A study of methods to preserve kefi

A study of methods to preserve kefir grains showed that grains stored at −20°C for
120 d had the same microflora profile and produced kefir with the same rheological
characteristics, acidity, and carbon dioxide content as kefir produced from nonstored
grains. Grains stored at 4°C and then used to inoculate milk produced inferior
quality kefir.71 Lyophilizing kefir grains has also been used as a way of producing
starter cultures for industrial production.72 However, a study of the properties of kefir
grains that had been lyophilized and then stored for 1–3 months in packages made
from films with different water and oxygen permeability showed that the rehydrated
grains were slower and less able to lower pH, produced less acidity, had decreasedlactose utilization, and a lower lactic acid production than fresh grains. The bacterial
profile of the rehydrated grains was also different than the fresh grains.73 This same
group compared freezing, refrigerating, air-drying, and lyophilization to preserve
kefir grains. They concluded after 10 months of storage that freezing and refrigeration
preserved acidification activity, whereas air-drying and lyophilization increased
lag phase and resulted in a lower initial rate of pH decrease.74
Traditionally, kefir grains have been replicated in cows’ milk. However, Abraham
and de Antoni11 have shown that the same grains that grow in cows’ milk can grow
and replicate in soybean milk. When soybean milk was used, the resulting grains
are more compact and smaller in size, and have a yellowish color—most likely due
to the protein. When the grains are added to the soybean milk, the pH is lower after
30 h than it is in cows’ milk. After 20 subcultures, the soybean-grown grains had a
higher protein content and lower polysaccharide content than the milk-grown grains,
although the microbial profiles of the two grains were similar.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาวิธีการเก็บรักษาเมล็ด kefir พบว่า เมล็ดที่เก็บไว้ที่ −20 ° C สำหรับ120 d มีจุลินทรีย์โพรไฟล์เดียว และผลิต kefir ด้วยไหลตัวเดียวกันลักษณะ ไวน์ และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เนื้อหาเป็น kefir ที่ผลิตจาก nonstoredธัญพืช เก็บที่ 4° C และใช้ปลูกฝีนมธัญพืชผลิตด้อยกว่าเมล็ด kefir Lyophilizing kefir.71 คุณภาพยังถูกใช้เป็นวิธีการผลิตเริ่มต้นวัฒนธรรมสำหรับอุตสาหกรรม production.72 อย่างไรก็ตาม การศึกษาคุณสมบัติของ kefirธัญพืชที่ lyophilized และเก็บไว้ทำแพคเกจ 1-3 เดือนแล้วจากภาพยนตร์ต่าง ๆ น้ำและออกซิเจน ซึมผ่านแสดงให้เห็นว่าการ rehydratedธัญพืชได้ช้า และน้อยสามารถลด pH กรดน้อยผลิต มีการใช้ decreasedlactose และการผลิตกรดแลคติกต่ำกว่าธัญพืชสด แบคทีเรียโปรไฟล์ของ rehydrated เมล็ดก็แตกต่าง grains.73 สดเดียวกันนี้เมื่อเทียบกลุ่มแช่แข็ง แช่ air-drying และเป็น ๆ เพื่อรักษาkefir ธัญพืช พวกเขาได้ข้อสรุปหลังจาก 10 เดือนเก็บของที่แช่แข็ง และแช่เย็นรักษากิจกรรมการเป็นกรด ในขณะที่เป็น ๆ และ air-drying เพิ่มขึ้นขั้นตอนล่าช้า และส่งผลให้อัตราเริ่มต้นต่ำกว่าค่า pH decrease.74ประเพณี kefir ธัญพืชได้ถูกจำลองแบบในน้ำนมของวัว อย่างไรก็ตาม อับราฮัมและ de Antoni11 ได้แสดงให้เห็นว่า สามารถปลูกเมล็ดเดียวที่เติบโตในน้ำนมของวัวและทำซ้ำในนมถั่วเหลือง ใช้เมื่อน้ำนมถั่วเหลือง ธัญพืชผลมีขนาดกระชับขึ้น และมีขนาดเล็กกว่า และมีสีเหลือง — มากที่สุดเนื่องจากปริมาณโปรตีน เมื่อมีเพิ่มเมล็ดถั่วเหลืองน้ำนม ค่า pH จะต่ำหลังh 30 กว่ามันอยู่ในน้ำนมของวัว หลังจาก 20 subcultures เมล็ดถั่วเหลืองที่ปลูกที่มีการปริมาณเนื้อหา และล่าง polysaccharide โปรตีนสูงกว่าธัญพืชนมโตแม้ว่าจะโพรไฟล์จุลินทรีย์ของธัญพืชทั้งสองคล้ายกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาวิธีการในการเก็บรักษาเมล็ด kefir แสดงให้เห็นว่าเมล็ดที่เก็บไว้ที่อุณหภูมิ -20 องศาเซลเซียสเป็นเวลา
120 D มีรายละเอียดจุลินทรีย์เดียวกันและผลิต kefir แบบเดียวกับที่ไหล
ลักษณะความเป็นกรดและเนื้อหาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็น kefir ผลิตจาก nonstored
ธัญพืช เมล็ดที่เก็บไว้ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสและใช้ในการฉีดวัคซีนแล้วหยิบนมด้อย
คุณภาพ kefir.71 Lyophilizing ธัญพืช kefir ยังได้ถูกนำมาใช้เป็นวิธีการในการผลิต
เชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้นสำหรับ production.72 อุตสาหกรรมอย่างไรก็ตามการศึกษาคุณสมบัติของ kefir เป็น
ธัญพืชที่ได้รับ แห้งแล้วเก็บไว้ได้นาน 1-3 เดือนในแพคเกจที่ทำ
จากหนังด้วยน้ำและออกซิเจนซึมผ่านที่แตกต่างกันแสดงให้เห็นว่า rehydrated
ธัญพืชได้ช้าลงและไม่สามารถที่จะลดค่า pH ผลิตเป็นกรดน้อยมีการใช้ decreasedlactose และการผลิตกรดแลคติกต่ำกว่าสด ธัญพืช แบคทีเรีย
รายละเอียดของธัญพืช rehydrated ก็ยังแตกต่างกันกว่า grains.73 สดเดียวกันนี้
กลุ่มเมื่อเทียบกับการแช่แข็งเย็น, เครื่องอบแห้งและแห้งแบบเยือกแข็งเพื่อรักษา
ธัญพืช kefir พวกเขาสรุปหลังจาก 10 เดือนของการจัดเก็บข้อมูลที่แช่แข็งและแช่เย็น
เก็บรักษาไว้กิจกรรมกรดในขณะที่อากาศแห้งและแห้งแบบเยือกแข็งเพิ่มขึ้น
ขั้นตอนล่าช้าและส่งผลให้อัตราการเริ่มต้นที่ลดลงของค่า pH decrease.74
ตามเนื้อผ้าธัญพืช kefir ได้รับการจำลองแบบในวัวนม แต่อับราฮัม
และ Antoni11 แสดงให้เห็นว่าเมล็ดเดียวกับที่เติบโตในวัวนมสามารถเติบโต
และทำซ้ำในนมถั่วเหลือง เมื่อน้ำนมถั่วเหลืองถูกนำมาใช้ธัญพืชที่เกิดขึ้น
มีขนาดกะทัดรัดมากขึ้นและมีขนาดเล็กกว่าและมีสีเหลืองมากที่สุดน่าจะเกิดจาก
โปรตีน เมื่อเมล็ดข้าวจะมีการเพิ่มนมถั่วเหลืองที่มีค่า pH ต่ำหลังจาก
30 ชั่วโมงกว่าที่เป็นอยู่ในวัวนม หลังจาก 20 วัฒนธรรม, เมล็ดถั่วเหลืองที่ปลูกมี
ปริมาณโปรตีนสูงและเนื้อหา polysaccharide ต่ำกว่าธัญพืชนมปลูก
แม้ว่าโปรไฟล์จุลินทรีย์ของทั้งสองธัญพืชมีความคล้ายคลึงกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาวิธีการรักษา kefir ธัญพืชธัญพืชพบว่า อุณหภูมิ 20 ° C สำหรับ บริษัท เวสเทิร์น120 D มีข้อมูลเดียวกันและผลิตจุลินทรีย์คีเฟอร์แบบเดียวกับการไหลลักษณะ ความเป็นกรด และคาร์บอนไดออกไซด์เนื้อหา kefir ผลิตจาก nonstoredธัญพืช ธัญพืชที่เก็บรักษาที่อุณหภูมิ 4 องศา C แล้วใช้ฉีดนมที่ด้อยกว่าคุณภาพ kefir.71 lyophilizing kefir ธัญพืชยังถูกใช้เป็นวิธีการผลิตเริ่มต้นวัฒนธรรมสำหรับอุตสาหกรรม production.72 อย่างไรก็ตาม การศึกษาคุณสมบัติของจุลินทรีย์ธัญพืชที่ได้รับการแห้งแล้วเก็บไว้ 1 – 3 เดือนในแพคเกจที่ทําจากภาพยนตร์ที่มีน้ำและออกซิเจนซึมผ่านได้ พบว่า ได้ทำการ รีไฮเดรทมธัญพืชได้ช้าลงและน้อยลงเพื่อลดความเป็นกรดสามารถผลิตกรดน้อย มีการใช้ decreasedlactose และลดการผลิตกรดแลคติกกว่าเมล็ดสด จากแบคทีเรียโปรไฟล์ของได้ทำการ รีไฮเดรทมธัญพืชยังแตกต่าง grains.73 สดเหมือนกันกลุ่มเปรียบเทียบ หนาว เย็น อากาศแห้ง และ Tool เพื่อรักษาคีเฟอร์เกรน พวกเขาสรุปหลังจาก 10 เดือนของกระเป๋าที่แช่แข็งและแช่แข็งรักษากิจกรรมทาง ในขณะที่อากาศแห้ง และเอนไซม์เพิ่มขึ้นlag phase และผลในอัตราเริ่มต้นต่ำ pH decrease.74ประเพณี , kefir ธัญพืชได้ถูกนำในน้ำนมวัว อย่างไรก็ตาม อับราฮัมและ de antoni11 แสดงเหมือนธัญพืชที่ปลูกในน้ำนมวัวสามารถเติบโตเลียนแบบในนมและถั่วเหลือง เมื่อนมถั่วเหลืองที่ใช้ ส่งผลให้เม็ดมีขนาดกะทัดรัดและมีขนาดเล็กในขนาด และสี เหลือง ส่วนใหญ่เนื่องจากกับโปรตีน เมื่อเมล็ดข้าวสาลีถูกเพิ่มให้กับนมถั่วเหลือง , pH จะลดลงหลัง30 ชั่วโมงกว่ามันในน้ำนมวัว หลังจาก 20 subcultures , ถั่วเหลืองที่ปลูกธัญพืชมีมีโปรตีนสูงและปริมาณพอลิแซกคาไรด์น้อยกว่านมโต ธัญพืชแม้ว่าโปรไฟล์ของจุลินทรีย์ 2 เม็ดมีลักษณะคล้ายคลึงกัน