A growing theoretical literature de

A growing theoretical literature describes mechanisms whereby even predictable increases in
the rate of inflation interfere with the ability of the financial sector to allocate resources effectively.
This paper empirically assesses these predictions. The evidence indicates that there is a significant, and
economically important, negative relationship between inflation and both banking sector development
and equity market activity. Further, the relationship is nonlinear. As inflation rises, the marginal impact
of inflation on banking lending activity and stock market development diminishes rapidly. Moreover, we
find evidence of thresholds. For economies with inflation rates exceeding 15 percent, there is a discrete
drop in financial sector performance. Finally, while the data indicate that more inflation is not matched
by greater nominal equity returns in low-inflation countries, nominal stock returns move essentially onefor-
one with marginal increases in inflation in high-inflation economies

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วรรณกรรมทฤษฎีการเติบโตอธิบายกลไกโดยเพิ่มได้แม้อัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อความสามารถของภาคการเงินการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพกระดาษนี้ empirically ประเมินคาดการณ์เหล่านี้ หลักฐานแสดงว่า มีความสำคัญ และสำคัญทางเศรษฐกิจ ลบความสัมพันธ์ระหว่างเงินเฟ้อและทั้งสองธนาคารพัฒนาภาคและกิจกรรมในตลาดหุ้น เพิ่มเติม ความสัมพันธ์จะไม่เชิงเส้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น การกำไรส่งผลกระทบต่อของอัตราเงินเฟ้อในธนาคารสินเชื่อตลาดหลักทรัพย์และกิจกรรม พัฒนาค่อย ๆ หายไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ เราค้นหาหลักฐานของขีดจำกัด สำหรับสภาพเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ มีการแยกกันลดลงประสิทธิภาพการทำงานของภาคการเงิน ในที่สุด ในขณะข้อมูลบ่งชี้ว่า อัตราเงินเฟ้อเพิ่มเติมไม่ได้จับคู่โดยส่งคืนหุ้นระบุมากกว่าประเทศต่ำอัตราเงินเฟ้อ หุ้นกลับระบุย้ายหลัก onefor-มีกำไรเพิ่มขึ้นในอัตราเงินเฟ้อในประเทศอัตราเงินเฟ้อสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เติบโตวรรณกรรมทฤษฎีอธิบายกลไกโดยแม้จะคาดเดาได้ในการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อยุ่งเกี่ยวกับความสามารถของภาคการเงินการจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ.
กระดาษนี้จะสังเกตุการประเมินคาดการณ์เหล่านี้ หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีความสำคัญและความสำคัญทางเศรษฐกิจมีความสัมพันธ์เชิงลบระหว่างอัตราเงินเฟ้อและการพัฒนาภาคการธนาคารและกิจกรรมการตลาดทุน นอกจากนี้ความสัมพันธ์เป็นเชิงเส้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อในกิจกรรมการให้กู้ยืมของธนาคารและการพัฒนาตลาดหุ้นลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เรายังพบหลักฐานของเกณฑ์ สำหรับเศรษฐกิจที่มีอัตราเงินเฟ้อเกินกว่าร้อยละ 15 มีความต่อเนื่องลดลงในประสิทธิภาพการทำงานของภาคการเงิน ในที่สุดขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อมากขึ้นไม่ได้จับคู่โดยผลตอบแทนที่มากขึ้นส่วนน้อยในประเทศที่อัตราเงินเฟ้อต่ำผลตอบแทนหุ้นเล็กน้อยย้าย onefor- หลักหนึ่งที่มีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่อัตราเงินเฟ้อสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การอธิบายกลไกทางทฤษฎีวรรณกรรมซึ่งแม้ทายเพิ่ม
อัตราเงินเฟ้อกระทบกับความสามารถของภาคการเงิน การจัดสรรทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
กระดาษนี้ใช้ประเมินการคาดการณ์เหล่านี้ หลักฐานบ่งชี้ว่ามีนัยสำคัญทางสถิติ และ
ที่สำคัญทางเศรษฐกิจความสัมพันธ์ระหว่างอัตราเงินเฟ้อและทั้งสองภาคการธนาคารพัฒนา
และกิจกรรมตลาดตราสารทุน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์เชิงเส้น ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ส่วนผลกระทบของเงินเฟ้อในกิจกรรมการให้กู้ยืม
การธนาคารและการพัฒนาตลาดหลักทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้เรา
หาหลักฐานของธรณีประตู สำหรับประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้อเกิน 15 เปอร์เซ็นต์ มีแบ่งแยก
วางงานในภาคการเงิน ในที่สุด ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อมากขึ้น ไม่ได้จับคู่โดยมากกว่าปกติ ส่วน
ผลตอบแทนในประเทศ อัตราเงินเฟ้อต่ำ ระบุผลตอบแทนขยับเป็นหลัก onefor -
กับต้นทุนเพิ่มขึ้นในอัตราเงินเฟ้อในประเทศที่อัตราเงินเฟ้อสูง