STRATEGIC POSITION We noted (in Cha

STRATEGIC POSITION
We noted (in Chapter 5) that competitive advantage is based on the difference between
the perceived value a firm is able to create for consumers ( V ), captured by how much consumers
are willing to pay for a product or service, and the total cost ( C ) the firm incurs to
create that value. The greater the economic value created ( V   2   C ), the greater the firm’s
competitive advantage. To answer the business-level strategy question of how to compete,
managers have two primary competitive levers at their disposal: value ( V ) and cost ( C ).
A firm’s business-level strategy determines its strategic position —its strategic profile
based on value creation and cost—in a specific product market. A firm attempts to stake
out a valuable and unique position that meets customer needs while simultaneously creating
as large a gap as possible between the value the firm’s product creates and the cost
required to produce it. Higher value tends to require higher cost. To achieve a desired
strategic position, managers must make strategic trade-offs —choices between a cost or
value position. Managers must address the tension between value creation (which tends to
generate higher cost) and the pressure to keep cost in check so as not to erode the firm’s
economic value creation and profit margin. A business strategy is more likely to lead to a
competitive advantage if it allows firms to either perform similar activities differently, or
perform different activities than their rivals that result in creating more value or offering
similar products or services at lower cost. 4
GENERIC BUSINESS STRATEGIES
There are two fundamentally different generic business strategies— differentiation and cost
leadership. A differentiation strategy seeks to create higher value for customers than the
value that competitors create, by delivering products or services with unique features while
keeping costs at the same or similar levels. A cost-leadership strategy , in contrast, seeks
to create the same or similar value for customers by delivering products or services at a
lower cost than competitors, enabling the firm to offer lower prices to its customers.
These two strategies are called generic strategies because they can be used by any
organization—manufacturing or service, large or small, for-profit or nonprofit, public or
private, U.S. or non-U.S.—in the quest for competitive advantage, independent of industry
context. Differentiation and cost leadership require distinct strategic positions in order
to increase a firm’s chances to gain and sustain a competitive advantage. 5
Because value
creation and cost tend to be positively correlated, there exist important trade-offs between
value creation and low cost.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ เราสังเกต (ในบทที่ 5) ที่ ได้เปรียบเชิงแข่งขันจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่างมูลค่าการรับรู้บริษัทจะสามารถสร้างสำหรับผู้บริโภค (V), จากผู้บริโภคจำนวนยินดีที่จะชำระค่าผลิตภัณฑ์ หรือบริการ และต้นทุนรวม (C) ของบริษัทต่อไปสร้างค่า ยิ่งเศรษฐกิจค่าสร้าง (V 2 C) ยิ่งของบริษัทแข่งขันได้ ตอบคำถามกลยุทธ์ระดับธุรกิจที่การแข่งขันผู้จัดการมีกลไกแข่งขันหลักสองกำจัด: ค่า (V) และต้นทุน (C) กลยุทธ์ระดับธุรกิจของบริษัทกำหนดตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ซึ่งโปรไฟล์ของกลยุทธ์สร้างคุณค่าและต้นทุนซึ่งในตลาดผลิตภัณฑ์ที่ระบุ บริษัทพยายามที่จะเดิมพันออกมามีคุณค่า และเอกลักษณ์ ที่ตรงกับความต้องการลูกค้าในขณะที่สร้างพร้อมกันช่องว่างใหญ่ที่สุดระหว่างค่าที่สร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทและต้นทุนต้องผลิตได้ ค่าสูงมีแนวโน้มที่ต้องใช้ต้นทุนสูง เพื่อต้องการตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ ผู้จัดการต้องทำกลยุทธ์ทางเลือกคือทางเลือกระหว่างต้นทุน หรือค่าตำแหน่ง ผู้จัดการต้องความตึงเครียดระหว่างสร้างคุณค่า (ซึ่งมีแนวโน้มสร้างต้นทุนสูง) และความกดดันให้ต้นทุนในการตรวจสอบเพื่อไม่ให้กัดกร่อนของบริษัทสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและกำไร กลยุทธ์ทางธุรกิจเป็นแนวโน้มที่จะนำไปสู่การเปรียบถ้าอนุญาตให้บริษัทอาจดำเนินกิจกรรมคล้ายกันต่างกัน หรือทำกิจกรรมที่แตกต่างกว่าคู่แข่งของพวกเขาที่ทำให้สร้างเพิ่มเติม หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ต้นทุนต่ำเหมือนกัน 4 กลยุทธ์ทางธุรกิจทั่วไป มีกลยุทธ์ทางธุรกิจทั่วไปความแตกต่างกันสองตัวสร้างความแตกต่างและต้นทุนเป็นผู้นำ กลยุทธ์สร้างความแตกต่างพยายามสร้างมูลค่าสูงสำหรับลูกค้ามากกว่านี้ค่าที่คู่แข่งสร้าง โดยการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ มีคุณลักษณะเฉพาะในขณะที่การรักษาต้นทุนระดับเดียวกัน หรือคล้ายกัน ในทางตรงข้าม มุ่งกลยุทธ์การเป็นผู้นำต้นทุนเพื่อสร้างค่าเดียวกัน หรือคล้ายกันสำหรับลูกค้า โดยส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่าคู่แข่ง เปิดบริษัทให้ลดราคาให้ลูกค้า กลยุทธ์เหล่านี้สองจะเรียกว่ากลยุทธ์ทั่วไปเนื่องจากจะสามารถใช้ได้ โดยมี องค์กร-ประชาชนผลิต หรือบริการ ขนาดใหญ่ หรือเล็ก for-profit หรือไม่แสวงผล กำไร หรือส่วนตัว สหรัฐอเมริกาหรือไม่ข่าวลือ U.S.—in แสวงหาการได้เปรียบเชิงแข่งขัน ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมบริบทการ สร้างความแตกต่างและต้นทุนความเป็นผู้นำต้องมีตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ทั้งหมดในใบสั่งเพื่อเพิ่มโอกาสของบริษัทจะได้รับ และรักษาความ 5 เนื่องจากค่าสร้างและต้นทุนมีแนวโน้มที่เป็นบวก correlated มีทางเลือกสำคัญระหว่างสร้างคุณค่าและต้นทุนต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์
เราตั้งข้อสังเกต (ในบทที่ 5) ซึ่งเปรียบในการแข่งขันอยู่บนพื้นฐานของความแตกต่างระหว่าง
การรับรู้คุณค่าของ บริษัท จะสามารถสร้างสำหรับผู้บริโภค (V), จับโดยเท่าใดผู้บริโภค
ยินดีที่จะจ่ายเงินสำหรับสินค้าหรือบริการและ ค่าใช้จ่ายทั้งหมด (C) บริษัท เกิดขึ้นเพื่อ
สร้างมูลค่าที่ มากขึ้นสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ (V 2 C) มากขึ้นของ บริษัท
เปรียบในการแข่งขัน เพื่อที่จะตอบกลยุทธ์ทางธุรกิจระดับคำถามของวิธีการแข่งขัน
ผู้จัดการมีสองคันในการแข่งขันหลักในการกำจัดของพวกเขา. มูลค่า (V) และค่าใช้จ่าย (C)
กลยุทธ์ทางธุรกิจระดับ บริษัท กำหนดตำแหน่งยุทธศาสตร์ของ -Its รายละเอียดเชิงกลยุทธ์
ขึ้นอยู่กับค่า การสร้างและการประหยัดค่าใช้จ่ายในการตลาดของผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจง บริษัท พยายามที่จะถือหุ้น
จากตำแหน่งที่มีคุณค่าและเป็นเอกลักษณ์ที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของลูกค้าในขณะเดียวกันการสร้าง
ช่องว่างที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่ทำได้ระหว่างมูลค่าสร้างผลิตภัณฑ์ของ บริษัท และค่าใช้จ่าย
ที่จำเป็นในการสร้างมันขึ้นมา ค่าที่สูงขึ้นมีแนวโน้มที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เพื่อให้บรรลุตามที่ต้องการ
ตำแหน่งทางกลยุทธ์ผู้จัดการต้องทำยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยน -choices ระหว่างค่าใช้จ่ายหรือ
ค่าตำแหน่ง ผู้จัดการต้องอยู่ความตึงเครียดระหว่างการสร้างมูลค่า (ซึ่งมีแนวโน้มที่จะ
ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น) และความดันที่จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบเพื่อไม่ให้กัดเซาะของ บริษัท
การสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและอัตรากำไร กลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีแนวโน้มที่จะนำไปสู่
​​ความได้เปรียบในการแข่งขันถ้ามันจะช่วยให้ บริษัท ที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งกิจกรรมที่คล้ายกันแตกต่างกันหรือ
ดำเนินกิจกรรมที่แตกต่างจากคู่แข่งของพวกเขาที่มีผลในการสร้างมูลค่ามากขึ้นหรือนำเสนอ
ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันหรือบริการด้วยต้นทุนที่ต่ำ 4
กลยุทธ์ทางธุรกิจสามัญ
มีสองธุรกิจทั่วไปที่แตกต่างกันโดยพื้นฐานความแตกต่าง Strategies- และค่าใช้จ่ายที่มี
ความเป็นผู้นำ กลยุทธ์ความแตกต่างพยายามที่จะสร้างมูลค่าที่สูงขึ้นสำหรับลูกค้ากว่า
มูลค่าที่คู่แข่งสร้างโดยการส่งมอบสินค้าหรือบริการที่มีคุณสมบัติที่ไม่ซ้ำกันในขณะที่
ทำให้ค่าใช้จ่ายในระดับเดียวกันหรือคล้ายกัน กลยุทธ์การเป็นผู้นำค่าใช้จ่ายในทางตรงกันข้ามพยายาม
ในการสร้างมูลค่าเดียวกันหรือคล้ายกันสำหรับลูกค้าโดยการส่งมอบสินค้าหรือบริการที่
มีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าคู่แข่งซึ่งช่วยให้ บริษัท ที่จะนำเสนอราคาที่ต่ำกว่าให้กับลูกค้าของตน.
ทั้งสองกลยุทธ์ที่เรียกว่ากลยุทธ์ทั่วไปเพราะ พวกเขาสามารถใช้ใด ๆ
ขององค์กรการผลิตหรือบริการขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กสำหรับผลกำไรหรือไม่แสวงหาผลกำไรที่สาธารณะหรือ
ส่วนตัวสหรัฐอเมริกาหรือที่ไม่ใช่ของสหรัฐในการแสวงหาประโยชน์จากการแข่งขันเป็นอิสระของอุตสาหกรรม
บริบท ความแตกต่างและความเป็นผู้นำค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ที่แตกต่างกันเพื่อ
ที่จะเพิ่มโอกาสของ บริษัท ที่จะได้รับและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน 5
เนื่องจากค่า
การสร้างและค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ในเชิงบวกมีอยู่ที่สำคัญไม่ชอบการค้าระหว่าง
การสร้างมูลค่าและต้นทุนต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กลยุทธ์ตำแหน่ง
เราไว้ ( ในบทที่ 5 ) การแข่งขันจะขึ้นอยู่กับความแตกต่างระหว่าง
มูลค่าการรับรู้ บริษัทสามารถที่จะสร้างสำหรับผู้บริโภค ( V ) จับเท่าไรผู้บริโภค
เต็มใจที่จะจ่ายสำหรับสินค้าหรือบริการ และค่าใช้จ่ายทั้งหมด ( c )

กำลังสร้างบริษัท ที่ค่า ยิ่งสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ( V    2 C ) ให้มากขึ้นของบริษัท
ประโยชน์จากการแข่งขัน กลยุทธ์ระดับธุรกิจจะตอบคำถามของวิธีการแข่งขัน
ผู้จัดการได้สองคันการแข่งขันหลักที่ตนขายทิ้ง : ค่า ( V ) และค่าใช้จ่าย ( C )
กลยุทธ์ระดับธุรกิจของบริษัทกำหนดตำแหน่งเชิงกลยุทธ์ของ - เชิงกลยุทธ์ของโปรไฟล์
ขึ้นอยู่กับการสร้างคุณค่าและต้นทุนในการทำตลาดสินค้าเฉพาะ บริษัทพยายามที่จะเดิมพัน
หาที่มีคุณค่าและเอกลักษณ์ ตำแหน่งที่ตรงกับความต้องการลูกค้า ในขณะเดียวกันก็สร้าง
ขนาดใหญ่เป็นช่องว่างที่เป็นไปได้ระหว่างมูลค่าของผลิตภัณฑ์ของ บริษัท สร้างและค่าใช้จ่าย
ต้องผลิตมัน ค่าสูง มีแนวโน้มที่จะต้องมีต้นทุนที่สูงขึ้น เพื่อให้บรรลุผลที่ต้องการ
กลยุทธ์ตำแหน่งผู้จัดการต้อง trade-offs - กลยุทธ์ทางเลือกระหว่างต้นทุนหรือ
ตำแหน่งค่าผู้จัดการจะต้องแก้ไขความตึงเครียดระหว่างการสร้างคุณค่า ( ซึ่งมีแนวโน้มที่จะ
สร้างต้นทุนที่สูงขึ้น ) และความดันเพื่อให้ต้นทุนในการตรวจสอบเพื่อที่จะไม่กร่อนของ
บริษัทมูลค่าทางเศรษฐกิจ การสร้างและกำไร . กลยุทธ์ทางธุรกิจมีแนวโน้มที่จะนำไปสู่
ได้เปรียบถ้ามันจะช่วยให้ บริษัท ที่จะให้ทำกิจกรรมที่แตกต่างหรือคล้ายกัน
,ทำกิจกรรมที่แตกต่างกว่าคู่แข่งของพวกเขาที่มีผลในการสร้างมูลค่าเพิ่ม หรือเสนอ
ผลิตภัณฑ์ที่คล้ายกันหรือบริการในราคาที่ต่ำกว่า 4

มีทั่วไปกลยุทธ์ธุรกิจกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างกันสองพื้นฐานทั่วไป - ความแตกต่างและต้นทุน
ภาวะผู้นำ ใช้กลยุทธ์สร้างความแตกต่างและสร้างมูลค่าสูงสำหรับลูกค้ากว่า
มูลค่าที่คู่แข่งสร้างโดยการส่งมอบผลิตภัณฑ์หรือบริการ ด้วยคุณสมบัติที่ไม่ซ้ำกันในขณะที่
รักษาค่าใช้จ่ายในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกัน ความเป็นผู้นำต้นทุนกลยุทธ์ ในทางตรงกันข้ามพยายาม
สร้างเดียวกันหรือคล้ายกันสำหรับลูกค้า โดยการส่งค่าสินค้าหรือบริการในราคาลด
กว่าคู่แข่ง ส่งผลให้ บริษัท ที่จะเสนอราคาให้กับลูกค้า
เหล่านี้กลยุทธ์สองจะเรียกว่ากลยุทธ์ทั่วไปเนื่องจากพวกเขาสามารถถูกใช้โดยองค์กรใด
การผลิตหรือบริการ ขนาดใหญ่ หรือขนาดเล็ก สำหรับกำไรหรือแสวง สาธารณะ หรือ อเมริกา หรือ - -
ส่วนตัว ในการแสวงหาประโยชน์จากการแข่งขันอิสระจากบริบทอุตสาหกรรม

การเป็นผู้นำต้องชัดเจนและต้นทุนเชิงกลยุทธ์เพื่อ
ตำแหน่งเพื่อเพิ่มโอกาสของ บริษัท ที่จะได้รับและรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน 5

เพราะการสร้างมูลค่าและค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มที่จะมีความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างมี trade-offs
สร้างมูลค่าและค่าใช้จ่ายต่ำ