1. Every day of your life, you move

1. Every day of your life, you move through systems of power that other people made. Do you sense them? Do you understand power? Do you realize why it matters?
2. Power is something we are often uncomfortable talking about. That's especially true in civic life, how we live together in community.
3. In a democracy, power is supposed to reside with the people, period.
4. Any further talk about power and who really has it seems a little dirty, maybe even evil.
5. But power is no more inherently good or evil than fire or physics. It just is.
6. It governs how any form of government works. It determines who gets to determine the rules of the game.
7. So learning how power operates is key to being effective, being taken seriously, and not being taken advantage of.
8. In this lesson, we'll look at where power comes from, how it's exercised and what you can do to become more powerful in public life.
9. Let's start with a basic definition. Power is the ability to make others do what you would have them do.
10. Of course, this plays out in all arenas of life, from family to the workplace to our relationships.
11. Our focus is on the civic arena, where power means getting a community to make the choices and to take the actions that you want.
12. There are six main sources of civic power. First, there's physical force and a capacity for violence. Control of the means of force, whether in the police or a militia, is power at its most primal.
13. A second core source of power is wealth. Money creates the ability to buy results and to buy almost any other kind of power.
14. The third form of power is state action, government. This is the use of law and bureaucracy to compel people to do or not do certain things.
15. In a democracy, for example, we the people, theoretically, give government its power through elections. In a dictatorship, state power emerges from the threat of force, not the consent of the governed.
16. The fourth type of power is social norms or what other people think is okay. Norms don't have the centralized machinery of government. They operate in a softer way, peer to peer.
17. They can certainly make people change behaviour and even change laws. Think about how norms around marriage equality today are evolving.
18. The fifth form of power is ideas. An idea, individual liberties, say, or racial equality, can generate boundless amounts of power if it motivates enough people to change their thinking and actions.
19. And so the sixth source of power is numbers, lots of humans. A vocal mass of people creates power by expressing collective intensity of interest and by asserting legitimacy.
20. Think of the Arab Spring or the rise of the Tea Party. Crowds count.
21. These are the six main sources of power, what power is.
22. So now, let's think about how power operates. There are three laws of power worth examining.
23. Law number one: power is never static. It's always either accumulating or decaying in a civic arena. So if you aren't taking action, you're being acted upon.
24. Law number two: power is like water. It flows like a current through everyday life. Politics is the work of harnessing that flow in a direction you prefer. Policymaking is an effort to freeze and perpetuate a particular flow of power. Policy is power frozen.
25. Law number three: power compounds. Power begets more power, and so does powerlessness.
26. The only thing that keeps law number three from leading to a situation where only one person has all the power is how we apply laws one and two.
27. What rules do we set up so that a few people don't accumulate too much power, and so that they can't enshrine their privilege in policy?
28. That's the question of democracy, and you can see each of these laws at work in any news story.
29. Low wage workers organize to get higher pay. Oil companies push to get a big pipeline approved. Gay and lesbian couples seek the legal right to marry. Urban parents demand school vouchers.
30. You may support these efforts or not. Whether you get what you want depends on how adept you are with power, which brings us finally to what you can do to become more powerful in public life.
31. Here, it's useful to think in terms of literacy. Your challenge is to learn how to read power and write power.
32. To read power means to pay attention to as many texts of power as you can. I don't mean books only. I mean seeing society as a set of texts.
33. Don't like how things are in your campus or city or country? Map out who has what kind of power, arrayed in what systems.
34. Understand why it turned out this way, who's made it so, and who wants to keep it so.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. ทุกวันของชีวิตของคุณ ที่คุณเลื่อนผ่านระบบของอำนาจที่ผู้อื่นทำ คุณรู้สึกได้ คุณเข้าใจพลังงาน คุณตระหนักว่าทำไมมันเป็นเรื่อง2. พลังงานเป็นสิ่งที่เรามักพูดถึงอึดอัด นั่นเป็นเรื่องจริงในชีวิตพลเมือง วิธีการที่เราอยู่ร่วมกันในชุมชน 3. ในประชาธิปไตย พลังควรจะอยู่กับคนที่ ระยะเวลา4. การพูดคุยเกี่ยวกับพลังงานเพิ่มเติม และที่มีมันดูเหมือนเล็กมาก บางทีแม้ความชั่วร้าย 5. แต่อำนาจไม่มีความดี หรือชั่วกว่าไฟหรือฟิสิกส์ มันก็เป็น6. ควบคุมวิธีการทำงานของรัฐบาลในรูปแบบใด ๆ กำหนดที่ได้รับการตรวจสอบกฎของเกม7. เพื่อ เรียนรู้วิธีการทำงานของพลังงานเป็นกุญแจสำคัญมีประสิทธิภาพ มีการพิจารณาอย่างจริงจัง และไม่ถูกเอาเปรียบ8. ในบทเรียนนี้ เราจะดูที่ที่พลังงานมาจาก วิธีเป็นการใช้สิทธิ และสิ่งที่คุณสามารถทำได้มีประสิทธิภาพสูงในชีวิตสาธารณะนั้น9. เริ่มต้น ด้วยคำจำกัดความพื้นฐาน พลังงานคือ ความสามารถในการทำให้คนอื่นทำสิ่งที่คุณจะมีพวกเขาทำ 10. แน่นอน นี้เล่นออกในสถานที่ทั้งหมดของชีวิต จากครอบครัวที่ทำงานความสัมพันธ์ของเรา11. การมุ่งเน้นอยู่บนเวทีพลเมือง ที่พลังหมายถึง ชุมชน เพื่อให้ตัวเลือก และดำเนินการตามที่คุณต้องการ12. มีหกหลักแหล่งพลังงานพลเมือง ครั้งแรก มีแรงกายและกำลังความรุนแรง การควบคุมหมายถึงของแรง ในตำรวจหรือ militia เป็นสุดปฐม13. สองหลักแหล่งที่มาของพลังงานเป็นความมั่งคั่ง เงินสร้างสามารถซื้อผล และซื้อแทบทุกประเภทของพลังงาน14. แบบฟอร์มสามอำนาจคือ รัฐกระทำ รัฐบาล การใช้กฎหมายและระบบราชการการบังคับคนให้ทำ หรือไม่ทำบางสิ่งบางอย่างได้ 15. ในประชาธิปไตย เช่น เราคน ในทางทฤษฎี ให้รัฐบาลอำนาจผ่านการเลือกตั้ง ในเผด็จการ ใช้อำนาจรัฐออกจากภัยคุกคามของแรง ไม่ได้รับความยินยอมของการควบคุม16. สี่ชนิดของพลังงานคือ บรรทัดฐานทางสังคมหรือสิ่งอื่น ๆ คนคิดว่าไม่เป็นไร บรรทัดฐานไม่มีเครื่องจักรที่ส่วนกลางของรัฐบาล พวกเขาดำเนินการในทางนุ่ม เพียร์เพื่อเพียร์ 17. นอกจากนี้พวกเขาอย่างแน่นอนสามารถทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรม และการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย คิดเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาบรรทัดฐานรอบเท่ากันแต่งงานวันนี้18. ห้ารูปแบบของพลังงานเป็นแนวคิด ความคิด เสรีภาพละ กล่าวว่า หรือความเสมอ ภาคทางเชื้อชาติ สามารถสร้างจำนวนพลังงานไร้ขีดจำกัดถ้ามันจูงคนพอเปลี่ยนความคิดและการกระทำ19. และเพื่อ ให้แหล่งพลังงานหกเป็นตัวเลข จำนวนมากของมนุษย์ มวลเสียงของท่านสร้างพลังงาน โดยแสดงความเข้มข้นรวมของดอกเบี้ย และยืนยันความชอบธรรม 20. คิดว่า ฤดูใบไม้ผลิอาหรับหรือการเพิ่มขึ้นของน้ำชา ฝูงชนจำนวน 21. เหล่านี้เป็นแหล่งที่มาหลักหกอำนาจ พลังอะไร22. ตอนนี้ ลองคิดเกี่ยวกับพลังงานวิธีดำเนินการ มีกฎหมายสามพลังงานมูลค่าการตรวจสอบ 23. กฎหมายจำนวนหนึ่ง: ไฟไม่คงที่ มันจะสะสม หรือสลายในเวทีพลเมือง ดังนั้นหากคุณไม่ได้การดำเนินการ คุณกำลังถูกดำเนินการ24. กฎหมายหมายเลขสอง: อำนาจเป็นเหมือนกับน้ำ มันไหลเหมือนกระแสผ่านชีวิตประจำวัน การเมืองเป็นการทำงานของการควบคุมที่ไหลในทิศทางที่คุณต้องการ คอกเป็นความพยายามที่จะตรึง และขยายเวลาการไหลเฉพาะของพลังงาน นโยบายพลังงานแช่แข็งได้25. หมายเลขกฎหมายสาม: พลังงานสาร พลังงานก่อให้เกิดความเพิ่มพลัง และเพื่อ ไม่ตัว 26. สิ่งเดียวที่ช่วยให้กฎหมายเลขสามจากชั้นนำถึงสถานการณ์ที่คนมีอำนาจทั้งหมด เป็นวิธีที่เราใช้กฎหมายหนึ่งและสอง 27.ทำเราตั้งค่ากฎเพื่อ ให้บางท่านไม่สะสมพลังงานมากเกินไป และเพื่อ ให้พวกเขาไม่สามารถประดิษฐานของสิทธิ์ในนโยบายหรือไม่ 28. นั่นเป็นคำถามของประชาธิปไตย และคุณสามารถดูแต่ละกฎหมายเหล่านี้ที่ทำงานในเรื่องราวข่าวสารใด ๆ 29 แรงงานค่าจ้างต่ำจัดระเบียบจะได้รับค่าจ้างสูงขึ้น น้ำมันบริษัทผลักดันเพื่อให้ได้ไลน์ใหญ่อนุมัติ คู่รักเกย์ และเลสเบี้ยนหากฎหมายจะแต่งงานกับ ผู้ปกครองเมืองความสำคัญโรงเรียน 30. คุณอาจสนับสนุนความพยายามเหล่านี้ หรือไม่ ไม่ว่า คุณได้สิ่งที่ต้องขึ้นอยู่กับวิธีเก่งมีอำนาจ ซึ่งเราก็เป็นอะไรที่คุณสามารถทำมีประสิทธิภาพสูงในชีวิตของประชาชน 31. ที่นี่ มันเป็นประโยชน์ที่จะคิดในแง่ของความรู้ ความท้าทายของคุณคือการ เรียนรู้วิธีการอ่านไฟ และเขียนพลังงาน 32. การอ่านหมายถึงให้ความสนใจกับข้อความเป็นจำนวนมากของพลังงานที่คุณสามารถ ผมไม่ได้หมายถึง หนังสือเท่านั้น ผมหมายถึง เห็นสังคมเป็นชุดของข้อความ33. ไม่ชอบวิธีสิ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัย หรือเมือง หรือประเทศของคุณ ข้อมูลที่มีชนิดของพลังงาน ใส่เสื้อผ้าแบบใด 34. เข้าใจทำไมมันเปิดออกด้วยวิธีนี้ ที่ทำให้มันนั้น และใครอยากให้มันดัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. ทุกวันในชีวิตของคุณที่คุณย้ายผ่านระบบของพลังงานที่คนอื่นทำ คุณรู้สึกพวกเขา? คุณเข้าใจพลังงาน? คุณรู้ไหมว่าทำไมมันเป็นเรื่องสำคัญ?
2 อำนาจเป็นสิ่งที่เรามักจะอึดอัดพูดคุยเกี่ยวกับ ที่จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตของพลเมืองวิธีการที่เราอยู่ร่วมกันในชุมชน.
3 ในระบอบประชาธิปไตยอำนาจควรที่จะอยู่กับคนระยะเวลา.
4 พูดคุยใด ๆ เพิ่มเติมเกี่ยวกับอำนาจและผู้ที่จริงๆมีมันดูเหมือนเล็กน้อยสกปรกชั่วร้ายบางทีแม้.
5 แต่อำนาจไม่มากดีหรือชั่วโดยเนื้อแท้กว่าไฟไหม้หรือฟิสิกส์ มันก็คือ.
6 มันควบคุมวิธีการรูปแบบของรัฐบาลใด ๆ ที่ทำงาน มันเป็นตัวกำหนดผู้ที่ได้รับการกำหนดกฎของเกม.
7 ดังนั้นการเรียนรู้วิธีการใช้พลังงานดำเนินการเป็นกุญแจสำคัญในการที่มีประสิทธิภาพการดำเนินการอย่างจริงจังและไม่ถูกนำประโยชน์จาก.
8 ในบทเรียนนี้เราจะดูที่อำนาจที่มาจากวิธีการที่จะใช้สิทธิและสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตของประชาชน.
9 ขอเริ่มต้นด้วยคำนิยามพื้นฐาน อำนาจคือความสามารถที่จะทำให้คนอื่น ๆ ทำในสิ่งที่คุณจะต้องให้พวกเขาทำ.
10 ของหลักสูตรนี้เล่นออกใน arenas ทั้งหมดของชีวิตจากครอบครัวที่ทำงานเพื่อความสัมพันธ์ของเรา.
11 เรามุ่งเน้นการเวทีประชาสังคมที่อำนาจหมายถึงการชุมชนเพื่อสร้างทางเลือกและการดำเนินการที่คุณต้องการ.
12 มีหกแหล่งที่มาหลักของการใช้พลังงานของเทศบาลมี แรกมีพละกำลังและความสามารถในการใช้ความรุนแรง การควบคุมการใช้วิธีการบังคับไม่ว่าจะเป็นในตำรวจหรืออาสาสมัครที่เป็นอำนาจที่มากที่สุดครั้งแรก.
13 แหล่งที่มาหลักของการใช้พลังงานที่สองคือความมั่งคั่ง รายได้สร้างความสามารถในการซื้อผลและสั่งซื้อได้เกือบทุกชนิดอื่น ๆ ของอำนาจ.
14 รูปแบบที่สามของอำนาจรัฐคือการกระทำของรัฐบาล นี้คือการใช้กฎหมายและระบบราชการที่จะบังคับให้คนที่จะทำหรือไม่ทำบางสิ่งบางอย่าง.
15 ในระบอบประชาธิปไตยสำหรับตัวอย่างเช่นเราคนเหตุผลให้รัฐบาลอำนาจของตนผ่านการเลือกตั้ง ในการปกครองแบบเผด็จการอำนาจรัฐโผล่ออกมาจากการคุกคามของแรงที่ไม่ได้รับความยินยอมจากปกครอง.
16 ประเภทที่สี่ของพลังงานเป็นบรรทัดฐานของสังคมหรือสิ่งที่คนอื่นคิดว่าไม่เป็นไร บรรทัดฐานไม่ได้มีเครื่องจักรส่วนกลางของรัฐบาล พวกเขาทำงานในวิธีที่นุ่มนวลเพื่อนเพื่อเพื่อน.
17 แน่นอนพวกเขาสามารถทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมและแม้กระทั่งการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย คิดเกี่ยวกับวิธีบรรทัดฐานรอบแต่งงานความเท่าเทียมกันในวันนี้มีการพัฒนา.
18 รูปแบบที่ห้าของพลังงานเป็นความคิด ความคิดของแต่ละบุคคลเสรีภาพพูดหรือเชื้อชาติความเท่าเทียมกันสามารถสร้างจำนวนไม่มีที่สิ้นสุดของอำนาจถ้ามันกระตุ้นให้คนพอที่จะเปลี่ยนความคิดและการกระทำของพวกเขา.
19 และเพื่อให้เป็นแหล่งที่หกของพลังงานเป็นจำนวนมากของมนุษย์ มวลแกนนำของคนที่จะสร้างพลังงานโดยการแสดงความรุนแรงโดยรวมของความสนใจและถูกต้องตามกฎหมายโดยอ้าง.
20 คิดว่าฤดูใบไม้ผลิอาหรับหรือการเพิ่มขึ้นของงานเลี้ยงน้ำชา ฝูงชนนับ.
21 เหล่านี้เป็นแหล่งที่มาหลักหกของการใช้พลังงานพลังงานเป็นสิ่งที่.
22 ดังนั้นตอนนี้ลองคิดเกี่ยวกับวิธีการใช้พลังงานดำเนินการ มีสามกฎหมายของการใช้พลังงานที่คุ้มค่าการตรวจสอบมี.
23 จำนวนกฎหมายที่หนึ่ง: อำนาจจะไม่คงที่ มันเสมอทั้งการสะสมหรือเนื้อที่ในเวทีประชาสังคม ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้รับการกระทำคุณกำลังถูกดำเนินการใด ๆ .
24 จำนวนกฎหมายที่สอง: อำนาจก็เหมือนน้ำ มันไหลเหมือนปัจจุบันผ่านชีวิตประจำวัน การเมืองคือการทำงานของการควบคุมที่ไหลไปในทิศทางที่คุณต้องการ นโยบายคือความพยายามที่จะแช่แข็งและขยายเวลาการไหลโดยเฉพาะอย่างยิ่งของอำนาจ นโยบายเป็นอำนาจแช่แข็ง.
25 จำนวนกฎหมายที่สาม: สารพลังงาน เพาเวอร์นิสัยอำนาจมากขึ้นและเพื่อไม่อ่อนแอ.
26 สิ่งเดียวที่ช่วยให้จำนวนกฎหมายสามคนจากที่นำไปสู่สถานการณ์ที่เพียงคนเดียวมีอำนาจทั้งหมดเป็นวิธีการที่เราใช้กฎหมายที่หนึ่งและสอง.
27 กฎการทำในสิ่งที่เราตั้งขึ้นเพื่อให้คนไม่กี่คนไม่สะสมอำนาจมากเกินไปและเพื่อให้พวกเขาไม่สามารถประดิษฐานสิทธิ์ของพวกเขาในการกำหนดนโยบาย?
28 นั่นเป็นคำถามของประชาธิปไตยและคุณสามารถเห็นแต่ละกฎหมายเหล่านี้ในที่ทำงานในเรื่องข่าวใด ๆ .
29 ค่าจ้างแรงงานต่ำที่จะได้รับการจัดระเบียบจ่ายที่สูงขึ้น บริษัท น้ำมันจะได้รับการผลักดันท่อขนาดใหญ่ที่ได้รับการอนุมัติ เกย์และเลสเบี้ยนคู่แสวงหาสิทธิตามกฎหมายที่จะแต่งงาน พ่อแม่ผู้ปกครองเมืองเรียกร้องให้โรงเรียนใบ.
30 คุณอาจจะสนับสนุนความพยายามเหล่านี้หรือไม่ ไม่ว่าคุณจะได้รับสิ่งที่คุณต้องการขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นคนเก่งที่มีอำนาจซึ่งจะทำให้เราที่สุดกับสิ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตของประชาชน.
31 นี่มันมีประโยชน์ที่จะคิดในแง่ของความรู้ ความท้าทายของคุณคือการเรียนรู้วิธีการอ่านและเขียนพลังอำนาจ.
32 หากต้องการอ่านอำนาจหมายถึงการให้ความสนใจมากที่สุดเท่าที่ตำราของการใช้พลังงานเท่าที่คุณสามารถ ผมไม่ได้หมายถึงเฉพาะหนังสือ ผมหมายถึงการเห็นสังคมเป็นชุดของตำรา.
33 ไม่ชอบวิธีการสิ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัยหรือเมืองหรือประเทศของคุณหรือไม่ แผนที่ออกที่มีสิ่งที่ชนิดของพลังงานรบในสิ่งที่ระบบ.
34 เข้าใจว่าทำไมมันเปิดออกด้วยวิธีนี้ผู้ที่ทำให้มันและผู้ที่ต้องการที่จะให้มันเพื่อให้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ทุกๆ วันในชีวิตของคุณ คุณย้ายผ่านระบบของอำนาจที่คนอื่นทำ คุณรู้สึกมัน คุณเข้าใจพลัง ? คุณรู้ไหมว่าทำไมมันสำคัญ ?2 . พลังงานเป็นสิ่งที่เรามักจะอึดอัดพูดคุยเกี่ยวกับ ที่เป็นจริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีวิตและวิธีที่เราอาศัยอยู่ร่วมกันในชุมชน3 . ในระบอบประชาธิปไตย อำนาจ ต้องอยู่กับคน ระยะเวลา4 . เพิ่มเติมใด ๆพูดคุยเกี่ยวกับอำนาจ และผู้ที่ได้มันดูสกปรกไปหน่อย บางทีก็ร้าย5 . แต่อำนาจก็ไม่มี inherently ดีหรือชั่วกว่าไฟหรือฟิสิกส์ มันแค่6 . มันบังคับว่ารูปแบบใด ๆของการทำงานของรัฐบาล จะกำหนดผู้ที่ได้รับการตรวจสอบกฎของเกม7 . เพื่อเรียนรู้พลังงานเป็นคีย์ถูกผล ถูกถ่ายอย่างจริงจัง และไม่ถูกเอาเปรียบ8 . ในบทนี้ เราจะดูที่อำนาจมาจาก ยังไงก็ออกกำลังกายและคุณสามารถทำอะไรที่จะกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตประชาชน9 . เริ่มจากคำนิยามพื้นฐาน พลังงานคือความสามารถที่จะทำให้คนอื่นทำในสิ่งที่คุณต้องการให้ทำ10 . แน่นอน นี่เล่นออกใน arenas ของชีวิตจากครอบครัวที่ทำงานเพื่อความสัมพันธ์ของเรา11 . โฟกัสของเราอยู่บนเวทีประชาคม ซึ่งอำนาจหมายถึงการที่ชุมชนเพื่อให้ตัวเลือกและใช้การกระทำที่คุณต้องการ12 . มีหกแหล่งที่มาหลักของจังหวัดอำนาจ อย่างแรก มีบังคับทางกายภาพและความสามารถในการใช้ความรุนแรง ควบคุมวิธีการบังคับ ไม่ว่าตำรวจหรือทหาร พลังที่พื้นฐานที่สุดของ13 . แหล่งที่มาหลักที่สองของอำนาจ มีความมั่งคั่ง สร้างเงิน ความสามารถในการซื้อและการซื้อเกือบทุกประเภทอื่น ๆของพลังงาน14 . รูปแบบที่สามของอำนาจรัฐ การกระทำของรัฐบาล นี้คือ การใช้กฎหมาย และระบบราชการ เพื่อให้คนอยากทำหรือไม่ทำบางอย่างได้15 . ในประเทศประชาธิปไตย เช่น เรา คน ในทางทฤษฎี ให้รัฐบาลของอำนาจผ่านการเลือกตั้ง ในรัฐเผด็จการ อำนาจรัฐ ที่โผล่ออกมาจากภัยคุกคามของการบังคับ ไม่ใช่การยินยอมของควบคุม16 . ประเภทที่สี่ของอำนาจเป็นบรรทัดฐานทางสังคม หรือสิ่งที่คนอื่นคิดว่า โอเค แบบไม่มีจำกัด เครื่องจักรของรัฐบาล พวกเขาทำงานในวิธีที่เบา เพื่อนเพื่อเพื่อน17 . พวกเขาสามารถทำให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมและการเปลี่ยนแปลงกฎหมาย คิดเกี่ยวกับวิธีการที่เกณฑ์ประมาณความเท่าเทียมกันการแต่งงาน วันนี้ จะ พัฒนา18 . รูปที่ 5 ของพลังงานความคิด ความคิดเสรีภาพบุคคลพูด หรือความเสมอภาคทางเชื้อชาติ สามารถสร้างพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุดถ้ามันกระตุ้นคนมากพอที่จะเปลี่ยนวิธีคิดและการกระทำ19 . และแหล่งที่มาของพลังงานที่หกตัวเลขมากมายของมนุษย์ มวลเสียงของประชาชนสร้างพลังด้วยการแสดงความเข้มโดยรวมของดอกเบี้ยและยืนยันความถูกต้องตามกฎหมาย20 . คิดของฤดูใบไม้ผลิอาหรับ หรือการเพิ่มขึ้นของพรรคชา ฝูงชนนับ21 . เหล่านี้หกแหล่งที่มาหลักของพลังงาน แล้วพลังงานคืออะไร22 . ดังนั้น ตอนนี้ขอคิดเรื่องพลังงาน มีอยู่สามกฎหมายของพลังงานมูลค่าการตรวจสอบ .23 . กฎหมายหนึ่ง พลังจะไม่คงที่ มันเสมอให้สะสม หรือเนื้อที่ในเวทีประชาสังคม ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้รับการกระทำที่คุณกำลังทำอยู่24 . กฎหมายหมายเลขสอง : พลังเป็นเหมือนน้ำ มันไหลเหมือนกระแสน้ำที่ผ่านชีวิต การเมืองคืองานของการควบคุมที่ไหลในทิศทางที่คุณต้องการ นโยบายคือความพยายามที่จะแช่แข็งและขยายเวลาการไหลเฉพาะของพลัง นโยบายพลังงาน แช่แข็ง25 . มาตรา 3 : สารพลังงาน อำนาจเป็นบ่อเกิดของพลัง และไม่ให้ความรู้สึก .26 . สิ่งเดียวที่ทำให้หมายเลขสามจากกฎหมายสู่สถานการณ์ที่เพียงคนเดียว มีอำนาจทั้งหมดเป็นวิธีที่เราใช้กฎหมายหนึ่งและสอง27 . กฎอะไรเราตั้งเพื่อให้คนไม่สะสมพลังงานมากเกินไป และเพื่อให้พวกเขาไม่สามารถประดิษฐาน สิทธิพิเศษของพวกเขาในนโยบาย28 . นั่นคือคำถามของประชาธิปไตย และคุณสามารถดูแต่ละกฎหมายเหล่านี้ในการทำงานในเรื่องข่าว .29 . จัดระเบียบแรงงานค่าจ้างต่ำไปสูงจ่าย บริษัทน้ำมันดันไปท่อใหญ่อนุมัติ เกย์และเลสเบี้ยนคู่แสวงหาสิทธิทางกฎหมายที่จะแต่งงาน ผู้ปกครองเมืองความต้องการพิเศษโรงเรียน30 . คุณอาจจะสนับสนุนความพยายามเหล่านี้หรือไม่ ไม่ว่าคุณจะได้รับสิ่งที่คุณต้องการขึ้นอยู่กับว่าคุณหญิงท่านที่มีอำนาจ ซึ่งนำเรา สุดท้ายแล้ว คุณสามารถทำอะไรที่จะกลายเป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นในชีวิตประชาชน31 . นี่ มันมีประโยชน์ที่จะคิดในแง่ของการส่งเสริมการอ่าน ความท้าทายของคุณคือการ เรียนรู้วิธีการอ่าน และเขียน พลังอำนาจ32 . อ่านพลังหมายความว่าให้ความสนใจกับข้อความของพลังงานมากเท่าที่คุณสามารถ ผมไม่มีหนังสือหมายความว่าไม่เพียง ฉันหมายถึง เห็นสังคมเป็นชุดของข้อความ33 . ไม่เหมือนสิ่งที่อยู่ในมหาวิทยาลัยหรือเมืองหรือประเทศของคุณ แผนที่ที่มีชนิดของพลังงาน ด้วยระบบ .34 . เข้าใจแล้วว่าทำไมมันกลายเป็นอย่างนี้ ใครทำ แล้วใครอยากจะเก็บมันไว้อย่างนั้น