำหรับตรวจสอบลักษณะที่ปัจจัยสถานการณ์และความแตกต่างของแต่ละรูปร่างคำตอบหลากหลายความรู้สึกทางร่างกายข้อมูลปัจจุบันอาจนำไปสู่การสนทนาปัจจุบันเกี่ยวกับการ replicability ผลด้วยในจิตวิทยาสังคม (ดู Kahneman, 2012) แม้ว่างานวิจัยด้วยได้เห็นประวัติศาสตร์ยาวนาน และประสบความสำเร็จในจิตวิทยาสังคม เพิ่งบางมีถามความน่าเชื่อถือของผลการวิจัยเหล่านี้ (เช่น Lebel & Campbell, 2013) โดยเน้นความสำคัญของตัวแปรเศรษฐกิจ การวิจัยในปัจจุบันแสดงให้เห็นการกระทบยอดได้ ประสาทสัมผัสไพรม์อาจ elicit การตอบสนองทางด้านจิตใจในบางคนและบางสถานการณ์เท่านั้น ศึกษาด้วยก่อนหน้านี้หลายตกสั้นเข้าร่วมควบคุมตัวแปร และทำให้ ผลของตัวแปรเหล่านั้นจะได้ถูกบดบัง บูรณาการเน้นขอบเขตเงื่อนไขในทฤษฎีของประสาทสัมผัสด้วยมีศักยภาพสำหรับก้าวหน้าฟิลด์ข้อจำกัดและทิศทางในอนาคตข้อจำกัดของการทำงานปัจจุบันให้มีคุณค่าโอกาสสำหรับการวิจัยในอนาคต ในการทดลองเรารายงานที่นี่ เราไม่ได้ตรวจสอบไปได้องค์ความรู้ และพฤติกรรมการตอบทั้งหมดให้ความร้อน นอกจากการเชื่อมโยงจิตใจระหว่างความร้อนและความเกลียดชัง เช่น มีหลักฐานเชื่อมโยงระหว่างอุณหภูมิที่อบอุ่นและสังกัด (Fay และ Maner, 2012 IJzerman & Semin, 2009 IJzerman et al. 2013 วิลเลียมส์และ Bargh, 2008) ตัวอย่างเช่น สามารถนำอุณหภูมิที่อบอุ่นคนเห็นคนอื่นเป็นเป็นมิตร — "อบอุ่น" หรือมากกว่า interpersonally ใกล้ (Williams & Bargh, 2008) การศึกษาปัจจุบันไม่สามารถรองรับการประเมินการเชื่อมโยงระหว่างความร้อนและความใกล้ชิดระหว่างบุคคล แต่ สอดคล้องกับกรอบแนวคิดโดยรวมของกระดาษปัจจุบัน งานบางอย่างก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่า ผลกระทบของความอบอุ่นในสังกัดขึ้นอยู่กับแรงจูงใจทางสังคมของ perceiver (Fay และ Maner, 2012 IJzerman et al. 2013) จริง ประสาทสัมผัสนายกใช้ที่นี่ (นั่งอยู่บนแผ่นความร้อน) ได้รับการแสดงจะทำให้เกิดการตอบสนองเป็นศัตรู (ในการวิจัยในปัจจุบัน) และการตอบผูกพันเช่น Fay และ Maner, 2012), ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของ perceiver ที่ ดังนั้น ชนิดของการตอบสนองที่สังเกตหลังจากการสัมผัสอุณหภูมิอาจจะเพิ่มเติมการทำงานของแรงจูงใจทางสังคมของ perceiver กว่าเพียง obje

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระหว่างด้านที่เกี่ยวข้อง motivationally ของบุคคลและ im- เป็นสื่อกลางในบริบททางสังคม.
สมมติฐานหลักของเราคือการที่การปรากฏตัวของแรงจูงใจทางสังคม agonistic จะ potentiate ผลกระทบของความร้อนต่อความเป็นปรปักษ์ ผลการวิจัยจากการศึกษาทั้งสองยืนยันว่าความร้อนที่นำไปสู่ความรู้ความเข้าใจที่ไม่เป็นมิตร (การทดลองที่ 1) และการรุกราน (การทดลองที่ 2) แต่หลังจากปฏิเสธและมีเพียงในหมู่ประชาชนที่สูงใน FNE - ผู้ที่มีแนวโน้มที่จะได้สัมผัสกับแรงจูงใจ agonistic ต่อไปนี้การปฏิเสธ ภายใต้สถานการณ์ประจำผู้ agonistic แรงจูงใจมักจะใช้รูปแบบของการดิ้นรนและหลีกเลี่ยง อันที่จริงเมื่อไม่ได้เตรียมไว้ด้วยความร้อนเข้าร่วม FNE สูงไม่แสดงระดับที่ค่อนข้างต่ำของความเกลียดชังและความก้าวร้าวหลังจากปฏิเสธ รูปแบบนี้มีความสอดคล้องกับการถอนสังคมลักษณะมักจะแสดงโดยคน FNE สูงในการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางสังคม เมื่อลงสีพื้นด้วยความร้อน แต่การตอบสนองของบุคคล FNE สูงกลายเป็นมิตรมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ รูปแบบนี้มีลักษณะคล้ายกับการเปลี่ยนแปลงจากเที่ยวบินที่จะต่อสู้ที่มักจะเกิดขึ้นในการตอบสนองต่อภัยคุกคาม (Blanchard et al., 1986).
กว้างกว่าผลลัพธ์เหล่านี้มีความสอดคล้องกับความคิดที่ว่าผลกระทบของประสบการณ์ทางประสาทสัมผัสในระดับต่ำขึ้นอยู่กับรัฐสร้างแรงบันดาลใจของ perceiver ความรู้สึกสัมผัสที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ส่งผลต่อกระบวนการทางสังคมในรูปแบบเดียวกันทั่วคนและสถานการณ์ แต่พวกเขาอาจจะมีปฏิสัมพันธ์กับแตกต่างระหว่างบุคคลที่เกี่ยวข้อง motivationally และแง่มุมของบริบททางสังคม ตัวอย่างเช่นความร้อนไม่ได้ส่งเสริมความเกลียดชังในหมู่ประชาชนในระดับต่ำใน FNE นี้จะทำให้ความรู้สึกในแง่ของความจริงที่ว่าบุคคลเหล่านั้นมีแนวโน้มที่จะแสดงแรงจูงใจ affiliative มากกว่าแรงจูงใจ agonistic หลังจากปฏิเสธ (maner et al., 2007) ในบรรดาบุคคลเหล่านั้นความร้อนสามารถโต้ตอบกับแรงจูงใจ affiliative จะมีอิทธิพลต่อการตอบสนอง prosocial แม้ว่าการศึกษาในปัจจุบันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินนิสัยชอบของผู้คนสำหรับความร่วมมือและ Bargh Shalev (2012) ชี้ให้เห็นว่าในหมู่ผู้ประสบแรงจูงใจทางสังคม affiliative หลังจากปฏิเสธความรู้สึกอบอุ่นอุณหภูมิอาจจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้คนพันธะทางสังคม โดยรวม, การค้นพบเหล่านี้สนับสนุนความคิดที่ว่าความร้อนสามารถส่งเสริมความเป็นศัตรู แต่ส่วนใหญ่เมื่อการตอบสนองดังกล่าวมีความสอดคล้องกับแรงจูงใจ agonistic ของแต่ละบุคคลในปัจจุบัน
ถึงแม้ว่าจะทำงานร่วมกันระหว่างบริบททางสังคมและความแตกต่างของแต่ละบุคคลเป็นหลักกลางและคลาสสิกของจิตวิทยาสังคมการศึกษาน้อยในประสาทสัมผัส priming วรรณคดีได้แสดงให้เห็นว่าคนโดยการโต้ตอบสถานการณ์ปานกลางผลกระทบทางจิตวิทยาของรัฐที่อยู่ทางประสาทสัมผัส รัฐทางประสาทสัมผัสที่มีประสบการณ์อย่างสม่ำเสมอภายในบางบริบททางสังคมที่กว้างขึ้นและโดยบุคคลที่ประสบแรงจูงใจเฉพาะ (สมิ ธ แอนด์ Semin, 2004) กระดาษในปัจจุบันให้เป็นมหาอำนาจที่มีคุณค่าสำหรับการตรวจสอบในลักษณะที่ปัจจัยสถานการณ์และความแตกต่างของแต่ละบุคคลการตอบสนองรูปร่างช่วงของความรู้สึกร่างกาย.
ข้อมูลปัจจุบันอาจนำไปสู่การอภิปรายในปัจจุบันเกี่ยวกับ replicability ของรองพื้นผลกระทบในด้านจิตวิทยาสังคม (ดู Kahneman, 2012) . แม้ว่า priming วิจัยได้เห็นประวัติศาสตร์อันยาวนานและประสบความสำเร็จในด้านจิตวิทยาสังคมเมื่อเร็ว ๆ นี้บางคนได้ถามความน่าเชื่อถือของการค้นพบนี้ (เช่น Lebel และแคมป์เบล 2013) เดอะ โดยเน้นความสำคัญของการดูแลตัวแปรที่การวิจัยในปัจจุบันแสดงให้เห็นการปรองดองที่เป็นไปได้ เฉพาะทางประสาทสัมผัสอาจล้วงเอาการตอบสนองทางด้านจิตใจเพียง แต่ในบางคนและบางสถานการณ์ หลายการศึกษารองพื้นก่อนหน้านี้ได้ลดลงระยะสั้นของการเข้าร่วมกับตัวแปรดูแลและทำให้ผลของตัวแปรเหล่านั้นจะได้รับการบดบัง การบูรณาการมุ่งเน้นมากขึ้นในเงื่อนไขขอบเขตเข้าไปในทฤษฎีของประสาทสัมผัสรองพื้นมีศักยภาพในการก้าวหน้าสนาม.
ข้อ จำกัด และทิศทางในอนาคต
ข้อ จำกัด ของการทำงานในปัจจุบันให้โอกาสที่มีคุณค่าสำหรับการวิจัยในอนาคต ในการทดลองที่เรารายงานที่นี่เราไม่ได้ตรวจสอบการตอบสนองความรู้ความเข้าใจและพฤติกรรมเป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อให้ความร้อน นอกเหนือไปจากการเชื่อมโยงทางจิตวิทยาระหว่างความร้อนและความเกลียดชัง, ตัวอย่างเช่นมีหลักฐานเชื่อมโยงระหว่างอุณหภูมิที่อบอุ่นและความร่วมมือ (นางฟ้า & maner 2012; & IJzerman Semin 2009;. IJzerman et al, 2013; Williams & Bargh 2008) ยกตัวอย่างเช่นอุณหภูมิที่อบอุ่นสามารถนำไปสู่
​​คนที่จะเห็นคนอื่น ๆ ที่เป็นมิตร - เป็น "อุ่นขึ้น" หรือมากกว่า interpersonally ปิด (วิลเลียมส์และ Bargh 2008) การศึกษาในปัจจุบันไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อประเมินการเชื่อมโยงระหว่างความร้อนและความใกล้ชิดระหว่างบุคคล แต่สอดคล้องกับกรอบแนวคิดโดยรวมของกระดาษในปัจจุบันบางงานก่อนหน้านี้แสดงให้เห็นว่าผลกระทบของความอบอุ่นในสังกัดขึ้นอยู่กับแรงจูงใจทางสังคมของผู้รับรู้ข้อมูล (นางฟ้า & maner 2012;. IJzerman et al, 2013) ที่จริงที่สำคัญทางประสาทสัมผัสใช้ที่นี่ (นั่งอยู่บนแผ่นความร้อน) ได้รับการแสดงที่จะทำให้เกิดการตอบสนองทั้งที่เป็นมิตร (ในการวิจัยในปัจจุบัน) และการตอบสนอง affiliative (ในขณะที่นางฟ้าและ maner, 2012) ขึ้นอยู่กับแรงจูงใจของ perceiver ที่ ดังนั้นประเภทของการตอบสนองที่สังเกตได้หลังจากที่อุณหภูมิที่สำคัญอาจจะมีฟังก์ชั่นของแรงจูงใจทางสังคมของผู้รับรู้มากกว่าเพียงแค่ obje