which the Pope is the CEO. Now back

which the Pope is the CEO. Now back to the King. The King of Vatican City has absolute,

unchecked power within the country's borders and his presence makes Vatican City one of only six

remanning absolute monarchies in the world, including Brunei, Oman, Qatar, Saudi Arabia, and

Swaziland. The King's absolute power is why Vatican City can't join the European Union because

only democracies are allowed. Through Vatican City does, strictly speaking, have a legislative

brach of government – staffed by cardinals, appointed by the pope -- the King of Vatican City can

overrule their decisions and at any time for any reason.

So why do you never hear about the King of Vatican City? Because though King and Pope

are two different roles, they just happen to be occupied by the same person at the same

time -- which has the funny consequence that, because the Pope is elected and the King is
all-powerful but they're the same guy it makes Vatican City the world's only elected, non-hereditary

absolute monarchy. It's this dual-role that makes untangling Vatican City so difficult because the

Pope, depending on the situation either acts as The King of the country of Vatican City or

the Pope of the Holy See. Got it? No? OK, here's an analogy:

Imagine if a powerful international company, say Grey Industries, had a CEO who convinced

the United States to give one of its islands to the Company which then made the island

into a new country -- Greytropolis -- with an absolute monarchy as its government and

the law that the King of Greytropolis is, by definition, the CEO of Grey Industries.

It's pretty obvious at that point that the CEO should move his corporate headquarters

to the new nation -- so that the laws of the country can benefit the company and the company's


global reach can benefit the country. As for the man in the middle sometimes it's good


to the the CEO and sometimes it's good to be the king. That is essentially Vatican City.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมเด็จพระสันตะปาปาซึ่งเป็นซีอีโอ ตอนนี้กลับมาต่อพระมหากษัตริย์ พระมหากษัตริย์ของนครวาติกันมีแน่นอนอำนาจตรวจสอบภายในพรมแดนของประเทศและการปรากฏตัวของเขาทำให้นครวาติกันหนึ่งในหกremanning กษัตริย์แน่นอนในโลกรวมทั้งบรูไนโอมานกาตาร์, ซาอุดีอาระเบียและประเทศสวาซิแลนด์ อำนาจเด็ดขาดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือเหตุผลที่นครวาติกันไม่สามารถเข้าร่วมสหภาพยุโรปเพราะประชาธิปไตยเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาต ผ่านนครวาติกันไม่พูดอย่างเคร่งครัดมีกฎหมายสาขาของรัฐบาล - บุคลากรโดยพระคาร์ดินัลรับการแต่งตั้งจากสมเด็จพระสันตะปาปา - King ของนครวาติกันสามารถลบล้างการตัดสินใจของพวกเขาและในเวลาด้วยเหตุผลใดก็ตาม. ดังนั้นทำไมคุณไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ กษัตริย์แห่งนครวาติกัน? เพราะแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นสองบทบาทที่แตกต่างกันพวกเขาก็จะได้รับการครอบครองโดยคนคนเดียวกันในเวลาเดียวกันเวลา- ซึ่งมีผลมาจากตลกที่เพราะสมเด็จพระสันตะปาปาได้รับการเลือกตั้งและพระมหากษัตริย์เป็นทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพ แต่พวกเขากำลัง คนที่แต่งตัวประหลาดเดียวกันก็จะทำให้นครวาติกันโลกที่ได้รับการเลือกตั้งเพียงไม่สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มันเป็นแบบ dual-นี้บทบาทที่ทำให้แกะนครวาติกันจึงยากเพราะสมเด็จพระสันตะปาปาขึ้นอยู่กับสถานการณ์การกระทำไม่ว่าจะเป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศของนครวาติกันหรือสมเด็จพระสันตะปาปาของพระเห็น มีมันได้หรือไม่ ไม่ได้หรือไม่ ตกลงนี่คล้ายคลึง: ลองคิดดูหากเป็น บริษัท ระหว่างประเทศที่มีประสิทธิภาพกล่าวว่าอุตสาหกรรมสีเทามีซีอีโอที่เชื่อว่าประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่อให้หนึ่งในหมู่เกาะที่เป็นบริษัท ที่ทำแล้วเกาะเป็นประเทศใหม่- Greytropolis - ด้วย ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นของรัฐบาลและกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ของGreytropolis คือโดยความหมายซีอีโอของสีเทาอุตสาหกรรม. มันเห็นได้ชัดสวยที่จุดที่ว่าซีอีโอควรจะย้ายสำนักงานใหญ่ของ บริษัท ของเขาไปยังประเทศใหม่- เพื่อให้กฎหมายของ ประเทศจะได้รับประโยชน์ของ บริษัท และ บริษัท ฯ ในการเข้าถึงทั่วโลกจะได้รับประโยชน์ประเทศ ในฐานะที่เป็นคนที่อยู่ตรงกลางบางครั้งก็เป็นสิ่งที่ดีกับซีอีโอและบางครั้งก็เป็นเรื่องดีที่จะเป็นพระมหากษัตริย์ นั่นคือหลักนครวาติกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซึ่งสมเด็จพระสันตะปาปาเป็น CEO ตอนนี้กลับไปที่กษัตริย์ กษัตริย์แห่งวาติกันได้แน่นอน

จัดการพลังงานภายในพรมแดนของประเทศ และการปรากฏตัวของเขาทำให้วาติกัน หนึ่งในหก

remanning แน่นอนกษัตริย์ในโลก ได้แก่ บรูไน โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย และ

สวาซิแลนด์ . พระอำนาจ ทำไมเมืองวาติกันไม่สามารถเข้าร่วมสหภาพยุโรปเพราะ

ประชาธิปไตยเท่านั้นที่ได้รับอนุญาต ผ่านเมืองวาติกันไม่พูดอย่างเคร่งครัดมีสภานิติบัญญัติ

แบร็กรัฐบาล– harmen โดยพระคาร์ดินัล , ได้รับการแต่งตั้งโดยสมเด็จพระสันตะปาปา กษัตริย์เมืองวาติกันสามารถ

ลบล้างการตัดสินใจของพวกเขาและในเวลาใด ๆสำหรับเหตุผลใด ๆ .

แล้วทำไมคุณไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับกษัตริย์ของวาติกัน ? เพราะแม้ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระสันตะปาปา

สองบทบาทที่แตกต่างกันพวกเขาเพิ่งจะครอบครองโดยบุคคลเดียวกันที่เหมือนกัน

เวลาที่มีตลกผล เพราะสมเด็จพระสันตะปาปาได้รับการเลือกตั้งและกษัตริย์
ทั้งหมดที่มีประสิทธิภาพ แต่เป็นคนเดียวกันมันทำให้วาติกันโลกของการเลือกตั้งเท่านั้น ไม่ใช่กรรมพันธุ์

ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มันเป็นบทบาทที่ทำให้ทั้งสองวาติกันให้ยากเพราะ

โป๊ปขึ้นอยู่กับสถานการณ์ด้วยการกระทำในฐานะกษัตริย์ของประเทศนครรัฐวาติกันหรือ

สมเด็จพระสันตะปาปาของพระเห็น เข้าใจมั้ย ? ไม่เหรอ ? โอเค นี่คือการเปรียบเทียบ :

คิดว่าถ้าเป็น บริษัท นานาชาติที่มีประสิทธิภาพ , กล่าวว่าอุตสาหกรรมสีเทา มี CEO ที่โน้มน้าว

สหรัฐอเมริกาเพื่อให้หนึ่งของเกาะไปยัง บริษัท ที่ทำให้เกาะ

เป็นประเทศใหม่ -- greytropolis -- กับระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นรัฐบาลและ

กฎหมายว่า กษัตริย์แห่ง greytropolis คือ , โดยความหมาย , ซีอีโอของอุตสาหกรรมสีเทา

มันค่อนข้างชัดเจนที่ชี้ว่าควรย้ายสำนักงานใหญ่ของบริษัทของเขา

ไปใหม่เพื่อให้กฎหมายของประเทศ -- ประเทศที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อ บริษัท และ บริษัท ของ


ไปถึงระดับโลกได้ประโยชน์ประเทศสำหรับคนที่อยู่ตรงกลาง บางครั้งมันก็ดี


กับ CEO และบางครั้งมันเป็นเรื่องดีที่จะได้เป็นกษัตริย์ ที่เป็นหลัก
นครรัฐวาติกัน