dimensions. Consistent with our hyp

dimensions. Consistent with our hypotheses, spitefulness had unique associations with the benign and injurious humor stylesin particular, spitefulness had a unique negative association with the affiliative humor style. This finding likely reflects the lack of concem spiteful indi- viduals have for other people which may lead to them being less likely to engage in humor that is designed to enhance their relationships with others. In contrast, spitefulness had a unique positive association with the aggressive humor style. That is, spiteful individuals may be more likely to adopt the aggressive humor style because it allows them to degrade, belittle, and harm others even though doing so may involve social or reputational costs (e.g., being disliked by others). Taken together, these findings indicate that individuals with high levels of spitefulness report being less likely to engage in benign forms of and more likely to employ humor harmful to others in order to enhance themselves. This pattern is consistent with the results ofrecent showing t spitefulnessis connected with et al tic and aggressive behaviors as well as low levels of guilt (Marcus 2014). As a result, individuals who are spiteful may use humor that is harmful to others, but may not feel bad for engaging in such negative behaviors. In sum, by focusing on the specific humor styles that spiteful individuals adopt, these findings help us to better understand the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มิติ สอดคล้องกับสมมติฐานของเรา spitefulness มีความสัมพันธ์เฉพาะกับ stylesin อารมณ์ขันอ่อนโยน และอันตรายโดยเฉพาะอย่างยิ่ง spitefulness มีความสัมพันธ์ของค่าลบเฉพาะสไตล์อารมณ์ขันผูกพัน นี้หาแนวโน้มที่สะท้อนถึงการขาดของ concem spiteful หม่า-viduals มีคนอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะมีส่วนร่วมในอารมณ์ขันที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น ตรงกันข้าม spitefulness มีความสัมพันธ์เชิงบวกแบบเฉพาะสไตล์ก้าวร้าวอารมณ์ขัน นั่นคือ spiteful บุคคลอาจขึ้นน่าจะนำมาใช้แบบก้าวร้าวอารมณ์ขัน เพราะมันช่วยให้พวกเขาลดลง ดูถูก และทำร้ายผู้อื่นแม้ว่าทำดังนั้นอาจเกี่ยวข้องกับสังคม หรือกระทบต้นทุน (เช่น จะไม่ชอบ โดยผู้อื่น) นำมารวมกัน ค้นพบเหล่านี้บ่งชี้ว่า บุคคลระดับสูงของ spitefulness รายงานเป็นโอกาสน้อยที่จะมีส่วนร่วมในรูปแบบอ่อนโยน และมักจะใช้อารมณ์ขันเป็นอันตรายต่อผู้อื่นเพื่อยกระดับตัวเองขึ้น รูปแบบนี้จะสอดคล้องกับ ofrecent ผลลัพธ์ที่แสดง t spitefulnessis เชื่อมต่อกับ et al tic และพฤติกรรมความก้าวร้าว รวมทั้งระดับต่ำของความผิด (Marcus 2014) เป็นผล ผู้ที่มี spiteful อาจใช้อารมณ์ขันที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น แต่ไม่อาจรู้สึกไม่ดีในพฤติกรรมเชิงลบดังกล่าว ในผลรวม โดยเน้นลักษณะเฉพาะอารมณ์ขันที่นำบุคคล spiteful ค้นพบเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มิติ สอดคล้องกับสมมติฐานของเรามีเจตนาร้ายสมาคมที่ไม่ซ้ำกับอารมณ์ขันใจดีและอันตราย stylesin โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจตนาร้ายมีความสัมพันธ์เชิงลบที่ไม่ซ้ำกับสไตล์อารมณ์ขัน affiliative การค้นพบนี้น่าจะสะท้อนให้เห็นถึงการขาดความ concem viduals บริการแสดงความอาฆาตแค้นมีสำหรับคนอื่น ๆ ที่อาจนำไปสู่พวกเขาเป็นโอกาสน้อยที่จะมีส่วนร่วมในเรื่องตลกที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของพวกเขากับคนอื่น ๆ ในทางตรงกันข้ามร้ายมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกที่ไม่ซ้ำกับสไตล์อารมณ์ขันเชิงรุก นั่นคือบุคคลที่มีเจตนาร้ายอาจจะมีแนวโน้มที่จะนำรูปแบบอารมณ์ขันก้าวร้าวเพราะจะช่วยให้พวกเขาที่จะย่อยสลายดูแคลนและเป็นอันตรายต่อคนอื่น ๆ ถึงแม้ว่าการทำเช่นนั้นอาจจะเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายทางสังคมหรือชื่อเสียง (เช่นการไม่ชอบด้วยคนอื่น ๆ ) ที่ร่วมกันค้นพบเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่มีระดับสูงของรายงานเจตนาร้ายเป็นโอกาสน้อยที่จะมีส่วนร่วมในรูปแบบอ่อนโยนของและมีแนวโน้มที่จะจ้างอารมณ์ขันที่เป็นอันตรายกับคนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในตัวเอง รูปแบบนี้มีความสอดคล้องกับผล ofrecent แสดง T spitefulnessis เชื่อมต่อกับ et al, พฤติกรรม Tic และก้าวร้าวเช่นเดียวกับระดับต่ำของความผิด (มาร์คัส 2014) เป็นผลให้บุคคลที่มีเจตนาร้ายอาจใช้อารมณ์ขันที่เป็นอันตรายต่อคนอื่น ๆ แต่อาจจะไม่ได้รู้สึกไม่ดีสำหรับการมีส่วนร่วมในพฤติกรรมเชิงลบดังกล่าว สรุปโดยมุ่งเน้นไปที่รูปแบบอารมณ์ขันที่เฉพาะเจาะจงว่าบุคคลที่มีเจตนาร้ายนำมาค้นพบเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มิติ สอดคล้องกับสมมติฐานของเรา ความมุ่งร้าย มีสมาคมที่ไม่ซ้ำกันกับใจดีและอารมณ์ขัน stylesin กระทำโดยความมุ่งร้ายที่มีความสัมพันธ์เชิงลบที่มีเอกลักษณ์สไตล์อารมณ์ขัน affiliative . นี้อาจสะท้อนให้เห็นถึงการขาด concem indi ร้าย - viduals มีบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะมีส่วนร่วมในอารมณ์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ของพวกเขากับคนอื่น ๆ ในทางตรงกันข้าม , ความมุ่งร้ายที่มีความสัมพันธ์ในเชิงบวกที่มีเอกลักษณ์สไตล์อารมณ์ก้าวร้าว นั่นคือ บุคคลมีเจตนาร้ายอาจจะมีแนวโน้มที่จะ adopt ลักษณะอารมณ์ก้าวร้าว เพราะมันช่วยให้พวกเขาลดลง ดูถูก และเป็นอันตรายต่อผู้อื่น แม้ว่าการทำเช่นนั้นอาจเกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่ายหรือชื่อเสียงทางสังคม ( เช่น ถูกคนอื่นเกลียดชัง ) ถ่ายด้วยกัน จากผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า บุคคล ระดับสูงของความเครียดแค้นรายงานเป็นโอกาสน้อยที่จะมีส่วนร่วมในรูปแบบอ่อนโยนและมีแนวโน้มที่จะจ้างตลกเป็นอันตรายกับผู้อื่นเพื่อพัฒนาตนเอง รูปแบบนี้สอดคล้องกับผล ofrecent แสดง T spitefulnessis เชื่อมต่อกับ et al TIC และพฤติกรรมก้าวร้าวเช่นเดียวกับระดับของความผิด ( Marcus 2014 ) เป็นผลให้บุคคลที่มีเจตนาร้ายอาจจะใช้อารมณ์ที่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น แต่ไม่อาจรู้สึกไม่ดีกับการมีส่วนร่วมในพฤติกรรมเชิงลบเช่น ในผลรวม โดยเน้นลักษณะอารมณ์ที่เฉพาะเจาะจงที่บุคคลมีเจตนาร้ายนำข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราเข้าใจ