หากให้นึกถึงจังหวัดที่มีสถานที่ท่อง

หากให้นึกถึงจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นโบราณสถาน เชื่อว่าหลายคนเป็นต้องนึกถึง "จังหวัดพระนครศรีอยุธยา" เป็นแน่ เพราะที่นี่มีทั้งวัด และพระราชวังต่างๆ มากมาย... ว่าแล้ววันนี้เราถือโอกาสดีๆ พาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "อยุธยา" กันดีกว่า...

เริ่มกันที่ประวัติเก่าแก่คร่าวๆ ของที่นี่กันก่อน... 417 ปีแห่งการเป็นราชธานีเก่าแก่ของสยามประเทศ ประกอบด้วย ราชวงศ์ คือ ราชวงศ์อู่ทอง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราชวงศ์สุโขทัย ราชวงศ์ปราสาททอง และราชวงศ์บ้านพลูหลวง มีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น 33 พระองค์ โดยมีปฐมกษัตริย์ คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระนครศรีอยุธยาจึงนับเป็นราชธานีที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย

ตลอดระยะเวลา 417 ปี ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแห่งราชอาณาจักรไทย มิได้เป็นเพียงช่วงแห่งความเจริญสูงสุดของชนชาติไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์อารยธรรมของหมู่มวลมนุษยชาติ ซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศอีกด้วย แม้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะถูกทำลายเสียหายจากสงครามกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือจากการบุกรุกขุดค้นของพวกเรากันเอง แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ ยังมีร่องรอยหลักฐานซึ่งแสดงอัจฉริยภาพและความสามารถอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษแห่งราชอาณาจักร ผู้อุทิศตนสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรม และความมั่งคั่งไว้ให้แก่ผืนแผ่นดินไทย หรือแม้แต่ชาวโลกทั้งมวล...

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หากให้นึกถึงจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นโบราณสถานเชื่อว่าหลายคนเป็นต้องนึกถึง "จังหวัดพระนครศรีอยุธยา" เป็นแน่เพราะที่นี่มีทั้งวัดและพระราชวังต่าง ๆ มากมาย... ว่าแล้ววันนี้เราถือโอกาสดี ๆ พาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือที่เรียกกันจนติดปากว่ากันดีกว่า "อยุธยา" ... เริ่มกันที่ประวัติเก่าแก่คร่าว ๆ ของที่นี่กันก่อน... 417 ปีแห่งการเป็นราชธานีเก่าแก่ของสยามประเทศประกอบด้วยราชวงศ์คือราชวงศ์อู่ทองราชวงศ์สุพรรณภูมิราชวงศ์สุโขทัยราชวงศ์ปราสาททองและราชวงศ์บ้านพลูหลวงมีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น 33 พระองค์โดยมีปฐมกษัตริย์คือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระนครศรีอยุธยาจึงนับเป็นราชธานีที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ตลอดระยะเวลา 417 ปีที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแห่งราชอาณาจักรไทยมิได้เป็นเพียงช่วงแห่งความเจริญสูงสุดของชนชาติไทยเท่านั้นแต่ยังเป็นการสร้างสรรค์อารยธรรมของหมู่มวลมนุษยชาติซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศอีกด้วยแม้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะถูกทำลายเสียหายจากสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านหรือจากการบุกรุกขุดค้นของพวกเรากันเองแต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ยังมีร่องรอยหลักฐานซึ่งแสดงอัจฉริยภาพและความสามารถอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษแห่งราชอาณาจักรผู้อุทิศตนสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมและความมั่งคั่งไว้ให้แก่ผืนแผ่นดินไทยหรือแม้แต่ชาวโลกทั้งมวล...

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชื่อว่าหลายคนเป็นต้องนึกถึง "จังหวัดพระนครศรีอยุธยา" เป็นแน่เพราะที่นี่มีทั้งวัดและพระราชวังต่างๆมากมาย ... ว่าแล้ววันนี้เราถือโอกาสดีๆพาเพื่อน ๆ หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "อยุธยา" ของที่นี่กันก่อน ... 417 ประกอบด้วยราชวงศ์คือราชวงศ์อู่ทองราชวงศ์สุพรรณภูมิราชวงศ์สุโขทัยราชวงศ์ปราสาททองและราชวงศ์บ้านพลูหลวงมีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น 33 พระองค์โดยมีปฐมกษัตริย์คือสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) 417 ปี หรือแม้แต่ชาวโลกทั้งมวล ...

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หากให้นึกถึงจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นโบราณสถานเชื่อว่าหลายคนเป็นต้องนึกถึง " จังหวัดพระนครศรีอยุธยา " เป็นแน่เพราะที่นี่มีทั้งวัดและพระราชวังต่างๆมากมาย . . . . . . .ว่าแล้ววันนี้เราถือโอกาสดีๆพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับจังหวัดพระนครศรีอยุธยาหรือที่เรียกกันจนติดปากว่า " อยุธยา " กันดีกว่า . . . . . . .

เริ่มกันที่ประวัติเก่าแก่คร่าวๆของที่นี่กันก่อน . . . . . . .417 ปีแห่งการเป็นราชธานีเก่าแก่ของสยามประเทศประกอบด้วยราชวงศ์ความราชวงศ์อู่ทองราชวงศ์สุพรรณภูมิราชวงศ์สุโขทัยราชวงศ์ปราสาททองและราชวงศ์บ้านพลูหลวงมีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น 33 พระองค์โดยมีปฐมกษัตริย์สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ( พระเจ้าอู่ทอง ) พระนครศรีอยุธยาจึงนับเป็นราชธานีที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย

ตลอดระยะเวลา 417 ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแห่งราชอาณาจักรไทยมิได้เป็นเพียงช่วงแห่งความเจริญสูงสุดของชนชาติไทยเท่านั้นแต่ยังเป็นการสร้างสรรค์อารยธรรมของหมู่มวลมนุษยชาติ .แม้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะถูกทำลายเสียหายจากสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านหรือจากการบุกรุกขุดค้นของพวกเรากันเองแต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ผู้อุทิศตนสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรมและความมั่งคั่งไว้ให้แก่ผืนแผ่นดินไทยหรือแม้แต่ชาวโลกทั้งมวล .. . . . . . .