A leader's conception of human bein

A leader's conception of human beings has implications for his or her leadership style (Maslow, 1954; McGregor, 1960; Schein, 1969). There are two images or theories of how to lead. In the first (Theory X according to McGregor; rational-economic man according to Schein), people are seen as having little ambition, a reluctance to work, and a desire to avoid responsibility. People are motivated by economic competition, and conflict is inevitable. Without managerial effort, men and women do virtually nothing. The leader operating under these assumptions must motivate, organize, control, and coerce. He or she directs; people under him or her accept and even prefer it, because they have little ambition or desire for responsibility. The leader bears the responsibility and burden of his or her subordinates' or followers' performance. This represents the traditional theory of management, especially business management. Another theory (Theory Y for McGregor, self-actualizing man for Schein) holds that people are motivated by a hierarchy of needs. The assumption in this theory is that as basic needs are met, new emergent needs become motivating forces. Each of us has a desire to use our potential, to have responsibility, to actualize ourselves. The theory assumes that men and women enjoy work as well as play or rest. Thus individuals will exercise self-direction and self control toward the accomplishment of objective they value. Furthermore, they can be creative and innovative. They will not only accept responsibility but also seek it. That potential for imagination, ingenuity, and resourcefulness is widely distributed within the population but poorly utilized in modern society. In this theory, the leader creates challenge and an opportunity for subordinates to use their abilities to a greater extent. There is no need to control or motivate; the motivation is waiting to be unleashed. A leader's conception of men and women greatly affects his or her style of supervision and the bases of power he or she will implement. The first theory is more likely to use money as a motivating reward and coercion to compel compliance. The second theory is likely to promote intrinsic rewards of self-satisfaction and pride in achievement; coercion is used infrequently

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นผู้นำความคิดของมนุษย์มีผลกระทบสำหรับเขา หรือเธอเป็นผู้นำสไตล์ (มาสโลว์ 1954 แม็คเกรเกอร์ 1960 อย่างไร Schein, 1969) มีสองภาพหรือทฤษฎีของการนำ ในครั้งแรก (ทฤษฎี X ตามแม็คเกรเกอร์ คนเชือดเศรษฐกิจตามอย่างไร Schein), คนจะเห็นว่ามีความทะเยอทะยานน้อย ไม่เต็มใจในการทำงาน และความปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ คนมีแรงจูงใจ โดยการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และความขัดแย้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยง โดยไม่พยายามจัดการ ชายและหญิงทำแทบไม่ ผู้นำที่ปฏิบัติงานภายใต้สมมติฐานเหล่านี้ต้องการจูงใจ จัดการ ควบคุม และบังคับ เขากำหนด คนที่เขาหรือเธอยอมรับ และยังชอบมัน เพราะพวกเขามีความใฝ่ฝันหรือความรับผิดชอบน้อย ผู้นำหมีความรับผิดชอบและภาระงานของประสิทธิภาพการทำงานของผู้ใต้บังคับบัญชาหรือของลูกศิษย์ของเขา หรือเธอ นี้แสดงถึงการจัดการ การจัดการธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งทฤษฎีดั้งเดิม อีกทฤษฎี (ทฤษฎี Y สำหรับแม็คเกรเกอร์ คน actualizing ตนเองอย่างไร Schein) ถือว่า บุคคลมีแรงจูงใจตามลำดับชั้นของความต้องการ อัสสัมชัญในทฤษฎีนี้เป็นที่ตรงตามความต้องการพื้นฐาน ใหม่โผล่ออกมาต้องเป็น กองกำลังกระตุ้น เราแต่ละคนมีความปรารถนาที่จะใช้ศักยภาพของเรา มีความรับผิดชอบ actualize ตนเอง ทฤษฎีสันนิษฐานว่า ชายและหญิงเพลิดเพลินกับการทำงานเป็นเล่น หรือพักผ่อน ดังนั้น บุคคลที่จะออกกำลังกายทิศทางตนเองและควบคุมตนเองต่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ที่พวกเขาค่า นอกจากนี้ พวกเขาได้สร้างสรรค์ และนวัตกรรม พวกเขาจะไม่รับผิดชอบ แต่ยัง ทำการค้นหา ศักยภาพที่ การจินตนาการ ประดิษฐ์คิดค้น resourcefulness มีกระจายภายในประชากร แต่งานกันอย่างแพร่หลายใช้ในสังคมสมัยใหม่ ในทฤษฎีนี้ ผู้นำสร้างความท้าทายและโอกาสผู้ใต้บังคับบัญชาจะใช้ความสามารถระดับสูง ไม่จำเป็นต้องควบคุม หรือจูง ใจ แรงจูงใจที่จะรอให้ทัพ unleashed ความคิดของผู้นำของชายและหญิงมีผลต่อลักษณะของเขา หรือเธอดูแลและฐานของเขาหรือเธอจะใช้พลังงานมาก ทฤษฎีแรกมีแนวโน้มที่จะใช้เงินเป็นรางวัลจูงใจและแกมบังคับกดดันการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ทฤษฎีที่สองเป็นแนวโน้มที่จะส่งเสริมรางวัล intrinsic self-satisfaction และความภาคภูมิใจในความสำเร็จ ใช้แกมบังคับขึ้นนาน ๆ ครั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคิดของผู้นำของมนุษย์มีผลกระทบต่อลักษณะความเป็นผู้นำของเขาหรือเธอ (Maslow, 1954; McGregor, 1960; Schein, 1969) มีสองภาพหรือทฤษฎีของวิธีการที่จะนำเป็น ในครั้งแรก (ทฤษฎี X ตามเกรเกอร์; คนที่มีเหตุผลทางเศรษฐกิจตาม Schein) คนจะเห็นว่ามีความใฝ่ฝันของเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เต็มใจในการทำงานและความปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ คนที่มีแรงจูงใจจากการแข่งขันทางเศรษฐกิจและความขัดแย้งหนีไม่พ้น ไม่มีความพยายามในการบริหารจัดการทั้งชายและหญิงทำแทบจะไม่มีอะไร ผู้นำดำเนินงานภายใต้สมมติฐานเหล่านี้จะต้องสร้างแรงจูงใจในการจัดระเบียบควบคุมและบังคับ เขาหรือเธอนำ; คนใต้เขาหรือเธอยอมรับและแม้จะชอบมันเพราะพวกเขามีความใฝ่ฝันหรือความปรารถนาเล็ก ๆ น้อย ๆ สำหรับความรับผิดชอบ ผู้นำรับผิดชอบและภาระของผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาหรือเธอหรือติดตาม 'ประสิทธิภาพ นี้เป็นทฤษฎีแบบดั้งเดิมของการจัดการโดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดการธุรกิจ อีกทฤษฎีหนึ่ง (ทฤษฎี Y สำหรับเกรเกอร์, ชายตัวเอง actualizing สำหรับ Schein) ถือได้ว่าคนที่มีแรงจูงใจจากลำดับชั้นของความต้องการ สมมติฐานในทฤษฎีนี้ก็คือว่าเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานจะได้พบกับความต้องการใหม่โผล่ออกมากลายเป็นกองกำลังสร้างแรงจูงใจ เราแต่ละคนมีความปรารถนาที่จะใช้ศักยภาพของเราที่จะมีความรับผิดชอบจะทำให้เป็นจริงตัวเอง ทฤษฎีสมมติว่าผู้ชายและผู้หญิงสนุกกับการทำงานเช่นเดียวกับการเล่นหรือส่วนที่เหลือ ดังนั้นบุคคลที่จะออกกำลังกายการกำกับตนเองและการควบคุมตนเองที่มีต่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ที่พวกเขาให้ความสำคัญ นอกจากนี้พวกเขาสามารถสร้างสรรค์และนวัตกรรม พวกเขาจะไม่เพียง แต่ยอมรับความรับผิดชอบ แต่ยังแสวงหามัน ที่มีศักยภาพที่สำหรับจินตนาการ, ความฉลาดและความมั่งคั่งมีการกระจายอย่างกว้างขวางภายในประชากร แต่ใช้ไม่ดีในสังคมสมัยใหม่ ในทฤษฎีนี้ผู้นำสร้างความท้าทายและโอกาสสำหรับผู้ใต้บังคับบัญชาที่จะใช้ความสามารถของตนในระดับที่ใหญ่กว่า ไม่จำเป็นต้องมีการควบคุมหรือกระตุ้นไม่มี; แรงจูงใจที่กำลังรอที่จะปลดปล่อย ความคิดของผู้นำของชายและหญิงที่มีผลกระทบต่อรูปแบบของเขาหรือเธอในการกำกับดูแลและฐานอำนาจของเขาหรือเธอจะดำเนินการ ทฤษฎีแรกคือมีโอกาสมากขึ้นที่จะใช้เงินเป็นรางวัลแรงจูงใจและการข่มขู่บังคับให้ปฏิบัติตาม ทฤษฎีที่สองมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมผลตอบแทนที่แท้จริงของความพอใจในตนเองและความภาคภูมิใจในความสำเร็จ; การข่มขู่จะใช้บ่อย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ของผู้นำความคิดของมนุษย์มีผลกระทบต่อเขาหรือเธอ ภาวะผู้นำ ( มาสโลว์ 2497 ; แมคเกรเกอร์ , 1960 ; SCHEIN , 1969 ) มีสองภาพ หรือ ทฤษฎีของวิธีการนำ ในตอนแรก ( ทฤษฎีตาม แมคเกรเกอร์ ; เหตุผลทางเศรษฐกิจคนตาม SCHEIN ) , คนเห็นมีความทะเยอทะยานเล็กน้อย ไม่เต็มใจที่จะทำงาน และความปรารถนาที่จะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบผู้คนมีแรงจูงใจจากการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และความขัดแย้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายคือชายและหญิงทำอะไรแทบไม่ได้เลย หัวหน้าปฏิบัติการภายใต้สมมติฐานเหล่านี้จะต้องกระตุ้นให้ จัดการ ควบคุม และบังคับ . เขาหรือเธอชี้ทางให้ คนใต้เขาหรือเธอรับและชอบมันเพราะพวกเขามีความทะเยอทะยานเล็กน้อยหรือความปรารถนาสำหรับความรับผิดชอบหัวหน้าหมีความรับผิดชอบและภาระของเขา หรือเธอผู้ใต้บังคับบัญชาหรือผลงานลูกศิษย์ ' นี้เป็นทฤษฎีแบบดั้งเดิมของการจัดการโดยเฉพาะธุรกิจ อีกทฤษฎีหนึ่งทฤษฎี Y สำหรับ แม็คเกรเกอร์ , ตนเอง actualizing มาน SCHEIN ) ถือว่าผู้คนมีแรงจูงใจจากลำดับชั้นของความต้องการ สมมติฐานในทฤษฎีนี้คือเป็นความต้องการพื้นฐาน จะพบความต้องการเร่งด่วนใหม่กลายเป็นแรงจูงใจกองกำลัง เราทุกคนมีความปรารถนาที่จะใช้ศักยภาพของเรามีความรับผิดชอบที่จะทำให้เป็นจริงเอง ทฤษฎีที่ถือว่า ผู้ชายและผู้หญิงสนุกกับการทำงาน ตลอดจนการเล่นหรือพักผ่อน ดังนั้นบุคคลที่จะใช้ทิศทางตนเองและการควบคุมตนเองที่มีต่อความสำเร็จของวัตถุประสงค์ของพวกเขา มูลค่า นอกจากนี้ พวกเขาสามารถสร้างสรรค์ และนวัตกรรมพวกเขาจะไม่เพียง แต่ยอมรับความรับผิดชอบ แต่ยังแสวงหามัน ที่อาจเกิดขึ้นสำหรับจินตนาการ ความฉลาดและไหวพริบจะกระจายอย่างกว้างขวางภายในประชากร แต่ไม่ดีที่ใช้ในสังคมสมัยใหม่ ในทฤษฎีนี้ ผู้นำจะสร้างความท้าทายและโอกาสสำหรับผู้ที่จะใช้ความสามารถของตนในขอบเขตที่มากขึ้น ไม่ต้องควบคุม หรือกระตุ้น ;แรงจูงใจที่กำลังรอที่จะถูกปลดปล่อย ของผู้นำความคิดของผู้ชายและผู้หญิงมากมีผลต่อ ของเขาหรือเธอ ลักษณะการนิเทศและฐานอำนาจที่เขาหรือเธอจะใช้ . ทฤษฎีแรกมีแนวโน้มที่จะใช้เงินเป็นแรงจูงใจ รางวัล และการบังคับให้ปฏิบัติตาม ทฤษฎีที่สองมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมความพึงพอใจในรางวัลและความภาคภูมิใจในตนเองผลสัมฤทธิ์การใช้นาน ๆ