Abe's assertive strategy divides AS

Abe's assertive strategy divides ASEAN governments
Japanese Prime Minister Shinzo Abe's determination to push through controversial security legislation creates a dilemma for the 10 members of the Association of Southeast Asian Nations.

These countries have come to expect a calmer, more consensus-based approach from Japan; Abe's strategy may have serious implications for Japan's relationship with ASEAN as a whole, and for its ties with individual member states. At the same time, Abe's policy presents an opportunity for ASEAN to play a central role in mediating regional tensions.

Most ASEAN countries had terrible experiences during World War II. Singapore, Malaysia, Indonesia, the Philippines and Myanmar (then known as Burma) were invaded by Japan. Vietnam, Laos and Cambodia, then part of French Indochina, were occupied when the colony was ceded to Japan after France's defeat. Thailand's autocratic government declared war on the Allies under Japanese pressure, and became the scene of fighting between Japanese troops and pro-Allied partisans.

Despite their wartime ordeals, all these countries have come to terms with the past, and with modern Japan, thanks to decades of hard work on both sides. This has re-established a high degree of mutual trust, buttressed by Tokyo's pacifist approach since 1945. In particular, Japan's constitutional bar on military action overseas helped to create confidence in Southeast Asia about the country's long-term agenda.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ของอะเบะทำกลยุทธ์แบ่งรัฐบาลอาเซียนญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรี Shinzo อะเบะของความมุ่งมั่นจะผลักดันผ่านกฎหมายความปลอดภัยแย้งสร้างความลำบากใจสำหรับสมาชิกคนที่ 10 ของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศเหล่านี้ได้มาคาดว่าวิธีการเงียบสงบ มีมติใช้จากญี่ปุ่น กลยุทธ์ของอะเบะอาจมีผลกระทบร้ายแรง สำหรับความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับอาเซียนโดยรวม และของความสัมพันธ์กับรัฐสมาชิกแต่ละ ในเวลาเดียวกัน นโยบายของอะเบะแสดงโอกาสบทบาทศูนย์กลางในการเป็นสื่อกลางความตึงเครียดในภูมิภาคอาเซียน ประเทศอาเซียนส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่น่ากลัวระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และพม่า (แล้วเรียกว่าพม่า) ได้บุกญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว และกัมพูชา แล้วส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศส ถูกครอบครองเมื่อฝูงถูกรับประกันภัยญี่ปุ่นหลังจากฝรั่งเศสพ่ายแพ้ รัฐบาลวิจารณ์ไทยประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรภายใต้ความดันญี่ปุ่น และกลายเป็น ฉากการสู้รบระหว่างกองทัพญี่ปุ่นและพันธมิตร pro partisans แม้ มี ordeals ของความโหดร้าย ประเทศเหล่านี้ได้มาถึงเงื่อนไขผ่านมา และ ญี่ปุ่นสมัยใหม่ ด้วยระบบของการทำงานอย่างหนักทั้งสองด้าน นี้ได้สร้างความไว้ใจ buttressed โดยวิธี pacifist โตเกียวตั้งแต่ 1945 ในระดับที่สูง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แถบรัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นในการดำเนินการทางทหารต่างประเทศช่วยสร้างความเชื่อมั่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับวาระการประชุมระยะยาวของประเทศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลยุทธ์ของเอ็บแน่วแน่แบ่งรัฐบาลอาเซียนนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นมุ่งมั่น Shinzo Abe ที่จะผลักดันผ่านกฎหมายการรักษาความปลอดภัยที่ถกเถียงกันสร้างภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับ 10 สมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้. ประเทศเหล่านี้ได้มาคาดหวังสงบวิธีฉันทามติตามเพิ่มเติมจากประเทศญี่ปุ่น กลยุทธ์ของเอ็บอาจจะมีผลกระทบอย่างรุนแรงสำหรับความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับอาเซียนโดยรวมและความสัมพันธ์กับประเทศสมาชิกของแต่ละบุคคล ในขณะเดียวกันนโยบายของเอ็บนำเสนอโอกาสอาเซียนที่จะมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยความตึงเครียดในภูมิภาค. ประเทศอาเซียนส่วนใหญ่มีประสบการณ์ที่น่ากลัวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สิงคโปร์, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์และพม่า (แล้วก็รู้จักพม่า) ถูกรุกรานโดยญี่ปุ่น เวียดนามลาวและกัมพูชานั้นเป็นส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศสถูกยึดครองอาณานิคมเมื่อถูกยกไปยังประเทศญี่ปุ่นหลังจากความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศส รัฐบาลเผด็จการของไทยประกาศสงครามกับฝ่ายพันธมิตรภายใต้ความกดดันญี่ปุ่นและกลายเป็นฉากของการต่อสู้ระหว่างกองกำลังทหารญี่ปุ่นและสมัครพรรคพวกโปรพันธมิตร. แม้จะมีความอดทนในช่วงสงครามของพวกเขาทุกประเทศเหล่านี้ได้มาถึงข้อตกลงกับอดีตที่ผ่านมาและมีความทันสมัยญี่ปุ่นขอบคุณ ทศวรรษที่ผ่านมาของการทำงานหนักทั้งสองด้าน นี้ได้จัดตั้งขึ้นใหม่ในระดับสูงของความไว้วางใจซึ่งกันและกันยันโดยวิธีการสงบของโตเกียวตั้งแต่ปี 1945 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง, บาร์รัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นในการดำเนินการทางทหารในต่างประเทศช่วยในการสร้างความเชื่อมั่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเกี่ยวกับวาระการประชุมในระยะยาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Abe ยืนยันกลยุทธ์แบ่งอาเซียนรัฐบาล
นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Shinzo Abe มุ่งมั่นที่จะผลักดันผ่านกฎหมายความมั่นคงแย้งสร้างภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกสำหรับสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประเทศเหล่านี้มีมาคาดหวังเงียบสงบมากกว่าฉันทามติวิธีการที่ใช้จากประเทศญี่ปุ่นกลยุทธ์ Abe อาจมีผลกระทบที่ร้ายแรงสำหรับความสัมพันธ์ของญี่ปุ่นกับอาเซียนโดยรวม และความสัมพันธ์ของแต่ละประเทศสมาชิก ในขณะเดียวกัน นโยบาย อาเบะ เป็นโอกาสให้อาเซียนมีบทบาทสำคัญในการไกล่เกลี่ยความตึงเครียดในภูมิภาค

ส่วนใหญ่ประเทศอาเซียนได้รับประสบการณ์เลวร้ายในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง สิงคโปร์ , มาเลเซีย , อินโดนีเซียฟิลิปปินส์และพม่า ( แล้วเรียกว่าพม่า ) ถูกรุกรานโดยญี่ปุ่น เวียดนาม ลาว และกัมพูชา แล้วส่วนหนึ่งของอินโดจีนฝรั่งเศส ถูกยึดครองเมื่ออาณานิคมถูกยกให้ญี่ปุ่นหลังจากความพ่ายแพ้ของประเทศฝรั่งเศส รัฐบาลเผด็จการไทยประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรภายใต้ความกดดันของญี่ปุ่น และเป็นฉากของการต่อสู้ระหว่างทหารญี่ปุ่นและ Pro พันธมิตรพลพรรค .

แม้จะมีขวากหนามสงครามของประเทศเหล่านี้ได้มาถึงข้อตกลงกับอดีต และมีเพลงญี่ปุ่น ขอบคุณทศวรรษของการทำงานหนัก ทั้งสองข้าง นี้จะสร้างระดับสูงของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน buttressed โดยสันติวิธีโตเกียวตั้งแต่ปี 1945 โดยเฉพาะอย่างยิ่งญี่ปุ่นบาร์รัฐธรรมนูญทหารปฏิบัติการในต่างประเทศช่วยสร้างความมั่นใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เกี่ยวกับวาระการประชุมระยะยาวของประเทศ