It was the 7th Duchess of Bedford w

It was the 7th Duchess of Bedford who, in around 1800, started the popular fashion of "afternoon tea", a ceremony taking place at about four o'clock. Until then, people did not usually eat or drink anything between lunch and dinner. At approximately the same time, the Earl of Sandwich popularised a new way of eating bread — in thin slices, with something (e.g. jam or cucumbers) between them, and before long, a small meal at the end of the afternoon, involving tea and sandwiches had become part of a way of life.
As tea became much cheaper during the nineteenth century, its popularity spread right through British society, and before long, it had become Britain's favourite drink — promoted by the Victorians as an economical, warming, stimulating non-alcoholic drink. In working-class households, it was served with the main meal of the day, eaten when workers returned home after a day's labour. This meal has become known as "high tea".

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

7 ดัชเชสของกลาสโกว์ที่ ในประมาณ 1800 เริ่มต้นแฟชั่นยอดนิยมของ "ชา" พิธีขึ้นที่ประมาณ 4 โมง ได้ จนแล้ว คนได้มักจะไม่กิน หรือดื่มอะไรระหว่างกลางวันและเย็น เวลาประมาณเดียวกัน เอิร์ลแซนวิ popularised รูปแบบใหม่ของการรับประทานขนมปังซึ่งในบางชิ้น กับบางสิ่งบางอย่าง (เช่นแยมหรือแตงกวา) ระหว่าง และ ก่อนที่ยาว อาหารขนาดเล็กที่สุดของตอนบ่าย ชาและแซนด์วิชได้กลายเป็น ส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต ชาเป็นมากในช่วงศตวรรษ นิยมแพร่กระจายถึงอังกฤษสังคม และก่อนลอง มันได้กลายเป็นเครื่องดื่มที่ชื่นชอบของราชอาณาจักร — ส่งเสริม โดย Victorians เป็นการประหยัด ร้อน กระตุ้นการดื่มแอลกอฮอล์ ในครัวเรือน working-class จะถูกเสิร์ฟพร้อมอาหารมื้อหลักของวัน กินเมื่อคนกลับหลังวันแรงงาน มื้อนี้ได้กลายเป็นเรียกว่า "เบรค"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นดัชเชสที่ 7 ของฟอร์ดที่ในรอบ 1800 เริ่มต้นแฟชั่นที่นิยมของ "น้ำชายามบ่าย" พิธีที่เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 04:00 จนแล้วคนมักจะไม่ได้กินหรือดื่มอะไรระหว่างกลางวันและอาหารเย็น เมื่อเวลาประมาณเวลาเดียวกัน, เอิร์ลแห่งแซนวิชที่นิยมวิธีใหม่ของการกินขนมปัง - ในชิ้นบาง ๆ กับบางสิ่งบางอย่าง (เช่นแยมหรือแตงกวา) ระหว่างพวกเขาและไม่นานอาหารขนาดเล็กที่ส่วนท้ายของช่วงบ่ายที่เกี่ยวข้องกับชาและ แซนวิชได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต.
ในฐานะที่เป็นชากลายเป็นถูกกว่ามากในช่วงศตวรรษที่สิบเก้าความนิยมของมันแพร่กระจายไปทางขวาผ่านสังคมอังกฤษและอีกไม่นานมันก็กลายเป็นเครื่องดื่มแก้วโปรดของสหราชอาณาจักร - การส่งเสริมจากวิกตอเรียเป็นประหยัดร้อนกระตุ้น เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ในผู้ประกอบการในการทำงานระดับมันถูกเสิร์ฟพร้อมกับอาหารมื้อหลักของวันกินเมื่อคนงานกลับบ้านหลังจากแรงงานวัน มื้อนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "ชา"

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันเป็นดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดที่ 7 ในรอบ 1800 , เริ่มต้นแฟชั่นฮิตของ " ชา " ในช่วงบ่าย พิธีจัดขึ้นที่ ประมาณบ่าย 4 โมง จนกว่าจะถึงตอนนั้น คนก็มักจะไม่กินหรือดื่มอะไรระหว่างอาหารกลางวัน และ อาหารเย็น ประมาณช่วงเวลาเดียวกัน เอิร์ลแห่งแซนด์วิชความนิยมเป็นวิธีใหม่ของการรับประทานขนมปัง - บางๆ กับบางอย่าง ( เช่นแยมหรือแตงกวา ) ระหว่างพวกเขาและก่อนที่จะยาว อาหารขนาดเล็กที่ส่วนท้ายของช่วงบ่าย เกี่ยวข้องกับชาและแซนวิชได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิต
เป็นชากลายเป็นถูกกว่ามากในช่วงศตวรรษที่สิบเก้า ถูกความนิยมกระจายผ่านสังคมอังกฤษ และอีกไม่นาน มันก็กลายเป็นของสหราชอาณาจักรที่ชื่นชอบดื่ม - ส่งเสริมโดยวิคต รียนเป็น ร้อนประหยัด กระตุ้นเครื่องดื่มปราศจากแอลกอฮอล์ในครอบครัวชนชั้นกรรมกร ก็ถูกเสิร์ฟกับอาหารมื้อหลักของวัน กินเมื่อคนงานกลับบ้านหลังจากที่แรงงานเป็นวัน มื้อนี้ได้กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ " ชา
" สูง