Ophthalmic symptoms were more preva

Ophthalmic symptoms were more prevalent in the PPAP building than the PMA building "itchy, dry and irritation eyes" 44% and 16% "headache" 33% and 16% "unusual tiredness, and drowsiness" 22% and 5% On the other hand, these types of symptom were more prevalent in the PMA building than the PPAP building "strained eyes, tired eyes" 24% and 11% and "dizziness or lightheartedness"27% and 22%. there are no prevalence both of the PKBF and the PPAP building were observed for respiratory symptoms as well as "difficulty in breath" and "shortness of breath"However, the PMA building only demonstrated low prevalence for both of these symptoms (11%). Pertaining to physiological symptoms, the PPAP building has prevalence of "tension, irritability and nervousness" 16%, "difficulty concentration or remembering things" 14% and "feeling depresed" 11%, instead of the PMA buildings which only has a prevalence of "difficulty cocncentrating or remembering things" 11% The PPAP and the PMA building depicted the prevalence on "dry or itchy skin" 14% and 22%, and "nausea and upset stomach" 3% and 11%. As indicated in Table 2.both ophthalmic and respiratory irritations are common symptoms in indoor environment [7, 8]. The responses to questionnaires regarding the frequency of such symptoms were used to define and categorize
respondents with the SBS symptoms. A frequency of at least 1 to 3 items per week together with reported relief of these symptoms after left the building was the SBS "case definiton" Table 3 showed that a comparison of the prevalence of SBS
symptoms between three selected building. The PKBF building pointed out the highest percentage (55.55%) of the
respondents reported was confirmed the SBS symptoms and can be designated as a sick building. Second highest was the
PPAP building with 35.25% and then followed by the PMA building with 20% of total respondents. The comparison of the
prevalence of SBS between three buildings was conducted via Chi-Squared test. A Chi-square test for independence (with
Yates Continuity Correction) indicated no significant association between the three buildings and SBS occurrence, (n = 51, 2 = 1.997, P = 0.368). It was believed that etiology of SBS probably influenced by the other stressors such psychological,
ergonomics of the work, stress level, job satisfaction, position in the hierarchy of the organization and other environmeental conditions [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาการ ophthalmic ได้แพร่หลายมากขึ้นใน PPAP อาคารมากกว่าอาคาร PMA "แห้ง คัน และระคายเคืองตา" 44% และ 16% "ปวดศีรษะ" 33% และ "16% เทวัญดาราสปาที่ผิดปกติ และมี" 22% และ 5% ในทางกลับกัน ชนิดของอาการเหล่านี้ได้แพร่หลายมากขึ้นในอาคาร PMA กว่า PPAP อาคาร "ย้ำตา เหนื่อยตา" 24% และ 11% และ "มึนหรือ lightheartedness" 27% และ 22% มีชุกไม่ทั้ง PKBF และอาคาร PPAP ได้สังเกตอาการทางเดินหายใจเช่นเดียวกับ "ความยากลำบากในลมหายใจ" และ "ลมหายใจ" อย่างไรก็ตาม อาคาร PMA เฉพาะแสดงชุกต่ำทั้ง (11%) อาการเหล่านี้ เกี่ยวกับอาการสรีรวิทยา อาคาร PPAP มีชุก "ความตึงเครียด irritability และ nervousness" 16%, 14% "สมาธิยากหรือจดจำสิ่ง" และ "ความรู้สึก depresed" 11% แทนอาคาร PMA ซึ่งมีชุก% 11 "cocncentrating ยากหรือจดจำสิ่งที่" อาคาร PMA และ PPAP ที่แสดงชุก "แห้ง หรือคันผิว" 14% และ 22% และ "กระเพาะอาหารคลื่นไส้และอารมณ์เสีย" 3% และ 11% ตามที่ระบุในตาราง 2. ophthalmic และทางเดินหายใจ ระคายเคืองต่อเป็นอาการที่พบบ่อยในสภาพแวดล้อมภายในอาคาร [7, 8] ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความถี่ของอาการดังกล่าวถูกใช้เพื่อกำหนด และจัดประเภทตอบ ด้วยอาการ SBS ความถี่ของรายการที่ 1 ถึง 3 ต่อสัปดาห์พร้อมรายงานบรรเทาอาการเหล่านี้หลังจากซ้ายอาคารได้ SBS "กรณี definiton" ตาราง 3 พบว่าการเปรียบเทียบความชุกของ SBSอาการระหว่างสามเลือกอาคาร อาคาร PKBF ชี้ให้เห็นเปอร์เซ็นต์สูงสุด (ร้อยละ 55.55) ของการตอบรายงานไม่ยืนยันอาการ SBS และสามารถกำหนดเป็นอาคารป่วย สอง สูงที่สุดจากนี้PPAP อาคาร 35.25% และตามอาคาร PMA กับ 20% ของผู้ตอบทั้งหมด การเปรียบเทียบการชุกของ SBS ระหว่างอาคาร 3 ได้ดำเนินการผ่านการทดสอบไคสแควร์ ทดสอบแบบ Chi-square อิสระ(เยตส์ความต่อเนื่องการแก้ไข) ระบุไม่เชื่อมโยงที่สำคัญระหว่างอาคาร 3 และ SBS เกิด, (n = 51, 2 = 1.997, P = 0.368) ถือว่าว่าวิชาการของ SBS ที่อาจได้รับอิทธิพลจากลดอื่น ๆ เช่นจิตวิทยาให้การทำงาน ระดับความเครียด ความพึงพอใจในงาน วางในลำดับชั้นขององค์กรและ environmeental อื่น ๆ เงื่อนไข [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาการโรคตาเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในอาคาร PPAP กว่าอาคาร PMA "คันแห้งและระคายเคืองตา" 44% และ 16% "ปวดหัว" 33% และ 16% "ความเมื่อยล้าที่ผิดปกติและอาการง่วงนอน" 22% และ 5% ในทางกลับกัน ประเภทนี้อาการเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นในอาคาร PMA กว่าอาคาร PPAP "ตาเครียดตาเหนื่อย" 24% และ 11% และ "อาการวิงเวียนศีรษะหรือเบิกบานใจ" 27% และ 22% มีความชุกไม่มีทั้งสอง PKBF และอาคาร PPAP พบอาการระบบทางเดินหายใจเช่นเดียวกับ "ความยากลำบากในลมหายใจ" และ "หายใจถี่" อย่างไรก็ตามอาคาร PMA เพียงแสดงให้เห็นถึงความชุกต่ำสำหรับทั้งสองของอาการเหล่านี้ (11%) ที่เกี่ยวข้องกับอาการทางสรีรวิทยาอาคาร PPAP มีความชุกของ "ความตึงเครียดความหงุดหงิดและความกังวลใจ" 16% "ความเข้มข้นของความยากลำบากหรือสิ่งที่จดจำ" 14% และ "ความรู้สึก depresed" 11% แทนที่จะเป็นอาคาร PMA เท่านั้นที่มีความชุกของ " ความยากลำบาก cocncentrating หรือจดจำสิ่งที่ "11% PPAP และอาคาร PMA ภาพความชุกที่" ผิวแห้งหรือคัน "14% และ 22% และ" อาการคลื่นไส้และปวดท้อง "3% และ 11% ตามที่ระบุไว้ในตารางที่ 2.both ระคายเคืองตาและระบบทางเดินหายใจมีอาการที่พบบ่อยในสภาพแวดล้อมในร่ม [7, 8] การตอบสนองในการตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความถี่ของอาการดังกล่าวถูกนำมาใช้ในการกำหนดและจัดหมวดหมู่ผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอาการทางสถานี SBS
ความถี่อย่างน้อย 1-3 รายการต่อสัปดาห์ด้วยกันด้วยความโล่งอกรายงานของอาการเหล่านี้หลังจากที่ออกจากอาคารที่เป็น SBS "กรณี Definiton" ตารางที่ 3 แสดงให้เห็นว่าการเปรียบเทียบความชุกของ SBS
ที่มีอาการระหว่างสามเลือกอาคาร อาคาร PKBF ชี้ให้เห็นสูงสุดร้อยละ (55.55%)
ของผู้ตอบแบบสอบถามได้รับการยืนยันรายงานอาการSBS และสามารถกำหนดให้เป็นอาคารป่วย ประการที่สองที่สูงที่สุดเป็นอาคาร PPAP กับ 35.25% และแล้วตามด้วยอาคาร PMA กับ 20% ของผู้ตอบแบบสอบถามรวม
การเปรียบเทียบของความชุกของ SBS ระหว่างสามอาคารได้ดำเนินการผ่านการทดสอบไคสแควร์
การทดสอบไคสแควร์เพื่อเอกราช
(กับเยตส์ต่อเนื่องแก้ไข) ระบุไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างสามอาคารและการเกิดเอส (n = 51, 2 = 1.997, P = 0.368) ก็เชื่อว่าสาเหตุของ SBS อาจจะได้รับอิทธิพลจากความเครียดอื่น ๆ
เช่นจิตวิทยาการยศาสตร์ของการทำงานระดับความเครียดพึงพอใจในงานตำแหน่งในลำดับชั้นขององค์กรและเงื่อนไขenvironmeental อื่น ๆ [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการทางตาได้แพร่หลายมากขึ้นในอาคาร PPAP กว่า PMA อาคาร " ระคาย แห้งและระคายเคืองตา " 44% และ 16% " ปวดหัว " 33 % และ 16% " ผิดปกติเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าและง่วงนอน " 22 % และ 5 % ในมืออื่น ๆ ประเภทนี้ของโรคที่แพร่หลายมากขึ้นในอาคารแบบใหม่มากกว่า " ตาตึงเครียด , PPAP อาคารตาเหนื่อย " 24% และร้อยละ 11 และ " วิงเวียนหรือ lightheartedness " 27 % และ 25 %มีความชุกของทั้งคู่ pkbf และอาคาร PPAP พบอาการทางเดินหายใจ รวมทั้ง " ปัญหาในลมหายใจ " และ " หายใจ " อย่างไรก็ตาม อาคาร PMA เพียงแสดงความชุกต่ำทั้งสองอาการเหล่านี้ ( 11% ) เกี่ยวกับอาการทางสรีรวิทยา , อาคาร PPAP มีความชุกของ " ความตึงเครียด , หงุดหงิดและหงุดหงิด " 16 %" สมาธิ หรือความจำเรื่อง " 14 % และ " รู้สึก depresed " 11 เปอร์เซ็นต์ แทนที่จะเป็น PMA อาคารซึ่งมีความชุกของปัญหา cocncentrating หรือจำเรื่อง " 11 , PPAP และอาคาร PMA ภาพชุก " ผิวแห้งหรือ " คัน 14 % และ 22% , และคลื่นไส้ และกระเพาะอาหาร " อารมณ์เสีย ร้อยละ 3 และ 11 % ตามที่ระบุไว้ในตารางที่ 2ทั้งตา และทางเดินหายใจ อาการระคายเคืองอยู่ทั่วไปในสภาพแวดล้อมในร่ม [ 7 , 8 ) ตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับความถี่ของอาการดังกล่าวถูกใช้เพื่อกำหนดและจัดหมวดหมู่
ผู้ตอบด้วย แต่อาการความถี่อย่างน้อย 1 รายการต่อสัปดาห์ พร้อมกับรายงานบรรเทาอาการเหล่านี้หลังจากออกจากตึกเป็น SBS " กรณี definiton " ตารางที่ 3 แสดงให้เห็นว่าการเปรียบเทียบความชุกของอาการ SBS
เลือกระหว่างสามอาคาร อาคาร pkbf ชี้ให้เห็นเปอร์เซ็นต์ ( เท่ากับของ
% )รายงานการสำรวจยืนยันอย่างอาการและสามารถถูกกำหนดให้เป็นอาคารป่วย รองลงมาคือ
PPAP อาคาร 35.25 บาท และตามด้วยอาคารแบบใหม่ 20 % ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด การเปรียบเทียบความชุกของ SBS
ระหว่างสามอาคาร ทำการศึกษาผ่านทาง ชิ พร้อมทดสอบ มีไคสแควร์ทดสอบความเป็นอิสระ (
เยทส์ ความต่อเนื่อง การแก้ไขแบบไม่มีความสัมพันธ์กันระหว่างสามอาคารและ SBS เหตุการณ์ ( n = 51 , 2 = 1.997 , p = 0.368 ) ก็เชื่อว่าสาเหตุของ SBS อิทธิพลอาจจะโดยอื่น ๆเช่น ความเครียดทางจิตใจ
การยศาสตร์ของงาน ระดับความเครียดในงาน ตำแหน่งในลำดับชั้นขององค์กรและเงื่อนไขอื่น ๆ [ 9 ] environmeental