Every day we rely on energy to prov

Every day we rely on energy to provide us with electricity, hot water, and fuel for our cars. Most of this energy comes from fossil fuels, such as coal, oil, and natural gas. These are nonrenewable energy sources, which means that if we use them all up, we can never get more during our lifetime. Fossil fuels also contribute greatly to global climate change by releasing carbon dioxide into the air when they are burned.

Because fossil fuels can run out and are bad for the environment, it is important that we start switching to other energy sources, like renewable energy sources. These are energy sources that are constantly being replenished, such as sunlight, wind, and water. This means that we can use them as much as we want, and we do not have to worry about them running out. Additionally, renewable energy sources are usually much more environmentally friendly than fossil fuels. Overall, they release very few chemicals, like carbon dioxide, that can harm the environment.

Currently, less than ten percent of all the energy we use comes from renewable sources. So, you might be wondering, 'if renewable energy sources do not harm the environment and will not run out, then why are we not using them everywhere and all the time?' It is because many of them are currently expensive to harness, are inefficient, or have other disadvantages. For example, using energy from the wind might be great in an area that is really windy all year-round, but it wouldn't work so well in an area with very little wind.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทุกวันเราต้องพึ่งพาพลังงานเพื่อให้เรามีไฟฟ้าน้ำร้อนและน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ของเรา ส่วนใหญ่ของพลังงานนี้มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นถ่านหินน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เหล่านี้เป็นแหล่งพลังงาน nonrenewable ซึ่งหมายความว่าถ้าเราใช้พวกเขาทั้งหมดขึ้นเราสามารถไม่เคยได้รับมากขึ้นในช่วงชีวิตของเรา เชื้อเพลิงฟอสซิลนอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกโดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเมื่อพวกเขาถูกเผาไหม้. เพราะเชื้อเพลิงฟอสซิลสามารถทำงานออกมาและไม่ดีสำหรับสภาพแวดล้อมที่เป็นสิ่งสำคัญที่เราจะเริ่มต้นการเปลี่ยนไปใช้แหล่งพลังงานอื่น ๆ เช่นแหล่งพลังงานหมุนเวียน . เหล่านี้เป็นแหล่งพลังงานที่มีอย่างต่อเนื่องได้รับการเติมเต็มเช่นแสงแดดลมและน้ำ ซึ่งหมายความว่าเราสามารถใช้พวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่เราต้องการและเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาวิ่งออกมา นอกจากนี้แหล่งพลังงานหมุนเวียนที่มักจะมีมากขึ้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยรวมแล้วพวกเขาปล่อยสารเคมีน้อยมากเช่นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม. ปัจจุบันน้อยกว่าร้อยละสิบของพลังงานทั้งหมดที่เราใช้มาจากแหล่งพลังงานทดแทน ดังนั้นคุณอาจจะสงสัยว่า 'ถ้าแหล่งพลังงานหมุนเวียนไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและจะไม่ทำงานออกแล้วทำไมเราไม่ใช้พวกเขาทุกที่และตลอดเวลา? มันเป็นเพราะหลายคนมีอยู่ในปัจจุบันมีราคาแพงในการควบคุมที่มีประสิทธิภาพหรือมีข้อเสียอื่น ๆ ตัวอย่างเช่นการใช้พลังงานจากลมอาจจะดีในพื้นที่ที่มีลมแรงจริงๆตลอดทั้งปี แต่มันจะไม่ทำงานให้ดีในพื้นที่ที่มีลมน้อยมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทุกๆวันเราต้องพึ่งพาพลังงาน เพื่อให้เรา มีไฟฟ้า น้ำอุ่น และเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ของเรา ส่วนใหญ่ของพลังงานที่มาจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ เหล่านี้เป็นแหล่งพลังงาน ซึ่งไม่สามารถหาทดแทนได้ ซึ่งหมายความ ว่า ถ้าเราใช้พวกเขาทั้งหมดขึ้น เราไม่สามารถได้รับมากขึ้นในช่วงชีวิตของเราเชื้อเพลิงซากดึกดำบรรพ์มีส่วนอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก โดยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศเมื่อพวกเขาถูกเผา

เพราะเชื้อเพลิงฟอสซิลจะวิ่งออกมา และไม่ดีต่อสิ่งแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญที่เราเริ่มเปลี่ยนแหล่งพลังงานอื่นๆ เช่น แหล่งพลังงานทดแทน เหล่านี้เป็นแหล่งพลังงานที่ถูกเติมอยู่ตลอดเวลา เช่น แสงแดด ลม และน้ำนี่หมายความว่า เราสามารถใช้พวกเขาเท่าที่เราต้องการ และเราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพวกเขาวิ่งออกไป นอกจากนี้ แหล่งพลังงานทดแทนมักจะมีมากขึ้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิล โดยรวม พวกเขาปล่อยสารเคมีน้อยมาก เช่น คาร์บอนไดออกไซด์ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

ตอนนี้น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพลังงานทั้งหมดที่เราใช้มาจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน . ดังนั้นคุณอาจจะสงสัยว่า ' ถ้าแหล่งพลังงานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมและจะไม่หมด แล้วทำไมเราไม่ใช้พวกเขาทุกที่และทุกเวลา ? มันเพราะมากของพวกเขาอยู่ในขณะนี้แพงเทียมจะไม่มีประสิทธิภาพ หรือมีข้อเสียอื่น ๆ ตัวอย่าง การใช้พลังงานจากลมอาจจะดีในพื้นที่ที่มีลมแรงจริงๆทั้งหมดตลอดทั้งปีแต่มันไม่ทำงานได้ดีในพื้นที่ที่มีลมน้อยมาก .