ระหว่าง Apple และ Samsung ในคดีละเม

ระหว่าง Apple และ Samsung ในคดีละเมิดสิทธิบัตรและวิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของทั้งสองฝ่าย ซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนชนะย่อมมีผลต่ออนาคตของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอน และสนามของสงครามในครั้งนี้คือ ศาลสิทธิบัตร San Jose, California ในสหรัฐอเมริกา โดยมี Lucy Koh เป็นผู้พิพากษาในการตัดสินคดีนี้ ซึ่งในตอนนี้คดีถึงที่สุดแล้วโดย Samsung ต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ Apple
โดยที่ Apple ฟ้อง Samsung ในการละเมิดสิทธิบัตร โดยที่ Samsung ได้ละเมิดสิทธิบัตร 4 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ เรื่องของการออกแบบ iPhone 2 ชิ้น, การออกแบบ iPad 1 ชิ้น และ User Interface ของระบบปฎิบัติการ iOS อีก 1 ชิ้นโดยที่ Apple เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่ปี 2011 แอปเปิ้ลได้กล่าวว่า Samsung ได้มีการละเมิดในการออกแบบสิทธิบัตรด้าน Software ของ Apple ทุกอย่าง เช่น Multi-touch -Pinch to Zoom คือการแตะเพื่อซูมหน้าจอด้วยการใช้นิ้วสองนิ้วเลือกบน iOS ในอุปกรณ์ 3 รุ่นด้วยกัน (Ace, Intercept and Replenish), และโดยโทรศัพท์รุ่นหลักในการฟ้องร้องคือ Galaxy S และ S II แต่ในทางกลับกัน ด้านของ Samsung ก็แย้งว่า Multi-touch และ Pinch to Zoom ของการซูมหน้าจอด้วยการใช้นิ้วสองนิ้วได้มีก่อนที่ไอโฟนที่จะนำมาทำขายอีก เช่น launch Tile ‘หรือ diamondtouch โดยที่ศาลพบว่า Samsung ได้มีการละเมิด เกี่ยวกับสิทธิบัตรของ Apple อย่างแน่นอน จึงทำให้ ซัมซุง ต้องจ่ายค่าปรับมูลค่าความเสียหายต่อ แอปเปิ้ล โดยที่ซัมซุงต้องจ่ายให้แอปเปิลคือ 1,049,343,540 ดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) หรือประมาณ 40% ของที่แอปเปิลเรียกค่าเสียไว้ตอนแรกที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนอกจากนี้ศาลยังระบุว่าซัมซุงยังละเมิดกฎหมายผูกขาดทางการค้า เรื่องมาตรฐานเครือข่าย UMTS แต่ในทางกลับกัน ส่วนของแอปเปิลก็ถูกซัมซุงฟ้องกลับนั้น ศาลตัดสินว่าแอปเปิลไม่ละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุงแม้แต่รายการเดียว จึงไม่มีค่าเสียหายที่แอปเปิลต้องจ่ายและหลังจากที่ทาง Apple ชนะคดีสิทธิบัตรไปเมื่อไม่นานมานี้ทาง Apple ก็ได้เริ่มขอสั่งแบนอุปกรณ์มือถือของ Samsung ไม่ให้มีนำมาขายในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยอุปกรณ์มือถือจาก Samsung ที่ถูกแบนนั้นมีทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน โดยที่พบว่ามีอุปกรณ์มือถือจาก Samsung ที่ได้มีการละเมิดสิทธิบัตรของ Apple ทั้งหมด 28 รุ่นด้วยกัน แต่ทาง Apple ต้องการสั่งให้แบนอุปกรณ์มือถือเพียง 8 รุ่นเท่านั้น ซึ่งได้แก่ Galaxy S 4G, Galaxy S2 ของ AT&T, Galaxy S2 ของ Skyrocket, Galaxy S2 ของ T-Mobile, Galaxy S2 Epic 4G, Galaxy S Showcase, Droid Charge, Galaxy Prevail

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระหว่าง Apple และ Samsung ในคดีละเมิดสิทธิบัตรและวิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของทั้งสองฝ่ายซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนชนะย่อมมีผลต่ออนาคตของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอนและสนามของสงครามในครั้งนี้คือศาลสิทธิบัตรซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกาโดยมีเกาะ Lucy เป็นผู้พิพากษาในการตัดสินคดีนี้ซึ่งในตอนนี้คดีถึงที่สุดแล้วโดย Samsung ต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่ Appleโดยที่ Apple ฟ้อง Samsung ในการละเมิดสิทธิบัตรโดยที่ Samsung ได้ละเมิดสิทธิบัตร 4 ชิ้นด้วยกันได้แก่เรื่องของการออกแบบ iPhone 2 ชิ้น การออกแบบ iPad 1 ชิ้นและส่วนติดต่อผู้ใช้ของระบบปฎิบัติการ iOS อีก 1 ชิ้นโดยที่ Apple เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐตั้งแต่ปี 2011 แอปเปิ้ลได้กล่าวว่า Samsung ได้มีการละเมิดในการออกแบบสิทธิบัตรด้าน Software ของ Apple ทุกอย่าง เช่น Multi-touch -Pinch to Zoom คือการแตะเพื่อซูมหน้าจอด้วยการใช้นิ้วสองนิ้วเลือกบน iOS ในอุปกรณ์ 3 รุ่นด้วยกัน (Ace, Intercept and Replenish), และโดยโทรศัพท์รุ่นหลักในการฟ้องร้องคือ Galaxy S และ S II แต่ในทางกลับกัน ด้านของ Samsung ก็แย้งว่า Multi-touch และ Pinch to Zoom ของการซูมหน้าจอด้วยการใช้นิ้วสองนิ้วได้มีก่อนที่ไอโฟนที่จะนำมาทำขายอีก เช่น launch Tile ‘หรือ diamondtouch โดยที่ศาลพบว่า Samsung ได้มีการละเมิด เกี่ยวกับสิทธิบัตรของ Apple อย่างแน่นอน จึงทำให้ ซัมซุง ต้องจ่ายค่าปรับมูลค่าความเสียหายต่อ แอปเปิ้ล โดยที่ซัมซุงต้องจ่ายให้แอปเปิลคือ 1,049,343,540 ดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) หรือประมาณ 40% ของที่แอปเปิลเรียกค่าเสียไว้ตอนแรกที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และนอกจากนี้ศาลยังระบุว่าซัมซุงยังละเมิดกฎหมายผูกขาดทางการค้า เรื่องมาตรฐานเครือข่าย UMTS แต่ในทางกลับกัน ส่วนของแอปเปิลก็ถูกซัมซุงฟ้องกลับนั้น ศาลตัดสินว่าแอปเปิลไม่ละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุงแม้แต่รายการเดียว จึงไม่มีค่าเสียหายที่แอปเปิลต้องจ่ายและหลังจากที่ทาง Apple ชนะคดีสิทธิบัตรไปเมื่อไม่นานมานี้ทาง Apple ก็ได้เริ่มขอสั่งแบนอุปกรณ์มือถือของ Samsung ไม่ให้มีนำมาขายในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยอุปกรณ์มือถือจาก Samsung ที่ถูกแบนนั้นมีทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกัน โดยที่พบว่ามีอุปกรณ์มือถือจาก Samsung ที่ได้มีการละเมิดสิทธิบัตรของ Apple ทั้งหมด 28 รุ่นด้วยกัน แต่ทาง Apple ต้องการสั่งให้แบนอุปกรณ์มือถือเพียง 8 รุ่นเท่านั้น ซึ่งได้แก่ Galaxy S 4G, Galaxy S2 ของ AT&T, Galaxy S2 ของ Skyrocket, Galaxy S2 ของ T-Mobile, Galaxy S2 Epic 4G, Galaxy S Showcase, Droid Charge, Galaxy Prevail

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ระหว่างแอปเปิ้ลและซัมซุงในคดีละเมิดสิทธิบัตรและวิธีการออกแบบ ผลิตภัณฑ์ของทั้งสองฝ่ายซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนชนะย่อมมีผลต่ออนาคตของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอนและสนามของสงครามในครั้งนี้คือศาลสิทธิบัตร ซานโฮเซ่แคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกา โดยมีลูซี่เกาะเป็นผู้พิพากษาในการตัดสินคดีนี้ ซึ่งในตอนนี้คดีถึงที่สุดแล้วโดย ซัมซุงต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่แอปเปิ้ล
โดยที่แอปเปิ้ลฟ้องซัมซุงในการละเมิดสิทธิบัตรโดยที่ซัมซุงได้ละเมิดสิทธิบัตร 4 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ เรื่องของ การออกแบบของ iPhone 2 ชิ้น, การออกแบบของ iPad 1 ชิ้นและส่วนติดต่อผู้ใช้ของระบบปฎิบัติการ iOS ของคุณอีก 1 ชิ้นโดยที่แอปเปิ้ลเรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ตั้งแต่ปี 2011 แอปเปิ้ลได้กล่าวว่า ซัมซุงได้มีการละเมิดในการออกแบบสิทธิบัตร ด้าน ซอฟแวร์ของแอปเปิ้ลทุกอย่างเช่น Multi-Touch -Pinch การซูมคือการแตะเพื่อซูมหน้าจอด้วย การใช้นิ้วสองนิ้วเลือกบน iOS ของคุณในอุปกรณ์ 3 รุ่นด้วยกัน (ACE, สกัดกั้นและ เติมเต็ม) และโดยโทรศัพท์รุ่นหลักในการฟ้องร้อง คือ Galaxy S และ S II แต่ในทางกลับกันด้านของซัมซุงก็แย้งว่า Multi-Touch และหยิกเพื่อซูมของการซูมหน้าจอด้วยการใช้ นิ้วสองนิ้วได้มีก่อนที่ ไอโฟนที่จะนำมาทำขาย อีกเช่น การเปิดตัวกระเบื้อง 'หรือ diamondtouch โดยที่ศาลพบว่าซัมซุงได้มีการละเมิดเกี่ยวกับสิทธิบัตรของแอปเปิ้ลอย่างแน่นอนจึงทำให้ซัมซุงต้องจ่าย ค่าปรับมูลค่าความเสียหายต่อแอปเปิ้ลโดยที่ ซัมซุงต้องจ่ายให้แอปเปิลคือ 1049343540 ดอลลาร์ (ประมาณ 30,000 ล้านบาท) หรือประมาณ 40% ของที่แอปเปิลเรียกค่าเสียไว้ตอน แรกที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและนอกจากนี้ศาล ยังระบุว่าซัมซุงยังละเมิดกฎหมายผูกขาดทางการค้าเรื่อง มาตรฐานเครือข่าย UMTS แต่ในทางกลับกันส่วนของแอปเปิล ก็ถูกซัมซุงฟ้องกลับนั้นศาลตัดสินว่าแอปเปิลไม่ละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุงแม้แต่รายการเดียวจึงไม่มีค่าเสียหายที่แอปเปิลต้องจ่ายและหลังจากที่ทาง แอปเปิ้ลชนะคดีสิทธิบัตรไปเมื่อไม่นาน มานี้ทางแอปเปิ้ลก็ได้เริ่มขอสั่งแบนอุปกรณ์มือถือ ของ ซัมซุงไม่ให้มีนำมาขายในสหรัฐอเมริกา แล้วโดยอุปกรณ์มือถือจาก ซัมซุงที่ถูกแบนนั้นมีทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกันโดยที่พบว่ามี อุปกรณ์มือถือจาก ซัมซุงที่ ได้มีการละเมิดสิทธิบัตรของแอปเปิ้ลทั้งหมด 28 รุ่นด้วยกัน แต่ทางแอปเปิ้ลต้องการสั่งให้แบนอุปกรณ์มือถือเพียง 8 รุ่นเท่านั้นซึ่ง ได้แก่ Galaxy S 4G, Galaxy S2 ของ AT & T, Galaxy S2 ของ Skyrocket, Galaxy S2 ของ T-Mobile, กาแล็กซี่ S2 Epic 4G, Galaxy S ตู้โชว์ Droid Charge, Galaxy Prevail

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ระหว่างแอปเปิ้ลและซัมซุงในคดีละเมิดสิทธิบัตรและวิธีการออกแบบผลิตภัณฑ์ของทั้งสองฝ่ายซึ่งไม่ว่าฝ่ายไหนชนะย่อมมีผลต่ออนาคตของทั้งสองฝ่ายอย่างแน่นอนและสนามของสงครามในครั้งนี้คือศาลสิทธิบัตรซานโฮเซ่ แคลิฟอร์เนียในสหรัฐอเมริกามีบทบาทช่วยลูซี่เกาะเป็นผู้พิพากษาในการตัดสินคดีนี้ซึ่งในตอนนี ้คดีถึงที่สุดแล้วโดยซัมซุงต้องจ่ายค่าเสียหายให้แก่แอปเปิ้ลโดยที่แอปเปิ้ลฟ้องซัมซุงในการละเมิดสิทธิบัตรโดยที่ซัมซุงได้ละเมิดสิทธิบัตร 4 ชิ้นด้วยกันได้แก่เรื่องของการออกแบบชิ้นการออกแบบ iPhone 2 , iPad 1 ชิ้นและส่วนติดต่อผู้ใช้ของระบบปฎิบัติการ iOS อีก 1 ชิ้นโดยที่เรียกร้องค่าเสียหายเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐแอปเปิ้ลตั้งแต่ปี 2011 แอปเปิ้ลได้กล่าวว่าซัมซุงได้มีการละเมิดในการออกแบบสิทธิบัตรด้านซอฟต์แวร์ของแอปเปิ้ลทุกอย่างเช่นหลายสัมผัส - หยิกเพื่อคือการแตะเพื่อซูมหน้าจอด้วยการใช้นิ้วสองนิ้วเลือกบน iOS ในอุปกรณ์ 3 รุ่นด้วยกันซูม ( เอซ สกัดกั้นและเติมเต็ม ) และโดยโทรศัพท์รุ่นหลักในการฟ้องร้องคือ Galaxy S และ S II แต่ในทางกลับกันด้ านของซัมซุงก็แย้งว่าหยิกเพื่อซูมของการซูมหน้าจอด้วยการใช้นิ้วสองนิ้วได้มีก่อนที่ไอโฟนที่จะนำมาทำขายอีกสัมผัสหลายและเช่นเปิดตัวกระเบื้อง ' ค็อค DiamondTouch โดยที่ศาลพบว่าซัมซุงได้มีการละเมิดเกี่ยวกับสิทธิบัตรของแอปเปิ้ลอย่างแน่นอนจึงทำให้ซัมซุงต้องจ่ายค่าปรับมูลค่าความเสียหายต่อแอปเปิ้ลโดยที่ซ ัมซุงต้องจ่ายให้แอปเปิลคือ 1049343540 ดอลลาร์ ( ประมาณ 30000 ล้านบาท ) หรือประมาณ 40% ของที่แอปเปิลเรียกค่าเสียไว้ตอนแรกที่ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐและนอกจากนี้ศาลยังระบุว่าซัมซุงยังละเมิดกฎหมายผูกขาดทางการค้าเรื่องมาตรฐานเครือข่าย UMTS แต่ในทางกลับกันส่วนของแอปเปิลก็ถูกซัมซุ งฟ้องกลับนั้นศาลตัดสินว่าแอปเปิลไม่ละเมิดสิทธิบัตรของซัมซุงแม้แต่รายการเดียวจึงไม่มีค่าเสียหายที่แอปเปิลต้องจ่ายและหลังจากที่ทางชนะคดีสิทธิบัตรไปเมื่อไม่นานมานี้ทางก็ได้เริ่มขอสั่งแบนอุปกรณ์มือถือของซัมซุงไม่ให้มีนำมาขายในสหรัฐอเมริกาแล้วโดยอุปกรณแอปเปิ้ลแอปเปิ้ล ์มือถือจากซัมซุงที่ถูกแบนนั้นมีทั้งหมด 8 รุ่นด้วยกันโดยที่พบว่ามีอุปกรณ์มือถือจากซัมซุงที่ได้มีการละเมิดสิทธิบัตรของทั้งหมด 28 รุ่นด้วยกันแต่ทางต้องกแอปเปิ้ลแอปเปิ้ล