In this doctrine, the consciousness

In this doctrine, the consciousness of one living being never really comes to an end. Rather, with each rebirth, one’s consciousness does not start completely new instead builds on previous lives.

To this school, the external world has no permanence, as our consciousness is always changing. So nothing can exist independently of the mind.

This is not to say that the whole world is the result of only one consciousness. Rather the world is the result of the consciousness of each person put together.

The affect of our karmic actions is said to “perfume” or contribute to the conditioning of our consciousness.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในหลักคำสอนนี้ สติของสิ่งมีชีวิตหนึ่งเคยมาถึงสิ้นสุด ค่อนข้าง มีเกิดใหม่แต่ละ ของสติไม่ได้เริ่มต้นใหม่ทั้งหมดแต่สร้างในชีวิตก่อนหน้านี้โรงเรียนนี้ โลกภายนอกได้ไม่ permanence เป็นสติของเราจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึง ไม่สามารถอยู่เป็นอิสระจากจิตใจจึงไม่ต้องพูดว่า โลกทั้งโลกเป็นผลของสติที่เดียวเท่านั้น แต่ โลกเป็นผลของจิตสำนึกของแต่ละคนใส่กันผลของการกระทำของเรา karmic กล่าวว่า "น้ำหอม" หรือการปรับของจิตสำนึกของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในหลักคำสอนนี้จิตสำนึกของการเป็นที่อยู่อาศัยอย่างใดอย่างหนึ่งไม่เคยมาถึงจุดสิ้นสุด แต่ที่มีการเกิดใหม่แต่ละจิตสำนึกของคนที่ไม่ได้เริ่มต้นใหม่แทนที่จะสร้างในชีวิตก่อนหน้านี้. เพื่อให้โรงเรียนนี้โลกภายนอกมีความคงทนไม่เป็นจิตสำนึกของเราเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นอะไรที่สามารถอยู่ได้อย่างอิสระของจิตใจ. นี้ไม่ได้ที่จะบอกว่าโลกทั้งโลกเป็นผลมาจากเพียงหนึ่งสติ แต่โลกที่เป็นผลมาจากจิตสำนึกของแต่ละคนใส่กัน. ส่งผลกระทบต่อการกระทำกรรมของเรามีการกล่าวถึง "น้ำหอม" หรือนำไปสู่เครื่องของจิตสำนึกของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในลัทธินี้ จิตของมนุษย์อยู่ไม่เคยสิ้นสุด แต่กับการเกิดใหม่ของจิตสำนึกแต่ละคนไม่ได้เริ่มต้นใหม่ทั้งหมดแทนสร้างในชีวิตก่อนหน้านี้

โรงเรียนนี้ โลกภายนอกได้ไม่ถาวร เมื่อจิตของเรามีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ดังนั้นอะไรที่สามารถอยู่ได้อย่างอิสระของจิตใจ .

นี้ไม่ได้ที่จะกล่าวว่าโลกทั้งโลก ผลเดียว สติ แต่โลกคือผลของจิตสำนึกของแต่ละคนใส่กัน

ต่อการกระทำกรรมของเราว่า " น้ำหอม " หรือมีส่วนร่วมในการปรับ




สติของเรา