While Africa contributes less than

While Africa contributes less than 3% of the global green-house emissions, compared to 40% from the G-8 countries, it must now bear a disproportionate burden of economic losses, as well as the human, health, and social consequences of its effects. Climate change is expected to dramatically change the face of agriculture and increase the vulnerability of hundreds of millions of poor farmers, rural, and urban populations in Africa. It is expected that severe drought will occur more frequently, especially in the dry semi-arid regions of the Sahel, which already suffer from low rainfall and high inter- and intra-seasonal variability in rainfall and lengths of the growing season. In the coastal areas, it is expected that rising sea temperature levels will lead to greater levels of flooding. It is estimated that 75–250 million people in the Sahel will be at risk of droughts as the region is expected to be drier, which will be more severe than the severe droughts of the 1970s in the Sahel. Flooding in southern Africa is expected to increase, bringing to mind the severe floods of 2000 that wiped out one-third of the crops in Mozambique, killed many, and led to massive displacement of populations (Fleshman, 2007). The net loss due to climate change in Africa could be as high as $133 billion with agriculture bearing the most of the brunt—an estimated loss of $132 billion (Mendelsohn et al., 2000). In Mali, it is estimated that because of projected yield declines and loss of forages the country will suffer economic losses in the range of $70–$142 million (Butt et al., 2005). Studies have found that the elasticity of farm revenues to climate change is high in Africa and especially so in the dry areas. In one study it was reported that elasticity of revenue to climate change was as high as −1.3, suggesting that a 10% increase in temperature will lead to a 13% reduction in revenues. This elasticity was as high as –1.6 for dryland areas compared to 0.5 for irrigated areas (Kurukulasuriya and Mendelsohn, 2008).

Climate change needs to be fully integrated into national agricultural sector planning strategies in Africa. Greater support is needed for: broadening the genetic base of crops; promoting diversification of farmers into more drought-tolerant crops; investment in irrigation and water management and development of local capacity in climate science to improve climate predictions, preparedness, and disaster management. Greater efforts must also be put into developing effective programs for reducing vulnerability of at-risk populations through social safety net programs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในขณะที่แอฟริกาจัดสรรน้อยกว่า 3% ของการปล่อยบ้านสีเขียวส่วนกลาง เมื่อเทียบกับ 40% จากประเทศ G 8 มันต้องตอนนี้หมีนำภาระแห่งความสูญเสียทางเศรษฐกิจ เป็นมนุษย์ สุขภาพ และผลกระทบทางสังคมผลกระทบ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศคาดว่าจะเปลี่ยนหน้าของการเกษตรอย่างมาก และเพิ่มความเสี่ยงของหลายร้อยล้านของเกษตรกรที่ยากจน ชนบท และประชากรเมืองในแอฟริกา คาดว่า ภัยแล้งที่รุนแรงจะเกิดขึ้นบ่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแห้งแล้งกึ่งภูมิภาคของซาเฮล ที่ประสบแล้วจากปริมาณน้ำฝนต่ำและสูงอินเตอร์ - และ intra - seasonal สำหรับความผันผวนในปริมาณน้ำฝนและความยาวของฤดูเจริญเติบโต ในพื้นที่ชายฝั่งทะเล มันเป็นที่คาดว่า เพิ่มขึ้นอุณหภูมิทะเล ระดับจะทำให้ระดับน้ำท่วมสูง คาดว่า 75-250 ล้านคนในซาเฮลจะเสี่ยง droughts เป็นภูมิภาคคาดว่าจะแห้ง ซึ่งจะรุนแรงมากขึ้นกว่า droughts รุนแรงของสาว ๆ ในซาเฮล อุทกภัยในแอฟริกาใต้คาดว่าจะเพิ่มขึ้น นำไปใจน้ำท่วมรุนแรง 2000 ที่เช็ดออกหนึ่งในสามของพืชในโมซัมบิก ฆ่าหลาย และนำไปสู่ปริมาณกระบอกสูบขนาดใหญ่ของประชากร (Fleshman, 2007) ขาดทุนสุทธิเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในแอฟริกาอาจสูงเป็น $133 พันล้านกับเรืองเกษตรมากที่สุดของ brunt ซึ่งการขาดทุนโดยประมาณของ 132 พันล้านเหรียญ (Mendelsohn et al., 2000) ได้ ในมาลี คาดว่า ลดอัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์ไว้และสูญเสีย forages ประเทศจะประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจในช่วงของ $70-$142 ล้าน (ก้น et al., 2005) การศึกษาพบว่าความยืดหยุ่นของรายได้ฟาร์มจะเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในแอฟริกา และอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณแห้งแล้ง ในการศึกษาหนึ่ง ได้รายงานว่า ความยืดหยุ่นของรายได้เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้สูงถึง −1.3 แนะนำที่ 10% เพิ่มขึ้นอุณหภูมิจะทำให้รายได้ลด 13% ความยืดหยุ่นนี้มีสูงถึง –1.6 สำหรับ dryland เมื่อเทียบกับ 0.5 สำหรับพื้นที่ชลประทานพื้นที่ (Kurukulasuriya และ Mendelsohn, 2008)สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงความต้องอย่างครบวงจรในภาคการเกษตรแห่งชาติวางแผนกลยุทธ์ในแอฟริกา จำเป็นสำหรับสนับสนุนมากกว่า: broadening ฐานพันธุกรรมของพืช ส่งเสริมวิสาหกิจของเกษตรกรเป็นพืชทนแล้งกับเพิ่มเติม การลงทุนในการชลประทานและการจัดการน้ำและพัฒนาท้องถิ่นกำลังการผลิตอากาศวิทยาศาสตร์เพื่อปรับปรุงการคาดคะเนภูมิอากาศ เตรียมความพร้อม และการจัดการภัยพิบัติ ยังต้องใส่ความพยายามมากขึ้นในการพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพสำหรับการลดความเสี่ยงของประชากรมีความเสี่ยงผ่านโปรแกรม net ความปลอดภัยทางสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในขณะที่แอฟริกามีส่วนน้อยกว่า 3% ของการปล่อยก๊าซเรือนทั่วโลกเมื่อเทียบกับ 40% จาก G-8 ประเทศได้ในขณะนี้ต้องแบกภาระสัดส่วนของการสูญเสียทางเศรษฐกิจเช่นเดียวกับมนุษย์สุขภาพและผลกระทบของสังคม ผลกระทบ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่คาดว่าจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วใบหน้าของการเกษตรและเพิ่มความเสี่ยงของหลายร้อยล้านของเกษตรกรที่ยากจนในชนบทและในเมืองที่มีประชากรในทวีปแอฟริกา เป็นที่คาดว่าภัยแล้งที่รุนแรงจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่กึ่งแห้งแล้งแห้งยึดถือที่แล้วทุกข์ทรมานจากปริมาณน้ำฝนต่ำและระหว่างสูงและความแปรปรวนภายในตามฤดูกาลในปริมาณน้ำฝนและความยาวของฤดูปลูก ในพื้นที่ชายฝั่งทะเลที่เป็นที่คาดว่าการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลอุณหภูมิจะนำไปสู่ระดับสูงของน้ำท่วม มันเป็นที่คาดว่า 75-250000000 คนในยึดถือจะเป็นความเสี่ยงของภัยแล้งเป็นภูมิภาคที่คาดว่าจะแห้งซึ่งจะมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าภัยแล้งที่รุนแรงของปี 1970 ในยึดถือ น้ำท่วมในภาคใต้ของแอฟริกาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นนำไปใจน้ำท่วมที่รุนแรงของ 2000 ที่เช็ดออกหนึ่งในสามของพืชในประเทศโมซัมบิกฆ่าจำนวนมากและนำไปสู่การเคลื่อนที่ขนาดใหญ่ของประชากร (Fleshman 2007) ขาดทุนสุทธิจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในทวีปแอฟริกาอาจจะสูงถึง $ 133,000,000,000 กับการเกษตรแบกที่สุดของความรุนแรง-การสูญเสียประมาณ $ 132,000,000,000 (Mendelsohn et al., 2000) ในประเทศมาลีก็คาดว่าเนื่องจากการลดลงของอัตราผลตอบแทนที่คาดการณ์และการสูญเสียจำนงประเทศจะประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจในช่วงของ $ 70- $ 142,000,000 (ที่ก้น et al., 2005) การศึกษาพบว่าความยืดหยุ่นของรายได้ฟาร์มการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอยู่ในระดับสูงในแอฟริกาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แห้ง ในการศึกษามีรายงานว่าความยืดหยุ่นของรายได้จากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศสูงถึง -1.3 บอกว่าเพิ่มขึ้น 10% อุณหภูมิจะนำไปสู่การลดลง 13% ในรายได้ ความยืดหยุ่นนี้สูงถึง -1.6 สำหรับพื้นที่ dryland เมื่อเทียบกับ 0.5 สำหรับพื้นที่ชลประทาน (Kurukulasuriya และ Mendelsohn, 2008). การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะต้องมีแบบครบวงจรในการวางแผนกลยุทธ์ภาคเกษตรแห่งชาติในทวีปแอฟริกา การสนับสนุนมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ: การขยายฐานทางพันธุกรรมของพืช; การส่งเสริมการกระจายความเสี่ยงของเกษตรกรมากขึ้นเข้าไปในพืชฤดูแล้งทน; การลงทุนในการชลประทานและการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาของกำลังการผลิตในท้องถิ่นในด้านวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศในการปรับปรุงการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศ, การเตรียมความพร้อมและการจัดการภัยพิบัติ พยายามมากขึ้นนอกจากนี้ยังจะต้องใส่ลงไปในการพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพในการลดความเปราะบางของประชากรที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางสังคมผ่านโปรแกรมสุทธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ขณะที่แอฟริกาจัดสรรน้อยกว่า 3% ของบ้านสีเขียวทั่วโลกปล่อยก๊าซเมื่อเทียบกับ 40% จาก g-8 ประเทศตอนนี้ต้องแบกรับภาระที่สมส่วนของการสูญเสียทางเศรษฐกิจ ตลอดจนสุขภาพของมนุษย์และผลทางสังคมของลักษณะพิเศษของ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่คาดว่าจะสามารถเปลี่ยนใบหน้าของการเกษตรและเพิ่มความเสี่ยงของหลายร้อยล้านของชาวนาชนบทเมืองและประชากรในแอฟริกา เป็นที่คาดว่า ภัยแล้งที่รุนแรงจะเกิดขึ้นบ่อยมากขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคแห้งแล้งแห้งของซาเฮล ซึ่งได้ประสบจากปริมาณน้ำฝนต่ำและสูงระหว่างและภายในฤดูกาลของปริมาณน้ำฝน และความยาวของฤดูกาลเติบโต . ในพื้นที่ชายฝั่งคาดว่าเพิ่มขึ้นทะเลระดับอุณหภูมิจะนำระดับสูงของน้ำท่วม มันคือประมาณว่า 75 – 250 ล้านคน ในซาเฮลจะเสี่ยงแล้งเป็นบริเวณที่คาดว่าจะแห้ง ซึ่งจะรุนแรงกว่าปัญหาภัยแล้งที่รุนแรงของปี 1970 ในซาเฮล . น้ำท่วมในแอฟริกาตอนใต้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นพาให้จิตใจรุนแรงน้ำท่วม 2000 ที่เช็ดออกหนึ่งในสามของพืชใน โมซัมบิก ฆ่าคนมากมาย และนำไปสู่การใหญ่ของประชากร ( fleshman , 2007 ) สุทธิขาดทุนเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในแอฟริกาอาจจะสูงถึง $ 133 พันล้านกับการเกษตรเรืองที่สุดของความรุนแรงประมาณการสูญเสียของ $ 132 พันล้าน ( เมนเดล น et al . , 2000 ) ในประเทศมาลีมันคือประมาณว่าเพราะคาดการณ์ผลผลิตลดลงและการสูญเสียค้นหาประเทศจะประสบความเสียหายทางเศรษฐกิจในช่วงของ $ 70 – $ 142 ล้านบาท ( ก้น et al . , 2005 ) มีการศึกษาพบว่า ค่าความยืดหยุ่นของรายได้ของฟาร์มเพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสูงในทวีปแอฟริกาโดยเฉพาะในพื้นที่แห้ง ในการศึกษาหนึ่ง มีรายงานว่า ความยืดหยุ่นของรายได้เพื่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้สูงเท่ากับ− 1.3 ,แนะนำว่าเพิ่มเป็น 10% ในอุณหภูมิจะนำไปสู่การลดลง 13 เปอร์เซ็นต์ รายได้ นี้มีความยืดหยุ่นสูง - 1.6 สำหรับ dryland พื้นที่เทียบกับ 0.5 สำหรับพื้นที่เขตชลประทาน ( kurukulasuriya และเมนเดล น , 2008 ) .

อากาศเปลี่ยนแปลงต้องครบวงจรในภาคการเกษตรแห่งชาติการวางแผนกลยุทธ์ในแอฟริกา สนับสนุนมากขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ : ขยายฐานพันธุกรรมของพืช ;การส่งเสริมความหลากหลายของเกษตรกรในฤดูแล้งมากกว่าใจกว้างพืช ; การลงทุนในน้ำและการจัดการน้ำและการพัฒนาศักยภาพของท้องถิ่นในสภาพภูมิอากาศวิทยาศาสตร์เพื่อปรับปรุงการคาดการณ์สภาพภูมิอากาศการเตรียมความพร้อมและการจัดการภัยพิบัติ ความพยายามมากขึ้นจะต้องใส่ลงไปในการพัฒนาโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพเพื่อลดความเสี่ยงของประชากรกลุ่มเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางสังคมผ่านโปรแกรมสุทธิ