Recall from Chapter 7 that the terr

Recall from Chapter 7 that the terrestrial planets are less
massive than the giant planets and therefore have weaker
gravity. Giant impacts by large planetesimals early in the
history of the Solar System may have blasted away some
of the terrestrial planets’ primary atmospheres because,
with their relatively weak
gravity, these planets lack
the ability to hold light
gases such as hydrogen
and helium. When the supply
of gas in the protoplanetary disk ran out, the primary
atmospheres of the terrestrial planets began leaking back
into space. How can gas molecules escape from a planet?
Recall from Chapter 4 that all it takes for any object—from a
molecule to a spacecraft—to escape a planet is for the object
to reach a speed greater than the escape velocity and be
pointed in the right direction. Intense radiation from the
Sun—which is the primary source of thermal, or kinetic,
energy in the atmospheres of the terrestrial planets—raises
the temperature and thus the kinetic energy of atmospheric
molecules enough that some escape. The kinetic energy of
any object is determined by its mass and its speed. Hotter
molecules have higher kinetic energies than do cooler
molecules and therefore move faster and are more likely to
escape.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรียกคืนจากบทที่ 7 คล้ายดาวเคราะห์ที่น้อยขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์ยักษ์ได้แข็งแกร่งแรงโน้มถ่วง ผลกระทบยักษ์จาก planetesimals ที่ใหญ่ก่อนในการประวัติศาสตร์ระบบสุริยะอาจมีเสียหายไปบางส่วนของบรรยากาศหลักของดาวเคราะห์คล้ายเพราะมีของพวกเขาค่อนข้างอ่อนแรงโน้มถ่วง ดาวเคราะห์เหล่านี้ขาดสามารถในการเก็บแสงก๊าซเช่นไฮโดรเจนและฮีเลียม เมื่อการจัดหาวัสดุของก๊าซใน protoplanetary ดิสก์วิ่งออก หลักบรรยากาศของดาวเคราะห์คล้ายเริ่มรั่วไหลกลับเข้าไปในพื้นที่ วิธีสามารถแก๊สโมเลกุลหนีจากโลกเรียกคืนจากบทที่ 4 ที่ทั้งหมดที่ใช้สำหรับวัตถุใด ๆ — จากการโมเลกุลกับยานอวกาศซึ่งหนีโลกเป็นวัตถุถึงความเร็วมากกว่าความเร็วหลบหนี และจะชี้ไปในทิศทางที่ถูก รังสีที่รุนแรงจากการซัน – ซึ่งเป็นแหล่งที่มาหลัก ของความร้อน เดิม ๆพลังงานในบรรยากาศของดาวเคราะห์คล้าย — เพิ่มอุณหภูมิ และพลังงานจลน์ของบรรยากาศโมเลกุลพอว่า บางส่วนหลบหนี พลังงานจลน์ของวัตถุจะถูกกำหนด โดยมวลของมันและความเร็ว ร้อนโมเลกุลมีพลังงานจลน์สูงกว่าเย็นโมเลกุลจึงไปได้เร็วขึ้น และมีแนวโน้มที่จะหลบหนี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเรียกคืนจากบทที่ 7 ว่าดาวเคราะห์น้อยขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์ยักษ์และปรับตัวลดลงดังนั้นจึงมีแรงโน้มถ่วง ผลกระทบจากดาวเคราะห์ยักษ์ที่มีขนาดใหญ่ในช่วงต้นประวัติศาสตร์ของระบบสุริยะอาจจะระเบิดออกไปบางส่วนของดาวเคราะห์โลก'บรรยากาศหลักเพราะมีค่อนข้างอ่อนแอของพวกเขาแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์เหล่านี้ขาดความสามารถในการที่จะถือไฟก๊าซเช่นไฮโดรเจนและฮีเลียม เมื่ออุปทานของก๊าซในดิสก์ก่อกำเนิดดาวเคราะห์วิ่งออกไปถึงหลักชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์โลกที่จะเริ่มต้นการรั่วไหลกลับเข้ามาในพื้นที่ วิธีสามารถก๊าซโมเลกุลหลบหนีจากโลกหรือไม่จำจากบทที่ 4 ว่าทั้งหมดจะใช้เวลาสำหรับการใด ๆ วัตถุจากโมเลกุลยานอวกาศเพื่อหลบหนีดาวเคราะห์เป็นวัตถุในการเข้าถึงความเร็วมากกว่าความเร็วหลบหนีและจะชี้ให้เห็นในทิศทางที่ถูกต้อง รังสีจากดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นแหล่งที่มาหลักของความร้อนหรือการเคลื่อนไหวพลังงานในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์บกเพิ่มอุณหภูมิและทำให้พลังงานจลน์ของบรรยากาศโมเลกุลพอที่จะหลบหนีออกมาบางส่วน พลังงานจลน์ของวัตถุใด ๆ จะถูกกำหนดโดยมวลและความเร็วของมัน ร้อนโมเลกุลมีพลังงานจลน์สูงกว่าทำเย็นโมเลกุลและดังนั้นจึงย้ายได้เร็วขึ้นและมีแนวโน้มที่จะหลบหนี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรียกคืนจากบทที่ 7 ที่ดาวเคราะห์โลกจะน้อยกว่า
ขนาดใหญ่กว่าดาวเคราะห์ขนาดยักษ์ และดังนั้นจึง มีแรงโน้มถ่วงแข็งแกร่ง

ผลกระทบโดย planetesimals ขนาดใหญ่ยักษ์ในช่วงต้น
ประวัติศาสตร์ของระบบสุริยะอาจจะระเบิดออกไปบาง
ของดาวเคราะห์ ' บกหลัก ( เพราะค่อนข้างอ่อนแอ

กับแรงโน้มถ่วงของดาวเคราะห์เหล่านี้ไม่มีความสามารถที่จะถือแก๊สเบา


เช่น ไฮโดรเจนและ ฮีเลียม เมื่อจัดหา
ก๊าซในดิสก์ protoplanetary วิ่งออกไป บรรยากาศหลักของดาวเคราะห์โลกเริ่มรั่ว

กลับสู่อวกาศ โมเลกุลของก๊าซจะหนีจากโลก
เรียกคืนจากบทที่ 4 ที่ทั้งหมดจะใช้เวลาสำหรับวัตถุใด ๆจาก
โมเลกุลเพื่อยานอวกาศที่จะหลบหนีดาวเคราะห์เป็นวัตถุ
ถึงความเร็วสูงกว่าความเร็วหลุดพ้นและ
ชี้ในทิศทางที่ถูกต้อง รังสีจากดวงอาทิตย์รุนแรง
ซึ่งเป็นแหล่งหลักของความร้อน หรือ Kinetic ,
พลังงานในชั้นบรรยากาศของดาวเคราะห์บกยก
อุณหภูมิและทำให้พลังงานจลน์ของโมเลกุลของบรรยากาศ
พอบางส่วนที่หลบหนี พลังงานจลน์ของวัตถุใด ๆที่ถูกกำหนดโดย
ของมวลและความเร็วของ ร้อน
โมเลกุลที่มีพลังงานจลน์มากกว่าทำเย็น
โมเลกุลจึงย้ายได้เร็วขึ้นและมีแนวโน้มที่จะ
หนี