AbstractIn the past few decades the

Abstract
In the past few decades there has been growing concern about the exhaustibility of non-renewable soil resources in developing countries in the tropics to meet the needs of present and future generations. Land degradation is a major problem in many parts of the tropics, including subSaharan Africa, mainly owing to overexploitation of vegetation and soil resources and adoption of inappropiate farming methods. The challenge is to increase the sustainable agricultural productivity of the land with acceptable inputs to meet increasing human needs, while maintaining the soil resource base and minimising environmental degradation. One technology that can meet this need for rainfed upland farming with low external chemical inputs is the alley cropping system. This technology integrates trees and shrubs in spatial zonal arrangements with food crops in the production system. The presence of woody species in the alley cropping production system has been shown to contribute to (1) nutrient recycling, (2) reduction in soil nutrient leaching losses, (3) stimulation of higher soil faunal activities, (4) soil erosion control, (5) soil fertility improvement and (6) sustained levels of crop production. These experiences can be utilised in developing sustainable and environmentally friendly agroforestry systems.





Ical inputs, to meet the ever increasing need for food animal feed fibre, and fuelwood has already ready resulted in accelerated land degradation and loss of soil productivity (stoorvogel et al 1993 tolba1993) despite many decades of research on the intensification of agriculture on rainfed uplands in the humid and subhumid tropics efforts to develop altemative sustainable and more productive food crop production systems have far had only limited success (Kang et al 1991)
Traditional rainfed upland farming in the tropics is mainly practsed in areas dominated by either high base status alfisolf or acid and low base status oisols and ultisols all are fragile soils with moderate to very low fertility status results of many years of research have shown that the following



Management components are needed to maintain the productivity of these soils
1.maintenance of adequate soil cover and organic matter in the surface soil
2.minimal surface soil disturbance
3.judicious fertilizer and lime use
4.intercropping
5.fallowing and crop rotation.
Although it is known that external chemical in puts are needed to achieve sustained high crop yields their availability and cost (without subsidies) may be prohibitive for their use in food crop production in many developing countries.


In addition continuous use of only high external chemical inputs can result in increased land degradation on poorly buffered upland soil (Pichot et al 1981 Kang and Balasub ramanian 1990) It is therefore imperative that alternative integrated soil and nutrient management systems are developed that can maximize incorporation of biological nutrient sources and organic material.
This will also allow lower use of external nutrient inputs.
Thus there is increasing interest in developing alternative production systems that involve the incorporation of improved herbaceous and woody fallows.
The main aim has been to develop sustainable and more productive food crop production systems using low external chemical inputs as alternatives to the traditional farming systems one such system that incorporates the use of woody species is the alley cropping system.
This paper will elaborate on the merits of alley cropping in soil productivity maintenance and nutrient recycling on high base status soil.

2 Alley cropping technique
Alley cropping also known as hedgerow intercropping and contour farming is a zonal agroforestry subsystem that involves the intercropping of multipurpose trees and shrubs (MPTS) and food crops.
In alley cropping the MPTS are grown in managed hedgerows and the crops are grown in all (Fig. 1)
This zonal agroforestry arrangement allows the integration of a wider range of woody species than mixed agroforestry systems because the spatial arrangement of plant components limits intimacy.
The arrangement also facilitates more flexible management options to reduce competition and increase complementarity between trees and crops (Kang and Wilson 1987).
During the cropping period the hedgerows are periodically pruned to minimize shading of the companion crops.
When there are no crops in the field the hedgerows are allowed to grow freely to cover the land.
The technique is scale neutral.
Although originally developed for smallholder family farms it can also be mechanized for large scale farming.
The concept of alley cropping which is sometimes also called improved bush fallow system is based on the following principles.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อในไม่กี่ทศวรรษ มีกังวล exhaustibility ทรัพยากรดินไม่ใช่ทดแทนในประเทศกำลังพัฒนาในเขตร้อนเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบัน และในอนาคตเติบโต ย่อยสลายที่ดินเป็นปัญหาสำคัญในหลายส่วนอย่างเต็มที่ รวมทั้งแอฟริกา subSaharan ส่วนใหญ่เนื่องจาก overexploitation ของพืชพรรณ และทรัพยากรดินและของ inappropiate วิธีการทำฟาร์ม ความท้าทายคือการ เพิ่มผลผลิตเกษตรยั่งยืนของแผ่นดินกับอินพุตที่ยอมรับได้เพื่อตอบสนองความต้องการมนุษย์ ชาดกที่ดินทรัพยากรพื้นฐาน และกับลดสิ่งแวดล้อมย่อยสลายเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีหนึ่งที่สามารถตอบสนองนี้ต้องค่อย rainfed เกษตรกับอินพุตเคมีภายนอกต่ำ คือ ระบบ cropping ซอย เทคโนโลยีนี้รวมต้นไม้และพุ่มในปริภูมิการจัดการยังมีพืชอาหารในระบบการผลิต ได้รับการแสดงสถานะของชนิดไม้เนื้อแข็งในระบบการผลิตทาง cropping เข้า (1) ระบบรีไซเคิล, (2) ลดขาดละลายธาตุอาหารดิน (3) กระตุ้น ความสูงดินกิจกรรม faunal ควบคุมการพังทลายของดิน (4) ปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดิน (5) (6) sustained ผลิตพืช ประสบการณ์เหล่านี้สามารถใช้ในการพัฒนาระบบอย่างยั่งยืน และเป็นมิตร agroforestryอินพุต ical เพื่อสนองความต้องการอาหารสัตว์เคยเพิ่มอาหารเส้นใย และ fuelwood ได้แล้วพร้อมส่งผลให้ที่ดินเร่งย่อยสลายและการสูญเสียของผลผลิตดิน (stoorvogel et al 1993 tolba1993) แม้มีมาหลายทศวรรษของวิจัยแรงของ rainfed ชายในความพยายามของเขตร้อนชื้น และ subhumid altemative ยั่งยืนและระบบผลิตพืชอาหารไปไกลมีเพียงจำกัดสำเร็จ (Kang et al 1991) ค่อย rainfed ดั้งเดิมที่เลี้ยงในเขตร้อนส่วนใหญ่ practsed ในพื้นที่ที่ครอบงำ โดยสถานะพื้นฐาน alfisolf หรือ oisols กรด และต่ำสุดที่สถานะพื้นฐาน และ ultisols ทั้งหมด ดินเนื้อปูนเปราะบางกับปานกลางเพื่อความอุดมสมบูรณ์ต่ำมาก ผลสถานะหลายปีของการวิจัยได้แสดงที่ต่อไปนี้ จัดการส่วนประกอบจำเป็นต้องรักษาประสิทธิผลของดินเนื้อปูนเหล่านี้1.การบำรุงรักษาดินเพียงพอครอบคลุมและอินทรีย์ในผิวดิน2.รบกวนผิวดินน้อยที่สุด3.ใช้ปุ๋ยและปูน judicious4. intercropping5. fallowing และพืชหมุนเวียนแม้ว่าจะเป็นที่รู้จักกันว่าสารเคมีภายนอกทำให้ มีความจำเป็นเพื่อให้ผลผลิตสูงพืช sustained พร้อมใช้งานและต้นทุน (ไม่ มีเงินอุดหนุน) ของพวกเขาอาจจะห้ามปรามสำหรับใช้ในการผลิตพืชอาหารในประเทศกำลังพัฒนานอกจากนี้ การใช้อินพุตเคมีภายนอกสูงอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลในที่ดินเพิ่มการย่อยสลายในงานถูกบัฟเฟอร์ดิน (Pichot et al 1981 กังและ Balasub ramanian 1990) ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นที่ทางเลือกรวมดิน และมีพัฒนาระบบการจัดการธาตุอาหารที่สามารถขยายการประสานแหล่งธาตุอาหารทางชีวภาพและวัสดุอินทรีย์นี้จะช่วยให้การใช้อินพุตภายนอกธาตุอาหารต่ำกว่าจึง มีเพิ่มมากสนใจในการพัฒนาระบบการผลิตอื่นที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนของ fallows herbaceous และวู้ดดี้ปรับปรุง ขึ้นมีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อ พัฒนาผลิตพืชอาหารอย่างยั่งยืน และมีประสิทธิภาพมากระบบอินพุตเคมีภายนอกต่ำโดยใช้แทนระบบการทำฟาร์มแบบดั้งเดิมเช่นระบบหนึ่งที่ใช้พันธุ์วู้ดดี้เป็นการ cropping ซอยเอกสารนี้จะอธิบายข้อดีของซอย cropping ในดินบำรุงรักษาผลิตและรีไซเคิลในสถานะพื้นฐานดินธาตุอาหาร เทคนิค cropping ซอย 2 ซอย cropping เป็น hedgerow intercropping และจากนาได้ agroforestry ยังระบบย่อยที่เกี่ยวข้องกับ intercropping อเนกประสงค์ต้นไม้พุ่ม (MPTS) และพืชอาหารในซอย cropping โต MPTS ที่ใน hedgerows มีการจัดการ และพืชที่ปลูกในทั้งหมด (Fig. 1)นี้จัด agroforestry ยังได้รวมช่วงกว้างของชนิดไม้เนื้อแข็งกว่าระบบ agroforestry ผสมเนื่องจากจัดปริภูมิประกอบโรงงานจำกัดราคาเป็นกันเองการจัดเรียงค้นหาตัวเลือกการจัดการมีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อลดการแข่งขัน และเพิ่ม complementarity ระหว่างต้นไม้และพืช (Kang และ Wilson 1987)ช่วงครอบ hedgerows กำลังเป็นระยะ ๆ สามารถล้างเพื่อลดแรเงาของพืชเพื่อนเมื่อพืชไม่มีในฟิลด์ hedgerows ที่จะสามารถเติบโตได้อย่างอิสระเพื่อครอบคลุมที่ดินเทคนิคเป็นขนาดกลางแม้ว่าแต่เดิม พัฒนาสำหรับฟาร์มครอบครัวเกษตรกรมี mechanized สำหรับทำฟาร์มขนาดใหญ่แนวคิดของ cropping ซอยบางครั้งยังเรียกว่าบุชปรับปรุง fallow ระบบยึดตามหลักต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาได้มีการเจริญเติบโตความกังวลเกี่ยวกับ exhaustibility ของทรัพยากรดินไม่หมุนเวียนในประเทศกำลังพัฒนาในเขตร้อนที่จะตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต ความเสื่อมโทรมของที่ดินเป็นปัญหาสำคัญในหลายส่วนของเขตร้อนรวมทั้ง subsaharan แอฟริกาส่วนใหญ่เนื่องจากการ overexploitation ของทรัพยากรพืชและดินและการยอมรับของวิธีการทำการเกษตรไม่เหมาะสม ความท้าทายคือการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรอย่างยั่งยืนในดินแดนที่มีปัจจัยการผลิตที่ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ในขณะที่การรักษาฐานทรัพยากรดินและลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีหนึ่งที่สามารถตอบสนองความต้องการที่ดอนอาศัยน้ำฝนทำการเกษตรที่มีปัจจัยการผลิตสารเคมีภายนอกต่ำนี้เป็นระบบการปลูกพืชซอย เทคโนโลยีนี้รวมต้นไม้และพุ่มไม้ในการจัดเขตพื้นที่กับพืชอาหารในระบบการผลิต ปรากฏตัวของไม้ชนิดนี้ในซอยปลูกพืชระบบการผลิตที่ได้รับการแสดงเพื่อนำไปสู่ ​​(1) การรีไซเคิลสารอาหาร (2) การลดการสูญเสียธาตุอาหารในดินชะล้าง, (3) การกระตุ้นของดินที่สูงขึ้นกิจกรรม faunal, (4) การควบคุมการพังทลายของดิน (5) การปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินและ (6) ระดับความยั่งยืนของการผลิตพืช ประสบการณ์เหล่านี้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาระบบวนเกษตรที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปัจจัยการผลิตว่า iCal เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเส้นใยอาหารสัตว์, อาหารและไม้ฟืนมีความพร้อมอยู่แล้วส่งผลให้ในความเสื่อมโทรมของที่ดินและเร่งการสูญเสียผลผลิตของดิน (stoorvogel et al, 1993 tolba1993 ) แม้จะมีหลายทศวรรษของการวิจัยเกี่ยวกับความหนาแน่นของการเกษตรที่อาศัยน้ำฝนในพื้นที่สูงและชื้นเขตร้อน subhumid ความพยายามที่จะพัฒนาแก้วนำแสงที่ยั่งยืนและมีประสิทธิผลมากขึ้นระบบการผลิตพืชอาหารได้ไกลมีเพียง จำกัด ประสบความสำเร็จ (คังและคณะ 1991) ที่ดอนอาศัยน้ำฝนแบบดั้งเดิมในการทำการเกษตร เขตร้อนเป็น practsed ส่วนใหญ่ในพื้นที่ครอบงำโดยทั้ง alfisolf สถานะฐานที่สูงหรือกรดและ oisols สถานะฐานที่ต่ำและ ultisols ทั้งหมดเป็นดินที่มีความเปราะบางระดับปานกลางถึงต่ำมากความอุดมสมบูรณ์ผลสถานะของหลายปีของการวิจัยแสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้การจัดการส่วนประกอบที่จำเป็นในการรักษา ผลผลิตของดินเหล่านี้1.maintenance ของดินที่เพียงพอและสารอินทรีย์ในดินพื้นผิวการรบกวนผิวดิน 2.minimal ปุ๋ยและการใช้มะนาว 3.judicious 4.intercropping 5.fallowing และการปลูกพืชหมุนเวียนแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้กันว่าสารเคมีภายนอก ทำให้มีความจำเป็นเพื่อให้บรรลุพืชสูงอย่างต่อเนื่องทำให้ความพร้อมและค่าใช้จ่าย (ไม่รวมเงินอุดหนุน) พวกเขาอาจจะต้องห้ามสำหรับการใช้งานของพวกเขาในการผลิตพืชอาหารในประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากนอกจากนี้ยังมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องของปัจจัยการผลิตสารเคมีภายนอกสูงเท่านั้นที่สามารถส่งผลในการเพิ่มความเสื่อมโทรมของที่ดินที่ไม่ดี ดินบนพื้นที่สูงบัฟเฟอร์ (Pichot et al, 1981 กังและ Balasub ramanian 1990) ดังนั้นจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ดินแบบบูรณาการทางเลือกและการจัดการสารอาหารที่ได้รับการพัฒนาระบบที่สามารถเพิ่มการรวมตัวกันของแหล่งที่มาของสารอาหารชีวภาพและสารอินทรีย์นี้ยังจะช่วยให้การใช้งานที่ลดลงของปัจจัยการผลิตสารอาหารภายนอก . ดังนั้นจึงมีความสนใจที่เพิ่มขึ้นในการพัฒนาระบบการผลิตทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับการรวมตัวกันของสมุนไพรที่ดีขึ้นและไม้ fallows จุดมุ่งหมายหลักที่ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิผลมากขึ้นระบบการผลิตพืชอาหารโดยใช้ปัจจัยการผลิตสารเคมีภายนอกต่ำเป็นทางเลือกในการแบบดั้งเดิมหนึ่งระบบการทำฟาร์ม ระบบดังกล่าวที่รวมเอาการใช้ไม้ชนิดนี้เป็นระบบการปลูกพืชซอยบทความนี้จะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของการปลูกพืชซอยในการบำรุงรักษาประสิทธิภาพการผลิตของดินและการรีไซเคิลสารอาหารที่อยู่บนฐานสูงสถานะของดิน2 เทคนิคการปลูกพืช Alley ซอยปลูกพืชที่เรียกว่าเป็นพุ่มแซมและ การเกษตรรูปร่างเป็นระบบย่อยวนเกษตรเขตที่เกี่ยวข้องกับแซมของต้นไม้และพุ่มไม้อเนกประสงค์ (MPTS) และพืชอาหารในซอยปลูกพืช MPTS มีการเจริญเติบโตในพุ่มไม้ที่มีการจัดการและพืชมีการเจริญเติบโตในทุก (รูปที่ 1) นี้จัดเป็นวงวนเกษตรช่วยให้การรวมของช่วงกว้างของพันธุ์ไม้กว่าระบบวนเกษตรผสมเพราะการจัดพื้นที่ของส่วนประกอบพืช จำกัด ความใกล้ชิดจัดนอกจากนี้ยังอำนวยความสะดวกในตัวเลือกการจัดการที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อลดการแข่งขันและเพิ่ม complementarity ระหว่างต้นไม้และพืช (คัง และวิลสัน 1987) ในช่วงระยะเวลาการปลูกพืชพุ่มไม้ที่มีการตัดแต่งเป็นระยะ ๆ เพื่อลดการแรเงาของพืชสหายเมื่อมีการปลูกพืชในเขตพุ่มไม้จะได้รับอนุญาตที่จะเติบโตได้อย่างอิสระเพื่อให้ครอบคลุมดินแดนที่ไม่มีเทคนิคที่มีขนาดกลางแม้ในขั้นต้น ที่พัฒนาขึ้นสำหรับครอบครัวฟาร์มรายย่อยก็ยังสามารถใช้เครื่องจักรสำหรับการทำการเกษตรขนาดใหญ่แนวคิดของการปลูกพืชซึ่งบางครั้งเรียกว่าการปรับปรุงระบบป่ารกร้างอยู่บนพื้นฐานของหลักการดังต่อไปนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
ในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมามีความกังวลเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับ exhaustibility ไม่ใช่ทรัพยากรดินทดแทนในการพัฒนาประเทศในเขตร้อน เพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นปัจจุบันและอนาคต . ความเสื่อมโทรมของที่ดินเป็นปัญหาใหญ่ในหลายส่วนของเขตร้อน รวมทั้ง subsaharan แอฟริกาส่วนใหญ่เนื่องจากการเอาเปรียบของพืชและทรัพยากรดินและการใช้ inappropiate วิธีการทำนา ความท้าทายคือการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรที่ยั่งยืนของที่ดินกระผมยอมรับได้เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของมนุษย์ ในขณะที่การรักษาฐานทรัพยากรดินและลดการเสื่อมสภาพของสิ่งแวดล้อมหนึ่งเทคโนโลยีที่สามารถตอบสนอง ความต้องการข้าวไร่ทำนากับปัจจัยภายนอกคือสารเคมีต่ำในการระบบ เทคโนโลยีนี้รวมต้นไม้และพุ่มไม้ในพื้นที่เขตจัดการกับพืชอาหารในระบบผลิต การปรากฏตัวของวู้ดดี้สายพันธุ์ในการผลิตระบบในการได้รับการแสดงเพื่อสนับสนุนการรีไซเคิล ( 1 ) อาหารเสริม( 2 ) การลดการชะล้างธาตุอาหารในดินสูญเสีย ( 3 ) การกระตุ้นสูงกว่าดิน faunal กิจกรรม ( 4 ) การควบคุมการพังทลายของดิน ( 5 ) และ ( 6 ) การปรับปรุงความอุดมสมบูรณ์ของดินอย่างยั่งยืน ระดับของการผลิตพืช ประสบการณ์เหล่านี้จะสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน และระบบวนเกษตร เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม





กระผม iCal เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับเส้นใยอาหารสัตว์เลี้ยงแล้วไม้ได้พร้อมมีผลในการเร่งการย่อยสลายและการสูญเสียผลผลิตที่ดินดิน ( stoorvogel et al 1993 tolba1993 ) แม้จะมีหลายทศวรรษของการวิจัยการเกษตรแบบประณีตในน้ำฝนในเขตร้อนชื้น และ subhumid ความพยายามพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากขึ้นดีมีคุณค่าระบบการผลิตพืชอาหารได้ไกล มีความสำเร็จ ( คัง et al , จำกัด
ข้าวไร่ทำนาแบบดั้งเดิมในเขตร้อน ส่วนใหญ่ practsed ในพื้นที่การปกครองโดยให้สูงหรือต่ำ alfisolf ฐานสถานะกรดและฐานปฏิบัติการทั้งหมดและสถานะ oisols เปราะดินที่มีปานกลางถึงต่ำมากผลสถานภาพความอุดมสมบูรณ์ของหลายปีของการวิจัยได้แสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้



การจัดการส่วนประกอบมีความจำเป็นเพื่อรักษาผลผลิตเหล่านี้ ดิน
1าคลุมดินที่เพียงพอ และอินทรีย์วัตถุในดิน
2.minimal ผิวดิน ปุ๋ย และปูนขาว ใช้ 3.judicious รบกวน

4 . ระบบ 5.fallowing

และการปลูกพืชหมุนเวียนแม้ว่ามันจะเป็นที่รู้จักกันว่าภายนอกเคมีในทำให้จะต้องบรรลุยั่งยืนสูงผลผลิตพืชของพวกเขาห้องพักและค่าใช้จ่าย ( เงินอุดหนุน ) อาจเป็นข้อห้ามใช้ในการผลิตพืชอาหารในประเทศพัฒนาหลาย

.นอกจากนี้การใช้อย่างต่อเนื่องเพียงสูงภายนอก กระผมเคมีได้ผลในการเพิ่มขึ้น ความเสื่อมโทรมของที่ดินในงานในที่ดอน ( pichot et al 1981 คังและ balasub ramanian 1990 ) จึงขวางแบบบูรณาการระบบการจัดการดินและธาตุอาหารที่มีการพัฒนาที่สามารถเพิ่มการประสานแหล่งธาตุอาหารทางชีวภาพ และวัสดุอินทรีย์
นี้จะช่วยลดการใช้ปัจจัยการผลิตจากภายนอก จึงมีสารอาหาร .
ให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้นในการพัฒนาระบบการผลิตทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงและไม้ล้มลุก ไม้ยืนต้น ฟาลโลว์ส .
จุดประสงค์หลักที่ได้รับการพัฒนาอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพมากกว่าพืชอาหารการผลิตโดยใช้ระบบข้อมูลสารเคมีต่ำภายนอกเป็นทางเลือกในระบบการทำฟาร์มแบบดั้งเดิมเช่นระบบที่ประกอบด้วยการใช้ไม้ชนิดที่เป็นตรอกการ
กระดาษนี้จะอธิบายอย่างละเอียดในบุญในการบำรุงรักษาดินและธาตุอาหารในดินการรีไซเคิลสถานะฐานสูง


2 ในการเทคนิคในการเรียกว่าแบบติสต์ในระบบการเลี้ยงแบบวนเกษตรและรูปโฉมเป็นระบบที่เกี่ยวข้องกับระบบของอเนกประสงค์ ต้นไม้และพุ่มไม้ ( mpts )
และพืชอาหารในการ mpts ในการเติบโตในการจัดการลูกค้าและพืชปลูกในทั้งหมด ( รูปที่ 1 ) การจัดแบบวนเกษตร
นี้ให้รวมของช่วงกว้างของไม้ยืนต้นชนิดกว่าระบบวนเกษตร ผสม เพราะจัดพื้นที่พืชส่วนประกอบจำกัด
ความใกล้ชิดยังอำนวยความสะดวกในการจัดตัวเลือกการจัดการที่ยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อลดการแข่งขันและเพิ่มข้อมูลระหว่างต้นไม้และพืช ( คังและวิลสัน 1987 ) ในช่วงระยะเวลาการปลูกพืช
กระหายจะได้รับเป็นระยะ ๆเพื่อลดแรเงาของคู่หูพืช .
เมื่อไม่มีพืชผลในทุ่งนา ลูกค้าได้รับอนุญาตให้เติบโตได้อย่างอิสระเพื่อให้ครอบคลุมแผ่นดิน
เทคนิคคือ มาตราส่วนกลาง
ถึงแม้ว่าสร้างสรรค์พัฒนาโครงสร้างครอบครัวฟาร์มมันยังสามารถ mechanized สำหรับฟาร์มขนาดใหญ่ .
แนวคิดในการซึ่งบางครั้งเรียกว่าการปรับปรุงระบบป่าที่รกร้าง
ตามหลักการดังต่อไปนี้