Functions of the Plant Root Despite

Functions of the Plant Root
Despite being inconspicuous because they are normally hidden underground, the plant root system performs various functions which are essential to growth and development. The extent of underground expansion of this plant structure serves as limitation in the growth of the plant. Thus potted plants usually exhibit slow growth but once the roots leak out from the bottom of the pot and penetrate into the ground, growth rate accelerates.

The functions of the plant root system include:
1. Anchorage and support. The plant root system anchors the plant body to the soil and provides physical support. Redwood trees (a gymnosperm) about 100 meters tall have stood erect for thousand years only because millions of individual fibrous roots dig into the ground, even though the depth of penetration is only up to about 5 meters. In general, however, taproot system provides more effective anchorage such that they are more resistant to toppling during storms.

2. Absorption and conduction. The plant root system absorbs water, oxygen and nutrients from the soil in mineral solution, mainly through the root hairs. They are capable of absorbing inorganic nutrients in solution even against concentration gradient. From the root, these are moved upward. Plants with a fibrous root system are more efficient in absorption from shallow sources.

In the desert plants called phreatophytes like the mesquite, the roots seek permanent underground water reserves. These plants are water indicators and knowledge of such plants has been put to use by digging wells where they grow (Went and The Editors of Life 1963).

3. Storage. The root serves as storage organ for water and carbohydrates as in the modified, swollen roots of carrot, sweet potato (camote) and yam bean (sinkamas). Fibrous roots generally store less starch than taproots. Some roots are capable of storing large amounts of water; the taproots of some desert plants store more than 70 kg of water (Moore et al. 2003). (Click to read Starchy Root Crops, Tuber Crops and Corm Crops)

4. Photosynthesis. Some roots are capable of performing photosynthesis, as in the epiphytic orchids and aerial roots of mangrove trees.

5. Aeration. Plants that grow in stagnant water or other watery places have modified roots called pneumatophores to which oxygen from the air diffuses.

6. Movement. In many bulb- and corm-forming plants, contractile roots pull the plant downward into the soil where the environment is more stable.

7. Reproduction. The plant root system also serves as a natural means of perpetuating a species. In mature agoho or horsetail tree (Casuarina equisetifolia) and certain plants, clonal seedlings or offshoots are commonly seen growing profusely around the trunk from horizontally growing roots. Likewise, new plants emerge from left-over tuberous roots after harvest in fields grown to sweet potato (Ipomaea batatas) and yam bean (Pachyrhizus erosus). As a rule, plants with a fibrous root system are easier to transplant than those with tap roots. (click here for more examples of plants that can be propagated by root cuttings).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หน้าที่ของรากพืช แม้จะไม่เด่น เพราะจะปกติซ่อนอยู่ใต้ดิน ระบบรากของพืชทำหน้าที่ต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนา ขอบเขตของการขยายรถไฟใต้ดินของโครงสร้างโรงงานนี้ทำหน้าที่เป็นข้อจำกัดในการเจริญเติบโตของพืช ดังนั้นพืชกระถางมักจะแสดงการเจริญเติบโตช้า แต่เมื่อรากรั่วจากด้านล่างของหม้อ และเจาะเข้าไปในพื้นดิน ช่วยเร่งอัตราการเติบโตการทำงานของระบบรากพืชได้แก่:1. Anchorage และสนับสนุน ระบบรากพืชเทียบร่างกายพืชดิน และให้การสนับสนุนทางกายภาพ เรดวูดต้นไม้ (gymnosperm มี) ประมาณ 100 เมตรต้องยืนยกปีพันล้านละ fibrous รากขุดลงในดิน เพราะแม้ว่าความลึกของการเจาะจะได้ประมาณ 5 เมตร ทั่วไป อย่างไรก็ตาม taproot ระบบให้ anchorage มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นที่พวกเขาจะทนต่อการโคลงเคลงระหว่างพายุ2. การดูดซึมและการนำ ระบบรากพืชดูดซับน้ำ ออกซิเจน และสารอาหารจากดินในสารละลายเกลือแร่ ส่วนใหญ่ผ่านทางขนราก พวกเขามีความสามารถในการดูดซับสารอาหารอนินทรีย์ในโซลูชันแม้กับการไล่ระดับความเข้มข้น จากราก เหล่านี้จะถูกย้ายขึ้นไป พืชที่ มีระบบราก fibrous มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการดูดซึมจากแหล่งน้ำตื้นในพืชทะเลทรายที่เรียกว่า phreatophytes เช่นการอ่าน รากหาน้ำใต้ดินแบบถาวรสำรอง พืชเหล่านี้มีน้ำตัวชี้วัด และความรู้ของพืชดังกล่าวได้รับการวางในการใช้ โดยการขุดบ่อซึ่งเติบโต (Went และบรรณาธิการในชีวิตปี 1963)3. เก็บของ หน้าที่หลักที่เป็นอวัยวะเก็บน้ำและคาร์โบไฮเดรตเช่นแก้ไข บวมรากของแครอท มันเทศ (camote) และยำวานิลลา (sinkamas) Fibrous รากโดยทั่วไปจะเก็บแป้งน้อยกว่ารากแก้ว บางรากจะสามารถเก็บน้ำ จำนวนมาก รากแก้วของพืชทะเลทรายบางเก็บน้ำ (Moore et al. 2003) มากกว่า 70 กก. (คลิกเพื่ออ่านแป้งรากพืช พืชหัว และ พืช Corm)4. การสังเคราะห์ด้วยแสง รากบางส่วนจะสามารถทำการสังเคราะห์แสง กล้วยไม้บนต้นไม้และรากอากาศของต้นไม้ป่าชายเลน5. อากาศ พืชที่ปลูกในน้ำนิ่งหรือน้ำอื่นได้แก้ไขเรียกว่า pneumatophores รากซึ่งออกซิเจนจากอากาศแพร่6. การเคลื่อนไหว ในรูปหลอด และ corm พืช ราก contractile ดึงพืชลงในดินที่สภาพแวดล้อมที่มีเสถียรภาพมากขึ้น7. ทำซ้ำ ระบบรากพืชจะทำหน้าที่เป็นวิธีธรรมชาติของการดำเนินการสายพันธุ์ ในผู้ใหญ่คา หรือต้นไม้หางม้า (สน) และพืชบางอย่าง ต้นกล้า clonal หรือ offshoots เห็นทั่วไปเติบโตไสวทั่วลำต้นรากที่เติบโตในแนวนอน ทำนองเดียวกัน พืชใหม่ออกมาจากรากเหลือ tuberous โป่งหลังการเก็บเกี่ยวในเขตปลูกมันเทศ (Ipomaea batatas) และมันแกว (มันแกว) เป็นกฎ พืชที่ มีระบบราก fibrous จะง่ายต่อการปลูกกว่ามีแตะราก (คลิกที่นี่ตัวอย่างเพิ่มเติมของพืชที่สามารถขยายพันธุ์ โดยการตัดราก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟังก์ชั่นของพืชราก
แม้จะไม่เด่นเพราะพวกเขาจะซ่อนอยู่ตามปกติใต้ดินระบบรากพืชที่ทำหน้าที่ต่าง ๆ ที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการพัฒนา ขอบเขตของการขยายตัวของโครงสร้างใต้ดินพืชชนิดนี้ทำหน้าที่เป็นข้อ จำกัด ในการเจริญเติบโตของพืช . ดังนั้นพืชกระถางมักจะมีการเจริญเติบโตช้า แต่เมื่อรากรั่วไหลออกจากด้านล่างของหม้อและเจาะลงไปในพื้นดินที่อัตราการขยายตัวเร่งการทำงานของระบบรากพืชรวมถึง: 1 เคอเรจและการสนับสนุน ระบบรากพืชเบรกร่างกายพืชดินและให้การสนับสนุนทางกายภาพ ต้นไม้เรดวูด (ก gymnosperm) ประมาณ 100 เมตรสูงได้ยืนตรงสำหรับพันปีเพียงเพราะนับล้านเส้นรากแต่ละขุดลงไปในพื้นดินแม้ว่าลึกของการเจาะเป็นเพียงขึ้นไปประมาณ 5 เมตร โดยทั่วไปอย่างไรก็ตามระบบรากแก้วให้ทอดสมอมีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นที่พวกเขามีความทนทานมากขึ้นในการโค่นล้มในช่วงพายุ. 2 ดูดซึมและการนำ ระบบรากพืชดูดซับน้ำ, ออกซิเจนและสารอาหารจากดินในการแก้ปัญหาแร่ส่วนใหญ่ผ่านรากขน พวกเขามีความสามารถในการดูดซับสารอาหารนินทรีย์ในการแก้ปัญหาได้แม้กับความเข้มข้นของการไล่ระดับสี จากรากเหล่านี้จะปรับตัวดีขึ้น พืชที่มีระบบรากฝอยมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการดูดซึมจากแหล่งน้ำตื้น. ในพืชทะเลทรายที่เรียกว่า phreatophytes เหมือนซีซั่นที่รากแสวงหาถาวรสำรองน้ำบาดาล พืชเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดน้ำและความรู้ของพืชดังกล่าวได้รับนำไปใช้โดยการขุดหลุมที่พวกเขาเติบโต (ไปบรรณาธิการของชีวิต 1963). 3 การเก็บรักษา รากทำหน้าที่เป็นอวัยวะสำหรับการจัดเก็บน้ำและคาร์โบไฮเดรตในขณะที่การแก้ไขรากบวมของแครอทมันเทศ (camote) และมันเทศถั่ว (sinkamas) เส้นรากทั่วไปเก็บแป้งน้อยกว่า taproots รากบางคนมีความสามารถในการจัดเก็บน้ำจำนวนมาก; taproots ของพืชทะเลทรายบางร้านค้ากว่า 70 กก. น้ำ (มัวร์ et al. 2003) (คลิกเพื่ออ่านพืชแป้งรากพืชและพืชหัว Corm) 4 การสังเคราะห์แสง รากบางคนมีความสามารถในการดำเนินการสังเคราะห์แสงในขณะที่กล้วยไม้อิงอาศัยและรากอากาศของต้นไม้โกงกาง. 5 การเติมอากาศ พืชที่เจริญเติบโตได้ในน้ำนิ่งหรือสถานที่อื่น ๆ ที่น้ำได้แก้ไข pneumatophores เรียกว่ารากที่กระจายออกซิเจนจากอากาศ. 6 การเคลื่อนไหว ในหลาย bulb- และพืชหัวขึ้นรูป, รากพืชหดตัวดึงลงลงไปในดินที่สภาพแวดล้อมที่มีเสถียรภาพมากขึ้น. 7 การทำสำเนา ระบบรากของพืชยังทำหน้าที่เป็นวิธีธรรมชาติของฐานสายพันธุ์ ใน agoho ผู้ใหญ่หรือต้นไม้หางม้า (สนทะเล) และพืชบางต้นกล้า clonal หรือหน่อมักจะเห็นการเติบโตอย่างล้นเหลือรอบลำต้นจากรากเจริญเติบโตในแนวนอน ในทำนองเดียวกันโรงงานใหม่โผล่ออกมาจากซ้ายมากกว่ารากสะสมอาหารหลังการเก็บเกี่ยวในสาขาเติบโตขึ้นมันเทศ (batatas Ipomaea) และมันเทศถั่ว (มันแกว) ตามกฎพืชที่มีระบบรากฝอยจะง่ายต่อการปลูกกว่าผู้ที่มีรากประปา (คลิกที่นี่เพื่อดูตัวอย่างเพิ่มเติมของพืชที่สามารถขยายพันธุ์โดยการตัดราก)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หน้าที่ของรากพืชแม้จะไม่เด่นเพราะพวกเขาเป็นปกติซ่อนไว้ใต้ดิน ระบบรากพืช ดำเนินการฟังก์ชันต่าง ๆที่จำเป็นในการเจริญเติบโตและการพัฒนา ขอบเขตของการขยายตัวของโครงสร้างพืชใต้ดิน ซึ่งเป็นข้อจำกัดในการเติบโตของพืช ดังนั้นไม้กระถางมักจะมีการเจริญเติบโตช้า แต่เมื่อรากลอยออกมาจากก้นหม้อและเจาะลงไปในดิน อัตราการเร่ง .การทำงานของระบบรากพืช ได้แก่1 . แองเคอเรจและการสนับสนุน ระบบรากพืชยึดร่างกายพืชกับดินและให้การสนับสนุนทาง เรดวูดต้นไม้ ( จิมโนสเปิร์ม ) สูงประมาณ 100 เมตร ได้ยืนตั้งพันปีเท่านั้น เพราะล้านของบุคคลมีรากขุดลงไปในพื้นดินถึงความลึกของจะถึงประมาณ 5 เมตร แต่โดยทั่วไประบบรากแก้วให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นเช่นที่พวกเขามีความแตกต่างมากขึ้นทนต่อ toppling ในระหว่างพายุ2 . การดูดซึมและการ . ระบบรากพืชดูดน้ำ ออกซิเจน และสารอาหารจากดินแร่ โซลูชั่น ส่วนใหญ่ผ่านรากขน พวกเขามีความสามารถในการดูดซับสารอาหารอนินทรีย์สารละลายต่อความเข้มข้นของการไล่ระดับสี . จากรากเหล่านี้จะย้ายขึ้น เป็นพืชที่มีระบบรากเส้นจะมีประสิทธิภาพในการดูดซึมจากแหล่งที่ตื้นในทะเลทรายพืชที่เรียกว่า phreatophytes เช่นเมสกีต , รากแสวงหาน้ำสำรองใต้ดินแบบถาวร พืชเหล่านี้เป็นตัวชี้วัดน้ำและความรู้ของพืชดังกล่าวถูกใช้โดยการขุดบ่อน้ำมันที่พวกเขาเติบโต ( ไปและบรรณาธิการของชีวิต 1963 )3 . กระเป๋า . รากทำหน้าที่เป็นอวัยวะสำหรับจัดเก็บน้ำและคาร์โบไฮเดรต เช่น ในการ บวม รากของแครอท มันฝรั่งหวาน ( คาโมเต้ ) และมันแกว ( sinkamas ) รากแก้วโดยทั่วไปร้านแป้งน้อยกว่ารากแก้ว . รากมีความสามารถในการจัดเก็บจำนวนมากของน้ำ รากแก้วของพืชทะเลทรายร้านมากกว่า 70 กิโลกรัมของน้ำ ( Moore et al . 2003 ) ( คลิกเพื่ออ่านพืชรากพืชและแป้งหัวหัวพืช )4 . การสังเคราะห์ด้วยแสง รากสามารถแสดงการสังเคราะห์แสงในกล้วยไม้ epiphytic และภาพถ่ายทางอากาศของรากของไม้ป่าชายเลน .5 . อากาศ พืชที่ปลูกในน้ำขังแฉะๆ หรือสถานที่ซึ่งเรียกว่ารากแก้ไข pneumatophores ออกซิเจนจากอากาศกระจาย .6 . การเคลื่อนไหว หลายหลอดและหัวขึ้นรูปพืช รากได้ดึงพืชลงในดินที่เป็นสภาพแวดล้อมที่มีเสถียรภาพมากขึ้น7 . การสืบพันธุ์ ระบบรากของพืชยังทำหน้าที่เป็นธรรมชาติวิธีการ perpetuating สปีชีส์ ในผู้ใหญ่ agoho หรือต้น horsetail ( สนทะเล ) และพืชบางอย่าง โดยใช้รูปแบบหรือ offshoots มักเห็นการเติบโตอย่างมากรอบลำต้นตามแนวนอนที่เติบโตจากราก อนึ่ง โรงงานใหม่จะเหลือรากสะสมอาหารหลังการเก็บเกี่ยวในเขตโตมันเทศ ( ipomaea batatas ) และมันแกว ( มันแกว ) เป็นกฎ เป็นพืชที่มีระบบรากเส้นใยจะง่ายต่อการปลูกถ่ายมากกว่าผู้ที่มีรากเคาะ ( คลิกที่นี่สำหรับตัวอย่างเพิ่มเติมของพืชที่สามารถขยายพันธุ์โดยการตัดราก )