The microclimate temperature was me

The microclimate temperature was measured with a microclimate temperature sensor placed
above the BDU pants pocket, which is one layer of fabric from the skin of the thermal manikin. The
design of QG II with the open thigh area helped keep microclimate temperature lower than the other
two armor systems for both ballistic materials. In fact, the microclimate temperatures for the three
armor systems only ranged from approximately 32.3_C to 34.6_C, less than 2.5_C. These findings
suggest that a soldier could wear an armor system with the greatest amount of surface coverage without
a large increase to the microclimate temperature. However, it should also be noted that the core
temperature of the thermal manikin was maintained at a constant temperature, whereas a real person’s
core temperature would fluctuate with different activities and external climate influence. It
could benefit the future development of body armor systems to test with real persons, rather than
a thermal manikin.
Declaration of Conflicting Interests
The author(s) declared no potential conflicts of interest with respect to the research, authorship, and/or
publication of this article.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีวัดอุณหภูมิ microclimate มีเซนเซอร์อุณหภูมิ microclimate วางข้างต้น BDU กางเกงกระเป๋า ที่เป็นชั้นหนึ่งของผ้าจากผิวของ manikin ร้อน ที่QG II ออกแบบพื้นที่เปิดต้นขาช่วยให้อุณหภูมิ microclimate ที่ต่ำกว่าอื่น ๆสองระบบเกราะทั้งวัสดุ ballistic ในความเป็นจริง อุณหภูมิ microclimate ใน 3ระบบเกราะเท่านั้น อยู่ในช่วงจากประมาณ 32.3_C เพื่อ 34.6_C น้อยกว่า 2.5_C ผลการวิจัยเหล่านี้แนะนำว่า ทหารสามารถสวมใส่ระบบเกราะเป็นยอดสุดของคลุมผิวไม่การเพิ่มขนาดใหญ่อุณหภูมิ microclimate อย่างไรก็ตาม มันจะยังบันทึกที่หลักอุณหภูมิ manikin ความร้อนถูกเก็บรักษาที่อุณหภูมิคง ในขณะที่ของคนจริงอุณหภูมิแกนจะผันผวนพร้อมกิจกรรมต่าง ๆ และอิทธิพลของสภาพภูมิอากาศภายนอก มันประโยชน์การพัฒนาในอนาคตของระบบเกราะตัวเพื่อทดสอบกับคนจริง rather กว่าmanikin ความร้อนรายงานคอยขัดแย้งกันAuthor(s) การประกาศไม่สนใจของความขัดแย้งอาจเกิดขึ้นกับการวิจัย เสีย และ/หรือการเผยแพร่บทความนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุณหภูมิวัดปากน้ำที่มีเซ็นเซอร์อุณหภูมิปากน้ำวางไว้ดังกล่าวข้างต้นในกระเป๋ากางเกงของคำซึ่งเป็นหนึ่งในชั้นของผ้าออกจากผิวของหุ่นร้อน
การออกแบบของ QG
ครั้งที่สองมีพื้นที่เปิดต้นขาช่วยรักษาอุณหภูมิปากน้ำต่ำกว่าอีกสองระบบเกราะสำหรับวัสดุทั้งขีปนาวุธ ในความเป็นจริงอุณหภูมิปากน้ำสำหรับสามระบบเกราะเท่านั้นตั้งแต่ประมาณ 32.3_C เพื่อ 34.6_C น้อยกว่า 2.5_C การค้นพบนี้ชี้ให้เห็นว่าทหารที่สามารถสวมใส่เสื้อเกราะเป็นระบบที่มีจำนวนมากที่สุดของความคุ้มครองผิวโดยไม่ต้องเพิ่มขึ้นมากที่อุณหภูมิปากน้ำ แต่ก็ควรที่จะตั้งข้อสังเกตว่าแกนอุณหภูมิของความร้อนหุ่นถูกเก็บรักษาไว้ที่อุณหภูมิคงที่ในขณะที่คนจริงของอุณหภูมิหลักจะมีความผันผวนที่มีกิจกรรมที่แตกต่างกันและมีอิทธิพลต่อสภาพภูมิอากาศภายนอก มันจะมีประโยชน์กับการพัฒนาในอนาคตของระบบต่างๆของร่างกายเกราะในการทดสอบกับบุคคลจริงมากกว่าหุ่นความร้อน. ประกาศขัดแย้งความสนใจผู้เขียน (s) ประกาศไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่เกี่ยวกับการวิจัยการประพันธ์และ / หรือการตีพิมพ์บทความนี้.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พระจุลภูมิอากาศอุณหภูมิวัดด้วยแบบ microclimate เซ็นเซอร์อุณหภูมิที่วางไว้
ข้างบน bdu กางเกงกระเป๋า , ซึ่งเป็นหนึ่งในชั้นของผ้าจากผิวของหุ่นความร้อน
ออกแบบ qg II กับบริเวณต้นขาเปิดช่วยให้อุณหภูมิลดลงกว่าอีก
จุลภูมิอากาศสองระบบทั้งเกราะขีปนาวุธ . ในความเป็นจริง , จุลภูมิอากาศอุณหภูมิ 3
ระบบเกราะเท่านั้น มีค่าประมาณ 32.3_c เพื่อ 34.6_c น้อยกว่า 2.5_c พบเหล่านี้
แนะนำให้ทหารใส่ชุดเกราะด้วยระบบที่สุดยอดของความคุ้มครองผิวโดยไม่
เพิ่มขนาดใหญ่กับจุลภูมิอากาศ อุณหภูมิ อย่างไรก็ตาม ก็ควรที่จะตั้งข้อสังเกตว่าแกน
อุณหภูมิของหุ่นความร้อนไว้ที่อุณหภูมิคงที่ ในขณะที่บุคคลจริง
อุณหภูมิหลักจะแปรผันกับกิจกรรมต่าง ๆ และอิทธิพลของบรรยากาศภายนอก มัน
อาจเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเกราะในอนาคตที่จะทดสอบกับบุคคลจริงมากกว่า

เป็นหุ่นความร้อน ประกาศของผลประโยชน์ที่ขัดแย้งกัน
ผู้เขียน ( s ) ประกาศว่า ไม่มีความขัดแย้งที่น่าสนใจเกี่ยวกับการวิจัย การเขียนหนังสือ และ / หรือ การเผยแพร่ของ



บทความนี้