การเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ: Ataxia
การวินิจฉัยการพยาบาลข้อที่ 1 เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงเนื่องจากร่างกายไม่ด้านควบคุมระดับน้ำตาลในห้างหุ้นส่วนจำกัดเลือดได้
จุดมุ่งหมาย
ไม่เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูง
ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อมูลอัตนัย
S: ผู้ป่วยบอกว่า "เป็นเบาหวานมาประมาณ 10 ปี"
S: ผู้ป่วยบอกว่า "ขาดยามาประมาณ 2 เดือน"
ข้อมูลวัตถุประสงค์
สำคัญสัญญาณ
O: DTX เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 57 มีค่าเท่ากับ
O: DTX เมื่อวันที่ 3 พ.ค. 57 มีค่าเท่ากับ 356 mg%
O : DTX เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 57 มีค่าเท่ากับ 330 mg%
O: DTX เมื่อวันที่ 5 พ.ค. 57 มีค่าเท่ากับ 205 mg%
O: ผู้ป่วยมีอาการซึมลงเหม่อลอย
O: สัญญาณชีพ T = 37.6 องศาเซลเซียส, P = 100 ครั้ง / นาที, R = 22 ครั้ง / นาที, BP = 160/100 มิลลิเมตรปรอทและความอิ่มตัวของออกซิเจน = 95% (เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 57)
เกณฑ์การประเมินผล
- ไม่พบภาวะ น้ำตาลในเลือดสูงเช่นมีอาการหน้าแดงตัวร้อนชีพจร เร็วปัสสาวะออกมากกระหายน้ำและความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
-vital สัญญาณอยู่ในเกณฑ์ปกติคือ T = 36.5-37.4 องศาเซลเซียส, P = 60-100 ครั้ง / นาที, R = 16 -241 ครั้ง / นาทีความดันโลหิต = 90 / 60-140 / 90mmHg
-DTX มีค่าปกติคือ 60-110 mg%
- ปัสสาวะไม่มีกลูโคสและคีโตน
-Intake เอาท์พุทค่าเท่ามีกัน
หัวเรื่อง: การพยาบาลความและเหตุผล
1 สังเกตอาการน้ำตาลในเลือดสูงเช่นกระสับกระส่ายหน้าแดงคลื่นไส้อาเจียนกระหายน้ำ ปัสสาวะมากซึมไม่รู้สึกตัวชีพจรเต้นเร็วเพื่อประเมินภาวะสภาพร่างกายของผู้ป่วยและให้การพยาบาลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
2 แนะนำญาติให้คอยสังเกตอาการน้ำตาลใน เลือดสูงของผู้ป่วยเช่นหน้าแดงตัวร้อนปัสสาวะออกมากหากพบอาการผิดปกติตามที่ได้ให้คำแนะนำให้ญาติรีบแจ้งพยาบาลทันทีเพื่อให้ญาติได้มีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
3 ดูแลตรวจสอบสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมงเพื่อประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วย ถ้าระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะพบว่ามีอุณหภูมิสูงขึ้นชีพจรเต้นเร็วความดันโลหิตสูงอัตราการหายใจจะเพิ่มขึ้นเพื่อให้การพยาบาลได้อย่างถูกต้อง
4 ติดตามผลการตรวจทางห้องปฎิ บัติการอย่างต่อเนื่องเช่นการตรวจ ปัสสาวะตรวจสอบเพื่อประเมินระดับน้ำตาลในปัสสาวะ
5 เจาะ DTX ตามแผนการรักษาของแพทย์เวลา 7.00 น. และ 15.00 น เพื่อประเมินภาวะน้ำตาลในเลือดสูงและ เพื่อให้การพยาบาลได้อย่างถูกต้องเหมาะสม
6 ดูแลให้อินซูลินปกติ 8-10 หน่วย SC ตามแผนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการ ภาวะน้ำตาลในเลือดเช่นหน้ามืดใจสั่นเหงื่อออกตาพร่าชาตามปลายมือปลายเท้าเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดที่มีค่าสูงเป็นชนิดอ่อนถึงปานกลางและแนะนำ ญาติสังเกตอาการข้างเคียงของภาวะน้ำตาล ในเลือดต่ำเช่นหน้ามืดใจสั่นเหงื่อออกตาพร่าให้แจ้งพยาบาล
7 ดูแลให้ NPH อินซูลิน 12 หน่วย SC ตามแผนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการ ภาวะน้ำตาลในเลือดเช่นหน้ามืดใจสั่นเหงื่อออกตาพร่าชาตามปลายมือปลายเท้าเพื่อลดระดับน้ำตาลในเลือดที่มีค่าสูงเป็นชนิดอ่อนถึงปานกลางและแนะนำญาติสังเกต อาการข้างเคียงของภาวะน้ำตาลในเลือด ต่ำเช่นหน้ามืดใจสั่นเหงื่อออกตาพร่าให้แจ้งพยาบาล
8 แนะนำเกี่ยวกับชนิดอาหารที่ควรรับประทาน ดูแลให้รับประทานอาหารให้เป็นเวลาลดอาหารระหว่างมื้อเช่นรับประทานโจ๊กข้าวต้มนมกล่องส้มโดยหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสหวานจัดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลให้น้อยลงและผลไม้รสจัดเช่นลำไย ทุเรียนมะม่วงสุกหรือรับประทานอาหารได้ แต่ ต้องรับประทานในปริมาณที่น้อยอาจจะลดข้าวและสามารถรับประทานเพิ่มเข้าไปแทนได้เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ที่ 9 ดูแลให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ 0.9% NSS 1,000 มล. หลอดเลือดดำ 60 มล. / ชมตามแผนการรักษาของแพทย์และสังเกตอาการ บวมแดงบริเวณที่ให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อให้พลังงานแก่ร่างกายทดแทนการขาดสารน้ำสารอาหารจากการเบื่อ อาหารและรับประทานอาหารได้น้อย
10 บันทึกปริมาณ I / O ของร่างกายเพื่อประเมินความสมดุลของปริมาณ สารน้ำเข้า - ออกร่างกาย 11.
11 ติดตามผลการตรวจจากห้องปฏิบัติการดังนี้ คือค่า วิเคราะห์ปัสสาวะ ได้แก่ น้ำตาลคีโตนและค่าน้ำตาลกลูโคสในเลือดเพื่อประเมินระดับน้ำตาลในปัสสาวะ และในเลือด
12 คำแนะนำดูแลผู้ป่วยที่ฉีดอินซูลิน
- เวลาฉีดอินซูลินไม่ควรฉีดอินซูลินบริเวณ กล้ามเนื้อที่ใช้ออกกำลังกายเพราะจะทำให้ดูดซึมอินซูลินได้จากบริเวณที่ฉีดเร็วกว่าปกติซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้
- แนะนำญาติให้ หากสังเกตคอยเกิดรอยบุ๋มหรือนูนตรงบริเวณที่ฉีดยาให้รีบครูพยาบาลความเพื่อไม่ให้หัวเรื่อง: การดูดซึมของอินซูลินลดลงน้อยตั้งขึ้นและเพื่อให้ด้านควบคุมระดับน้ำตาลในห้างหุ้นส่วนจำกัดเลือดได้
หัวเรื่อง: การประเมินผลหัวเรื่อง: การพยาบาลความ
การธนาคารวันที่ 6 พ.ค. 57
- ไม่พบน้ำตาลในเลือดสูงไม่มีอาการหน้าแดงตัวร้อนชีพจร เร็วปัสสาวะออกมากกระหายน้ำและความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
-V / ST = 37.5 องศาเซลเซียส P = 82 ครั้ง / นาที r = 20 ครั้ง / นาทีความดันโลหิต = 140/80 มิลลิเมตรปรอท
-DTX เวลา 7.00 น = 349 mg%
-DTX เวลา 15.00 น = 359 mg%
- ปัสสาวะไม่มีกลูโคสและคีโตน
บริโภค I / O = 2,400 ซีซี 950 ซีซีเอาท์พุท
7 พ.ค. 57
- ไม่พบภาวะน้ำตาลในเลือดสูงไม่มีอาการหน้าแดงตัวร้อนชีพจร เร็วปัสสาวะออกมากกระหายน้ำและความดันโลหิตเพิ่มสูงขึ้น
-V / ST = 37.4 องศาเซลเซียส P = 76 ครั้ง / นาที r = 20 ครั้ง / นาทีความดันโลหิต = 130 / 80 mmHg
DTX เวลา 7.00 น = 121 mg%
-DTX เวลา 15.00 น = 141mg%
- ปัสสาวะไม่มีกลูโคสและคีโตน
I / O = ปริมาณ 1,850 ซีซี, เอาท์พุท 1700 ซีซี
การแปล กรุณารอสักครู่..