The two armies formed their battle

The two armies formed their battle lines along the gentle slopes on the crimson plains, staring each other down.


The awe-inspiring army of the Kingdom was 245'000 men strong, divided into a left wing of 70'000 men, a right wing of 70'000 men, and a central column of 105'000 men, spread throughout the topography of three hills into their battle formation. However, this was not so much a disciplined formation, but more like brutality in the form of overwhelming numbers.


The foremost five ranks of infantry carried two-handed pikes, each one easily over six meters long, and had positioned themselves into a spear line.


Their job was to serve as a spiked wall for the rest of the army, in order to counter the heavy cavalry that comprised the core of the Empire’s fighting strength. They did not use anti-cavalry palisades for a simple reason; protecting that many people would require far too much wood. In contrast, the skillful deployment and use of ranked pikes would be more effective.


Although this formation was quite solid and presented many problems for any attackers, it had its weaknesses as well.


Since the formation was dense and the weapons carried were very heavy, it was all they could do just to stay in place and prevent enemy charges. As such, they lacked the ability to react quickly to enemy maneuvers, and if the Empire used bowmen or magic, their losses would be heavy.


Then again, not much more was expected from mere peasants. All that was required was that they deflect the first charge of the enemy.


On the other side, the Empire had 60'000 men.


Their numbers were vastly inferior to those of the Kingdom.


However, the Imperial knights were relaxed, without so much as a hint of fear. They did not feel they would lose at all.


This confidence was born from knowing their own personal strength.


Even so, it was a fact that there was a vast disparity in the military power of both sides. Although it would not be a problem if they could fight forever without fatigue, that was not possible for humans. Once they got tired, even a gap in individual ability could be closed easily.


The Kingdom also had one more advantage, and it was a massive one.


That was the value of an individual life.


Most of the Kingdom’s troops were composed of peasant levies. In contrast, the Empire fielded professional soldiers called knights. There was a huge difference in the time and money taken to train a peasant ―who was considered battle-ready if they could pick up a weapon and follow orders― and what was needed to produce a knight. Every loss by the Empire was more keenly felt than a similar loss by the Kingdom. The Empire simply could not afford to squander their knights in foolish offensives or wars of attrition.


With that in mind, an open field battle of attrition between the Empire and the Kingdom would be to the Kingdom’s advantage.


Because of this, the wars fought between the Empire and the Kingdom had typically been minor skirmishes.


The Empire’s objective would be accomplished simply by pulling the Kingdom’s serfs onto the battlefield. There was no need to waste the lives of nobles or skilled soldiers, and the Kingdom knew this as well.


This scripted pageantry was what passed for war between the Empire and the Kingdom.


Even if that magic caster called Ainz Ooal Gown took part, it would still end in a minor skirmish. That was what most of the Kingdom’s nobles thought. After all, the Empire’s knights were not just a military force, but a police force as well. Needless losses to them would threaten the Empire’s stability.


And so, the nobles awaited the Empire’s next move.


By tradition, the Imperial forces would parade before the Kingdom’s troops, and then fall back. The Kingdom would then sound a victory cry.


This was how it had always been.


However...


The Imperial army was not moving.


There was no sign of movement from the fortress-like castrum, no maneuver of troops to array themselves before the Kingdom’s forces. It was as though they were waiting for the Kingdom to make the first move, or for something else.


“Nothing’s happening. What’s going on?”


This was at the main camp, where the King was. The main camp was positioned near the rear of the central column, behind a host of 105'000 soldiers.


Marquis Raeven stood beside Gazef, speaking to him as he surveyed the motionless Imperial knights from his observation point atop a hill that was slightly higher than the others.


If the Empire did not move, then neither could the Kingdom.


An attack by the Kingdom now would be extremely foolish, given that they had already formed their spear line. Of course, it had been tried before; a pre-emptive strike on the Empire’s nobles. However, the attackers had been slaughtered in short order, and the Kingdom had suffered significant losses as a result.


Ever since, the Kingdom’s preferred tactic against the Empire had been to form a spear line and prepare to receive a charge. If they co

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กองทัพทั้งสองเกิดขึ้นบรรทัดต่อสู้ตามพื้นที่ราบบนราบสีแดงเข้ม จ้องมองกันลงกองทัพราชอาณาจักรอลังการแข็งแกร่ง 245'000 คนแบ่งเป็นปีกซ้ายของผู้ชาย ' 70 000 ปีกขวา 70'000 คน และคอลัมน์กลาง 105'000 คน กระจายไปทั่วภูมิประเทศภูเขาสามเป็นผู้ก่อสงคราม อย่างไรก็ตาม นี้ไม่ใช่การก่อตัวที่มีระเบียบวินัยมาก แต่เหมือนความโหดร้ายในรูปแบบของเลขที่ครอบงำอันดับห้าสำคัญของทหารราบดำเนิน two-handed pikes ละง่าย ๆ กว่าหกเมตร และมีตำแหน่งที่ตัวเองเป็นบรรทัดหอกงานของพวกเขาเพื่อเป็นผนังถูกแทงที่เหลือของกองทัพ การตอบโต้ทหารม้าหนักที่ประกอบด้วยหลักของจักรวรรดิของการต่อสู้ความแรงได้ พวกเขาไม่ได้ใช้ต่อต้านทหารม้า palisades เหตุผลง่าย ปกป้องว่าหลายคนจะต้องมีไม้มากเกินไป ในทางตรงข้าม ใช้ฝีมือและการใช้ pikes อันดับจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแม้ว่ากำเนิดนี้ได้ค่อนข้างแข็ง และนำเสนอปัญหาในการโจมตีใด ๆ มันมีจุดอ่อนของมันด้วยเนื่องจากการก่อตัวหนาแน่น และทำอาวุธได้หนักมาก ได้ทั้งหมดไม่เพียงอยู่ในสถานที่ และป้องกันศัตรูค่าธรรมเนียม เช่น พวกเขาขาดความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็วกับทัพศัตรู และอาณาจักรใช้ bowmen หรือมายากล ความสูญเสียจะหนักอีก ไม่มากถูกคาดหวังจากชาวนาเพียง ที่ถูกต้องไม่ว่า จะปัดค่าแรกของศัตรูอีกด้านหนึ่ง อาณาจักรได้ 60'000 คนจำนวนน้อยเสมือนกับราชอาณาจักรได้อย่างไรก็ตาม อัศวินอิมพีเรียลถูก ผ่อนคลายโดยไม่ต้องดังมากที่แนะนำกลัว พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่า พวกเขาจะสูญเสียทั้งหมดความมั่นใจนี้เกิดจากการรู้ความแข็งแรงของตนเองบุคคลมาก มันเป็นความจริงที่ว่า มี disparity ใหญ่ในอำนาจทางทหารของทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นปัญหาถ้าพวกเขาสามารถต่อสู้ตลอดโดยไม่เมื่อยล้า ที่ไม่ได้สำหรับมนุษย์ เมื่อพวกเขาได้เบื่อ แม้แต่ช่องว่างในแต่ละความสามารถอาจจะปิดได้อย่างง่ายดายราชอาณาจักรยังมีประโยชน์หนึ่ง และเป็นหนึ่งในใหญ่ที่มีค่าของมีชีวิตแต่ละส่วนใหญ่ของกองกำลังของราชอาณาจักรที่ประกอบ levies ชาวนา ในทางตรงกันข้าม อาณาจักรสามารถเรียกม้าทหารมืออาชีพ มีความแตกต่างมากในเวลา และเงินที่ใช้ในการฝึก ―who ชาวนาถูกว่าพร้อมรบจะได้รับอาวุธ และตาม orders― และสิ่งจำเป็นในการผลิตอัศวิน ขาดทุนทุก โดยอาณาจักร keenly มากถูกรู้สึกกว่าสูญเสียเหมือนกัน โดยราชอาณาจักร อาณาจักรก็อาจไม่สามารถถลุงม้าของพวกเขาใน offensives โง่หรือสงคราม attritionโดยที่ในใจ การฟิลด์เปิดยุทธการ attrition ระหว่างอาณาจักรและราชอาณาจักรจะเป็นเพื่อประโยชน์ของด้วยเหตุนี้ สงครามที่ต่อสู้กันระหว่างอาณาจักรและราชอาณาจักรจะได้ต่อสู้เล็กน้อยวัตถุประสงค์ของจักรวรรดิจะมาได้ก็ โดยการดึง serfs ของราชอาณาจักรไปยังสนามรบ มีไม่จำเป็นต้องเสียชีวิตของขุนนางหรือทหารมีทักษะ และอาณาจักรรู้นี้ด้วยPageantry สคริปต์นี้เป็นอะไรที่ผ่านไปในสงครามระหว่างอาณาจักรและราชอาณาจักรแม้นแกนวิเศษที่เรียกว่าชุด Ooal Ainz ใช้เวลาส่วนหนึ่ง มันยังคงจะจบใน skirmish รอง ที่ถูกที่สุดของขุนนางคิด หลังจากที่ทุก อัศวินของจักรวรรดิได้ไม่เพียงแสนยานุภาพ แต่บังคับให้ตำรวจด้วย สูญเสียรวดเร็วพวกเขาจะคุกคามความมั่นคงของจักรวรรดิและอื่น ๆ ขุนนางรอคอยของจักรวรรดิถัดไปโดยประเพณี อิมพีเรียลจะเดินแห่ก่อนกองกำลังของราชอาณาจักร และถอยกลับ ราชอาณาจักรแล้วจะเสียงร้องชัยชนะนี้เป็นอย่างไรนั้นได้เสมออย่างไรก็ตาม... ไม่มีการเคลื่อนกองทัพอิมพีเรียลมีไม่มีเครื่องหมายของการเคลื่อนไหวจาก castrum เหมือนป้อมปราการ ไม่คู่ของทหารให้อาร์เรย์ตัวเองก่อนที่กองกำลังของราชอาณาจักร มันเป็นเหมือนพวกเขาได้รออาณาจักรทำครั้งแรก หรืออย่างอื่น"ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะเกิดอะไรขึ้น"นี้ได้ที่ค่ายหลัก ที่มีพระมหากษัตริย์ ค่ายหลักที่ตำแหน่งใกล้ด้านหลังของคอลัมน์กลาง หลังของทหาร 105'000มาร์ควิส Raeven ยืนอยู่ข้าง Gazef พูดกับเขา ตามที่เขาสำรวจอัศวินอิมพีเรียลพระกรจากจุดสังเกตการณ์ของเขาบนยอดเขาที่สูงขึ้นเล็กน้อยกว่าคนอื่น ๆถ้าไม่ได้ย้ายอาณาจักร แล้วไม่สามารถราชอาณาจักรการโจมตีราชอาณาจักรขณะนี้จะโง่มาก ระบุว่าพวกเขาแล้วได้จัดรายการของหอก แน่นอน มันได้ถูกลองก่อน ตี pre-emptive ในขุนนางของจักรวรรดิ อย่างไรก็ตาม โจมตีที่มีการฆ่าในสั้น และอาณาจักรได้ประสบกับความขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญดังนั้นตั้งแต่ ต้องของ แทกับอาณาจักรได้รับฟอร์มบรรทัดหอก และเตรียมรับค่าธรรมเนียม ถ้าพวกเขา co

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทั้งสองฝ่ายที่เกิดขึ้นสายการต่อสู้ของพวกเขาไปตามทางลาดบนที่ราบสีแดงเข้มจ้องมองกันและกันลง. กองทัพกลัวของราชอาณาจักรเป็น 245'000 ผู้ชายที่แข็งแกร่ง, แบ่งออกเป็นปีกซ้ายของ 70'000 คนเป็นปีกขวา 70'000 ของผู้ชายและคอลัมน์กลางของ 105'000 ผู้ชายแผ่กระจายไปทั่วภูมิประเทศสามเนินเขาเข้าไปในการก่อต่อสู้ของพวกเขา แต่นี้ไม่มากการสร้างระเบียบวินัย แต่เหมือนความโหดร้ายในรูปแบบของตัวเลขที่ครอบงำ. สำคัญที่สุดห้าอันดับของทหารราบดำเนินหอกสองมือแต่ละคนได้อย่างง่ายดายกว่าหกเมตรยาวและตำแหน่งตัวเองเป็นสายหอก . งานของพวกเขาคือการทำหน้าที่เป็นกำแพงแหลมสำหรับส่วนที่เหลือของกองทัพในการสั่งซื้อที่จะตอบโต้ทหารม้าหนักที่ประกอบด้วยหลักของความแรงของการต่อสู้ของจักรวรรดิ พวกเขาไม่ได้ใช้ผาต่อต้านทหารม้าด้วยเหตุผลง่ายๆ; การปกป้องที่หลาย ๆ คนจะต้องมีไม้มากเกินไป ในทางตรงกันข้ามการใช้งานที่มีฝีมือและการใช้อันดับหอกจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น. แม้ว่าการก่อตัวนี้ค่อนข้างแข็งและนำเสนอปัญหามากสำหรับการโจมตีใด ๆ ก็มีจุดอ่อนเช่นกัน. ตั้งแต่การก่อตัวเป็นความหนาแน่นสูงและอาวุธดำเนินหนักมาก มันเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถทำเพียงเพื่อให้อยู่ในสถานที่และป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายศัตรู ดังนั้นพวกเขาขาดความสามารถในการตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเพื่อประลองยุทธ์ศัตรูและถ้าเอ็มไพร์ที่ใช้ในการยิงธนูหรือมายากล, การสูญเสียของพวกเขาจะหนัก. จากนั้นอีกครั้งไม่มากได้รับการคาดหวังจากชาวบ้านเพียง ทั้งหมดที่ถูกต้องคือการที่พวกเขาเบนเข็มค่าใช้จ่ายครั้งแรกของศัตรู. ในอีกด้านหนึ่งที่จักรวรรดิมี 60'000 คน. ตัวเลขของพวกเขาด้อยกว่าอย่างมากมายให้กับผู้ที่แห่งราชอาณาจักร. แต่อัศวินอิมพีเรียลได้ผ่อนคลายโดยไม่ต้องมาก เป็นคำใบ้ของความกลัว พวกเขาไม่ได้รู้สึกว่าพวกเขาจะสูญเสียเลย. ความเชื่อมั่นนี้เกิดจากการรู้ความแข็งแรงของตัวเองส่วนบุคคล. ดังนั้นแม้จะเป็นความจริงที่ว่ามีความแตกต่างมากมายในอำนาจทางทหารของทั้งสองฝ่าย แม้ว่ามันจะไม่เป็นปัญหาถ้าพวกเขาสามารถต่อสู้ตลอดไปโดยไม่อ่อนเพลียที่เป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ เมื่อพวกเขาก็เริ่มเบื่อแม้ช่องว่างในความสามารถของแต่ละบุคคลอาจจะปิดได้อย่างง่ายดาย. ราชอาณาจักรยังมีข้อได้เปรียบมากขึ้นและมันเป็นหนึ่งขนาดใหญ่. นั่นคือคุณค่าของชีวิตของแต่ละบุคคล. ส่วนใหญ่ของทหารราชอาณาจักรประกอบด้วยครัวเรือนชาวนา . ในทางตรงกันข้ามจักรวรรดิสอดแทรกทหารเรียกว่ามืออาชีพอัศวิน มีความแตกต่างอย่างมากในเวลาและเงินที่นำมาในการฝึกอบรมชาวนา -who ได้รับการพิจารณาพร้อมรบถ้าพวกเขาสามารถรับอาวุธและปฏิบัติตามคำสั่งซื้อและสิ่งที่ถูกต้องในการผลิตเป็นอัศวิน การสูญเสียโดยเอ็มไพร์ทุกคนรู้สึกมากขึ้นอย่างดีที่สุดกว่าการสูญเสียที่คล้ายกันโดยราชอาณาจักร เอ็มไพร์ก็ไม่สามารถที่จะเปลืองอัศวินของพวกเขาในการโจมตีโง่หรือสงครามล้างผลาญ. โดยที่ในใจ, การต่อสู้เปิดสนามจากการขัดสีระหว่างอาณาจักรและราชอาณาจักรจะได้เปรียบราชอาณาจักร. ด้วยเหตุนี้สงครามการต่อสู้ระหว่าง เอ็มไพร์และราชอาณาจักรได้รับมักจะต่อสู้เล็กน้อย. วัตถุประสงค์ของเอ็มไพร์จะทำได้ง่ายๆโดยการดึงเสิร์ฟราชอาณาจักรเข้าสู่สนามรบ ไม่จำเป็นต้องเสียชีวิตของขุนนางหรือทหารที่มีทักษะเป็นและราชอาณาจักรรู้ว่าเรื่องนี้เช่นกัน. นี้ขบวนแห่เขียนคือสิ่งที่ผ่านสงครามระหว่างอาณาจักรและราชอาณาจักร. แม้ว่าที่ล้อวิเศษที่เรียกว่า Ainz Ooal ชุดมามีส่วนร่วมมัน ยังจะจบลงในการต่อสู้กันเล็กน้อย นั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดของขุนนางราชอาณาจักรคิด หลังจากที่ทุกอัศวินของเอ็มไพร์ไม่เพียงกำลังทหาร แต่กองกำลังตำรวจเป็นอย่างดี การสูญเสียความจำเป็นที่จะให้พวกเขามีความมั่นคงจะคุกคามของจักรวรรดิ. และเพื่อให้ขุนนางที่รอคอยย้ายไปของเอ็มไพร์. ตามธรรมเนียมกองกำลังอิมพีเรียลขบวนแห่ก่อนจะยกทัพราชอาณาจักรแล้วถอยกลับ ราชอาณาจักรแล้วจะเสียงร้องไห้ชัยชนะ. นี่คือวิธีการที่จะได้รับเสมอ. แต่ ... กองทัพจักรวรรดิไม่ได้ย้าย. ไม่มีสัญญาณของการเคลื่อนไหวจากป้อมปราการนนี้เหมือนเป็นกลอุบายไม่มีกองกำลังไปยังอาร์เรย์ตัวเองก่อน กองกำลังราชอาณาจักร มันเป็นราวกับว่าพวกเขากำลังรอราชอาณาจักรที่จะทำให้การย้ายครั้งแรกหรืออย่างอื่น. "ไม่มีอะไรเกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้น? "นี่คือที่ค่ายหลักที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็น ค่ายหลักอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับด้านหลังของคอลัมน์กลางหลังโฮสต์ของ 105'000 ทหาร. มาร์ควิส Raeven ยืนอยู่ข้างๆ Gazef พูดกับเขาในขณะที่เขาสำรวจอัศวินอิมพีเรียลนิ่งจากจุดสังเกตของเขาอยู่บนเนินเขาที่สูงกว่า คนอื่น ๆ . หากจักรวรรดิไม่ได้ย้ายแล้วทั้งราชอาณาจักรสามารถ. การโจมตีโดยราชอาณาจักรในขณะนี้จะโง่มากที่ระบุว่าพวกเขาได้เกิดขึ้นแล้วสายหอกของพวกเขา แน่นอนว่ามันได้รับการพยายามก่อน; การนัดหยุดงาน Pre-emptive ในขุนนางของจักรวรรดิ แต่การโจมตีที่ได้รับการฆ่าในระยะสั้นและราชอาณาจักรได้รับความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญเป็นผลมา. นับตั้งแต่ชั้นเชิงราชอาณาจักรที่ต้องการกับจักรวรรดิได้รับในรูปแบบสายหอกและเตรียมความพร้อมที่จะได้รับค่าใช้จ่าย ถ้าพวกเขาร่วม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สองกองทัพรูปแบบสายการต่อสู้ของพวกเขาตามลาดอ่อนโยนบนที่ราบสีแดงเข้ม จ้องกันซะความกลัวสร้างแรงบันดาลใจ ทัพของอาณาจักรเป็น 245 , คนแข็งแรง แบ่งเป็นฝั่งซ้ายของ 70 , ผู้ชาย , ปีกด้านขวาของ 70 , ผู้ชาย , และคอลัมน์กลางของ 105 , ผู้ชาย , กระจายทั่วพื้นที่ของเนินเขาสามในการต่อสู้ของพวกเขา อย่างไรก็ตาม , นี้ไม่ได้มากนัก การมีระเบียบวินัย แต่ชอบความโหดในรูปแบบของตัวเลขท่วมท้นชั้นดีห้าแถวของทหารราบถือหอกสองมือ แต่ละคนได้อย่างง่ายดายกว่าหกเมตรยาวและมีตำแหน่งตัวเองเป็นหอกสายงานของพวกเขาคือเพื่อใช้เป็นผนัง ตะปู สำหรับส่วนที่เหลือของ กองทัพ เพื่อต่อต้านทหารราบหนักที่ประกอบด้วยหลักของอาณาจักรของสู้แรง พวกเขาไม่ได้ใช้ผาต่อต้านทหารม้าเหตุผลง่าย ; การปกป้องที่หลายคนจะต้องไกลไม้มากเกินไป ในทางตรงกันข้าม ใช้เก่ง และใช้หอกอันดับจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นแม้ว่ารูปแบบนี้ค่อนข้างแข็ง และนำเสนอปัญหามากสำหรับการโจมตีใด ๆ มันมีจุดอ่อนของมันเช่นกันตั้งแต่การก่อตัวอยู่หนาแน่นและอาวุธแบกหนักมาก มันคือทั้งหมดที่พวกเขาทำได้แค่อยู่ในสถานที่ และป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายของศัตรู เช่นที่พวกเขามีความสามารถในการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อทัพศัตรู และถ้าใช้ธนู หรืออาณาจักรเวทมนตร์ ขาดทุนของพวกเขาจะหนักจากนั้นอีกเพียงไม่มาก คาด จากชาวบ้าน ทั้งหมดที่ถูกต้องคือการที่พวกเขาเบนเข็มค่าใช้จ่ายครั้งแรกของศัตรูอีกด้านหนึ่ง จักรวรรดิได้ 60 , ผู้ชายตัวเลขของพวกเขาเป็นอย่างมากที่ด้อยกว่าบรรดาราชอาณาจักรอย่างไรก็ตาม อัศวินหลวงได้ผ่อนคลาย โดยมากเป็นคำใบ้ของความกลัว พวกเขาไม่รู้สึกว่าพวกเขาจะสูญเสียทั้งหมดความเชื่อมั่นนี้เกิดจากการรู้ความแข็งแรงของตัวเองแต่มันคือความจริงที่ว่ามีความแตกต่างกันมากในอำนาจทางทหารของทั้งสองฝ่าย ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นปัญหาถ้าพวกเขาจะสู้ตลอดไป ไม่ล้า มันเป็นไปไม่ได้สำหรับมนุษย์ เมื่อพวกเขาเหนื่อยแม้ช่องว่างในความสามารถในแต่ละสามารถปิดได้อย่างง่ายดายอาณาจักรยังมีประโยชน์มากกว่าหนึ่งและมันเป็นขนาดใหญ่หนึ่งนั่นคือคุณค่าของชีวิตของแต่ละบุคคลที่สุดของอาณาจักร ของทหาร ได้แก่ ภาษี ชาวนา ในทางตรงกันข้ามจักรวรรดิวิ่งอาชีพทหารที่เรียกว่าอัศวิน มีความแตกต่างใหญ่ในเงินและเวลาไปฝึกชาวนาผมอยากผู้ถูกพิจารณาการต่อสู้พร้อมถ้าพวกเขาสามารถรับอาวุธและปฏิบัติตามคำสั่งผมอยากแล้วต้องการที่จะผลิตอัศวิน ทุกการสูญเสียโดยจักรวรรดิเป็นอย่างดีที่สุดรู้สึกกว่าการสูญเสียที่คล้ายกันโดยราชอาณาจักร จักรวรรดิก็ไม่สามารถที่จะปล่อยให้อัศวินในโง่หรือสงครามรุกรานของความอ่อนแอกับในใจ เปิดสนามศึกล้างแค้นระหว่างจักรวรรดิและอาณาจักรจะเป็นเพื่อประโยชน์ของอาณาจักรเพราะเหตุนี้ สงครามการต่อสู้ระหว่างจักรวรรดิและอาณาจักรได้มักจะได้รับการต่อสู้เล็กน้อยอาณาจักรของวัตถุประสงค์จะสำเร็จได้ก็ด้วยการดึงของราชอาณาจักรข้าแผ่นดินเข้าสู่สนามรบ มันไม่จำเป็นที่จะต้องเสียชีวิตของขุนนางหรือทหารมีฝีมือและอาณาจักรรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดีสคริปต์นี้เป็นสิ่งที่ผ่านมาสำหรับขบวนแห่สงครามระหว่างจักรวรรดิและอาณาจักรถึงแม้ว่าเวทมนตร์ล้อที่เรียกว่า ainz ooal ชุดเอาส่วนหนึ่งก็ยังคงสิ้นสุดในการต่อสู้กันเล็กน้อย นั่นคือสิ่งที่มากที่สุดของอาณาจักรขุนนางคิด หลังจากทั้งหมด , อัศวินของอาณาจักร ไม่ใช่แค่ทหาร แต่ตำรวจได้เป็นอย่างดี ไม่สูญเสียพวกเขาเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคง ของอาณาจักรดังนั้น ขุนนางที่รอคอยของจักรวรรดิต่อไป .ตามประเพณี กองทัพหลวงจะพาเหรดก่อนอาณาจักร ของทหาร แล้วถอยกลับ อาณาจักรก็เสียงชัยชนะที่ร้องไห้นี้คือว่ามันได้เสมอแต่ . . . . . .ทัพหลวง ย้ายไม่ได้ไม่มีความเคลื่อนไหวจากป้อมเหมือน castrum ไม่มีการซ้อมรบของทหารเรย์พระพักตร์ของราชอาณาจักรหน่วย มันเหมือนว่าพวกเขากำลังรออาณาจักรเพื่อให้ย้ายก่อน หรืออย่างอื่น" ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เกิดอะไรขึ้น ? "นี้คือที่ค่ายหลักที่กษัตริย์ ค่ายหลักที่ถูกวางใกล้ด้านหลังของคอลัมน์กลางหลังโฮสต์ของ 105 , ทหารมาร์ค raeven ยืนอยู่ข้างๆ gazef พูดกับเขาขณะที่เขาสำรวจ ไม่เคลื่อนไหว อิมพีเรียล อัศวินจากจุดสังเกตของเขาบนเนินเขาที่สูงกว่าคนอื่น ๆถ้าอาณาจักรไม่ได้ย้ายแล้ว ไม่มีอาณาจักรการโจมตีโดยอาณาจักรตอนนี้จะแสนโง่ ให้พวกเขาได้เกิดขึ้นแล้ว สายหอกของตน แน่นอน มันได้พยายามก่อน ก่อน emptive โจมตีอาณาจักรของขุนนาง อย่างไรก็ตาม ผู้ถูกสังหารในการสั่งซื้อระยะสั้นและราชอาณาจักรได้ประสบความสูญเสียที่สำคัญเป็นผลนับตั้งแต่ราชอาณาจักรที่ต้องการแผนการต่อต้านจักรวรรดิได้สร้างหอกสายและ p