Formaldehyde is irritating to tissu

Formaldehyde is irritating to tissues when it comes into direct contact with them. Some people are more sensitive to the effects of formaldehyde than others. The most common symptoms include irritation of the eyes, nose, and throat, along with increased tearing, which occurs at air concentrations of about 0.4–3 parts per million (ppm). NIOSH states that formaldehyde is immediately dangerous to life and health at 20 ppm. One large study of people with asthma found that they may be more sensitive to the effects of inhaled formaldehyde than other people; however, many studies show that they are not more sensitive. Severe pain, vomiting, coma, and possible death can occur after drinking large amounts of formaldehyde. Skin can become irritated if it comes into contact with a strong solution of formaldehyde.

To protect the public from the harmful effects of toxic chemicals and to find ways to treat people who have been harmed, scientists use many tests.

Additionally, there are vigorous national and international efforts to develop alternatives to animal testing. The efforts focus on both in vitro and in silico approaches and methods. For example, the National Toxicology Program (NTP) at the National Institute of Environmental Health Sciences (NIEHS) created the NTP Interagency Center for the Evaluation of Alternative Toxicological Methods (NICEATM) in 1998. The role of NICEATM is to serve the needs of high quality, credible science by facilitating development and validation—and regulatory and public acceptance—of innovative, revised test methods that reduce, refine, and replace the use of animals in testing while strengthening protection of human health, animal health and welfare, and the environment. In Europe, similar efforts at developing alternatives to animal based testing are taking place under the aegis of the European Centre for the Validation of Alternative Methods (ECVAM).

Several studies of laboratory rats exposed for life to high amounts of formaldehyde in air found that the rats developed nose cancer. Some studies of humans exposed to lower amounts of formaldehyde in workplace air found more cases of cancer of the nose and throat (nasopharyngeal cancer) than expected, but other studies have not found nasopharyngeal cancer in other groups of workers exposed to formaldehyde in air. The Department of Health and Human Services (DHHS) has determined that formaldehyde may reasonably be anticipated to be a human carcinogen (NTP). The International Agency for Research on Cancer (IARC) has determined that formaldehyde is probably carcinogenic to humans. This determination was based on specific judgments that there is limited evidence in humans and sufficient evidence in laboratory animals that formaldehyde can cause cancer. The Environmental Protection Agency (EPA) has determined that formaldehyde is a probable human carcinogen based on limited evidence in humans and sufficient evidence in laboratory animals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฟอร์มาลดีไฮด์จะเคืองกับเนื้อเยื่อเมื่อมันมาติดต่อโดยตรงกับพวกเขา บางคนจะมีความไวต่อผลกระทบของฟอร์มาลดีไฮด์กว่าผู้อื่น อาการพบบ่อยที่สุดได้แก่ระคายเคืองตา จมูก และ คอ พร้อมกับฉีกขาดเพิ่มขึ้น ที่เกิดขึ้นที่ความเข้มข้นของอากาศประมาณ 0.4 – 3 ส่วนต่อล้าน (ppm) NIOSH ได้ระบุว่า ฟอร์มาลดีไฮด์ทันทีอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพที่ 20 แผ่น/นาที หนึ่งการศึกษาขนาดใหญ่ของคนที่มีโรคหืดพบว่า พวกเขาอาจจะอ่อนไหวมากกับลักษณะพิเศษของฟอร์มาลดีไฮด์ดมกว่าคนอื่น ๆ อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาแสดงว่า พวกเขาจะไม่อ่อนไหว อาการปวดรุนแรง อาเจียน หมดสติ และตายได้อาจเกิดขึ้นหลังจากดื่มจำนวนมากของฟอร์มาลดีไฮด์ สามารถกลายเป็นระคายผิวถ้ามันไปยังฝั่งโซลูชั่นที่แข็งแกร่งของฟอร์มาลดีไฮด์เพื่อปกป้องประชาชนจากอันตรายของสารเคมีที่เป็นพิษ และหาวิธีการเยียวยาผู้ได้รับอันตราย นักวิทยาศาสตร์ใช้ในการทดสอบนอกจากนี้ มีความคึกคัก และนานาชาติเพื่อสร้างทางเลือกเพื่อการทดสอบในสัตว์ ความพยายามทั้งการเพาะเลี้ยง และ ใน silico แนวทางและวิธีการ ตัวอย่าง การชาติพิษวิทยาโปรแกรม (NTP) ที่ในชาติสถาบันของสิ่งแวดล้อมวิทยาศาสตร์สุขภาพ (NIEHS) สร้างศูนย์ Interagency NTP สำหรับการประเมินผลของทางเลือก Toxicological วิธี (NICEATM) ในปี 1998 บทบาทของ NICEATM จะให้บริการความต้องการของคุณภาพ วิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ โดยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาและตรวจสอบกัน และการยอมรับของสาธารณะ และกำกับดูแล — ของนวัตกรรม ปรับปรุงวิธีการทดสอบที่ลด จำกัด และแทนการใช้สัตว์ในการทดสอบในขณะที่เสริมสร้างการป้องกันสุขภาพของมนุษย์ สัตว์ และสวัสดิการ และสิ่งแวดล้อม ในยุโรป ความคล้ายที่พัฒนาแทนสัตว์ที่ใช้ในการทดสอบจะมีสถานภายใต้การสนับสนุนของศูนย์ยุโรปสำหรับการตรวจสอบของทางเลือกวิธี (ECVAM)ศึกษาหลายของหนูห้องปฏิบัติการที่ถูกชีวิตยอดสูงของฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศพบว่า หนูที่ได้รับการพัฒนามะเร็ง บางการศึกษาของมนุษย์สัมผัสเพื่อลดจำนวนของฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศที่ทำงานที่พบเพิ่มเติมกรณีมะเร็งของจมูกและจมูก (nasopharyngeal มะเร็ง) กว่าที่คาดไว้ แต่อื่น ๆ ศึกษาได้พบมะเร็ง nasopharyngeal กลุ่มผู้ปฏิบัติงานที่สัมผัสกับฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศ แผนกของสุขภาพและฝ่ายบริการ (DHHS) ได้กำหนดว่า การฟอร์มาลดีไฮด์สมอาจคาดว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งกับมนุษย์ (NTP) หน่วยงานนานาชาติเพื่อการวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง (IARC) ได้กำหนดว่าฟอร์มาลดีไฮด์อาจ carcinogenic กับมนุษย์ เรื่องนี้เป็นไปตามคำพิพากษาระบุว่า มีหลักฐานจำกัดในมนุษย์และหลักฐานที่เพียงพอในห้องปฏิบัติการสัตว์ว่า ฟอร์มาลดีไฮด์สามารถทำให้เกิดโรคมะเร็ง หน่วยงานป้องกันสิ่งแวดล้อม (EPA) ได้กำหนดว่าฟอร์มาลดีไฮด์น่าเป็นมนุษย์สารก่อมะเร็งตามหลักฐานที่จำกัดในมนุษย์และหลักฐานเพียงพอในห้องปฏิบัติการสัตว์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟอร์มาลดีไฮด์เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อเมื่อมันเข้ามาในการติดต่อโดยตรงกับพวกเขา บางคนมีความไวต่อผลกระทบของฟอร์มาลดีไฮด์กว่าคนอื่น ๆ อาการที่พบบ่อยมากที่สุด ได้แก่ การระคายเคืองตาจมูกและลำคอพร้อมกับฉีกขาดเพิ่มขึ้นซึ่งเกิดขึ้นที่ระดับความเข้มข้นในอากาศประมาณ 0.4-3 ส่วนต่อล้านส่วน (ppm) NIOSH ระบุว่าไฮด์ทันทีที่เป็นอันตรายต่อชีวิตและสุขภาพที่ 20 ppm หนึ่งการศึกษาขนาดใหญ่ของคนที่มีโรคหอบหืดพบว่าพวกเขาอาจจะมีความไวต่อผลกระทบจากการสูดดมฟอร์มาลดีไฮด์กว่าคนอื่น ๆ ; แต่การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีความสำคัญมากขึ้น อาการปวดอย่างรุนแรงอาเจียนอาการโคม่าและตายไปได้ที่อาจเกิดขึ้นหลังจากดื่มจำนวนมากของดีไฮด์ ผิวจะกลายเป็นหงุดหงิดถ้ามันเข้ามาติดต่อกับวิธีการแก้ปัญหาที่แข็งแกร่งของฟอร์มาลดีไฮด์. เพื่อปกป้องประชาชนจากผลกระทบที่เป็นอันตรายของสารเคมีที่เป็นพิษและจะหาวิธีการในการรักษาผู้ที่ได้รับอันตรายนักวิทยาศาสตร์ใช้การทดสอบหลาย. นอกจากนี้ยังมีพลังแห่งชาติ และความพยายามของนานาชาติในการพัฒนาทางเลือกในการทดสอบในสัตว์ ความพยายามมุ่งเน้นทั้งในหลอดทดลองและในวิธี silico และวิธีการ ยกตัวอย่างเช่นโปรแกรมพิษวิทยาแห่งชาติ (NTP) ที่สถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติสุขภาพสิ่งแวดล้อม (NIEHS) สร้างศูนย์ระหว่าง NTP สำหรับการประเมินผลของวิธีการทางพิษวิทยาทางเลือก (NICEATM) ในปี 1998 บทบาทของ NICEATM คือการตอบสนองความต้องการของสูง คุณภาพวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือโดยอำนวยความสะดวกในการพัฒนาและการตรวจสอบและกำกับดูแลและประชาชนยอมรับนวัตกรรมการปรับปรุงวิธีการทดสอบที่ช่วยลดการปรับแต่งและแทนที่การใช้สัตว์ในการทดสอบในขณะที่การเสริมสร้างการคุ้มครองสุขภาพของมนุษย์สุขภาพสัตว์และสวัสดิการและสิ่งแวดล้อม . ในยุโรปมีความพยายามที่คล้ายกันในการพัฒนาทางเลือกในการทดสอบตามสัตว์ที่เกิดขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของศูนย์ยุโรปสำหรับการตรวจสอบของวิธีการทางเลือก (ECVAM). การศึกษาหลายแห่งของหนูทดลองสัมผัสสำหรับชีวิตปริมาณสูงของดีไฮด์ในอากาศพบว่า หนูเป็นมะเร็งจมูก บางการศึกษาของมนุษย์สัมผัสในการลดปริมาณของดีไฮด์ในอากาศในสถานที่ทำงานพบว่ากรณีของโรคมะเร็งของจมูกและลำคอ (มะเร็งโพรงหลังจมูก) กว่าที่คาดไว้ แต่การศึกษาอื่น ๆ ยังไม่พบโรคมะเร็งโพรงหลังจมูกในกลุ่มอื่น ๆ ของคนงานที่สัมผัสกับไฮด์ในอากาศ กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ (DHHS) ได้กำหนดให้ดีไฮด์พอสมควรอาจจะคาดว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งของมนุษย์ (NTP) หน่วยงานระหว่างประเทศเพื่อการวิจัยมะเร็ง (IARC) ได้กำหนดให้ดีไฮด์น่าจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ความมุ่งมั่นนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินที่ระบุว่ามีหลักฐาน จำกัด ในมนุษย์และหลักฐานเพียงพอในสัตว์ทดลองที่ไฮด์สามารถทำให้เกิดมะเร็ง สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม (EPA) ได้กำหนดให้ดีไฮด์เป็นสารก่อมะเร็งที่มนุษย์น่าจะเป็นบนพื้นฐานของหลักฐานที่ จำกัด ในมนุษย์และหลักฐานเพียงพอในสัตว์ทดลอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฟอร์มาลดีไฮด์จะระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อเมื่อมันมาอยู่ในการติดต่อโดยตรงกับพวกเขา บางคนมีความไวต่อผลกระทบของฟอร์มาลดีไฮด์มากกว่าคนอื่น ๆ อาการที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ การระคายเคืองของตา จมูก คอ เพิ่มขึ้นพร้อมกับฉีก , ซึ่งเกิดขึ้นในอากาศ ความเข้มข้นประมาณ 0.4 – 3 ส่วน ต่อล้านส่วน ( ppm )รัฐอย่างที่ฟอร์มาลดีไฮด์เป็นอันตรายทันที เพื่อชีวิตและสุขภาพที่ 20 ppm หนึ่งการศึกษาขนาดใหญ่ของคนที่มีโรคหอบหืดที่พบว่าพวกเขาอาจจะมีความไวต่อผลกระทบของสูดดมฟอร์มาลดีไฮด์กว่าคนอื่น อย่างไรก็ตาม การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้มีความไวมากขึ้น ความเจ็บปวดรุนแรง อาเจียน หมดสติ และเสียชีวิตที่เป็นไปได้อาจเกิดขึ้นหลังจากการดื่มปริมาณมากของฟอร์มาลดีไฮด์ผิวจะกลายเป็นหงุดหงิด ถ้ามันมาอยู่ในการติดต่อกับโซลูชันที่แข็งแกร่งของฟอร์มาลดีไฮด์

เพื่อปกป้องประชาชน จากผลกระทบที่เป็นอันตรายของสารเคมีที่เป็นพิษ และเพื่อหาแนวทางในการรักษาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ นักวิทยาศาสตร์ใช้การทดสอบมากมาย

นอกจากนี้ มีความพยายามเข้มแข็งระดับชาติและนานาชาติเพื่อพัฒนาทางเลือกในการทดสอบสัตว์ความพยายามที่มุ่งเน้นทั้งในหลอดทดลองและในสำหรับวิธีและวิธีการ ตัวอย่างเช่นโปรแกรมพิษวิทยาแห่งชาติ ( NTP ) ที่สถาบันแห่งชาติของวิทยาศาสตร์อนามัยสิ่งแวดล้อม ( niehs ) สร้างศูนย์การ NTP สำหรับการประเมินวิธีการผลิตทางเลือก ( niceatm ) ในปี 1998 บทบาทของ niceatm เพื่อตอบสนองความต้องการคุณภาพสูงวิทยาศาสตร์ที่น่าเชื่อถือ โดยการส่งเสริมการพัฒนาและการตรวจสอบและกฎระเบียบและการยอมรับของประชาชนต่อนวัตกรรม วิธีการทดสอบที่ปรับลด ปรับแต่ง และแทนการใช้สัตว์ในการทดสอบในขณะที่การเพิ่มการคุ้มครองสุขภาพมนุษย์ สุขภาพและสวัสดิภาพสัตว์ และสภาพแวดล้อม ในยุโรปความพยายามที่คล้ายกันพัฒนาทางเลือกการทดสอบโดยใช้สัตว์เกิดขึ้นภายใต้การคุ้มครองของศูนย์ยุโรปสำหรับการตรวจสอบความถูกต้องของวิธีการทางเลือก ( ecvam ) .

หลายการศึกษาห้องปฏิบัติการหนูสัมผัสชีวิตสูง ปริมาณของฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศ พบว่า หนูพัฒนาเป็นมะเร็งจมูกบางการศึกษาของมนุษย์สัมผัสกับปริมาณต่ำของฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศในสถานที่ทำงานที่พบเพิ่มเติมกรณีของมะเร็งของจมูก และคอ มะเร็งหลังโพรงจมูก ) กว่าที่คาดไว้ แต่การศึกษาอื่น ๆไม่พบมะเร็งหลังโพรงจมูก ในกลุ่มอื่น ๆของคนงานที่สัมผัสกับฟอร์มาลดีไฮด์ในอากาศกรมสุขภาพและบริการมนุษย์ ( dhhs ) ได้ระบุว่า ฟอร์มาลดีไฮด์อาจเหมาะสมถูกคาดหวังว่าจะเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ ( NTP ) หน่วยงานวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ ( ร่วมกับ ) ได้ระบุว่า ฟอร์มาลดีไฮด์อาจเป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์การตัดสินใจนี้ถูกยึดคำตัดสินระบุว่ามีหลักฐานที่ จำกัด ในมนุษย์ และหลักฐานเพียงพอในสัตว์ทดลองที่ฟอร์มาลดีไฮด์สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ หน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ( EPA ) ได้ระบุว่า ฟอร์มาลดีไฮด์ เป็นสารก่อมะเร็งในมนุษย์ น่าจะเป็นหลักฐานจำกัดในมนุษย์ และหลักฐานที่เพียงพอในสัตว์ทดลอง