Urban population can be usefully di

Urban population can be usefully divided into three categories reflecting their perennial water shortage status (Table 1). A total of 162 million people will live in cities that will have perennial water shortage in 2050. The majority of people in this category will be in Asia (94 million), although Africa will have a greater percentage (7.7%) of total urban dwellers under perennial water shortage. A second category is people in cities that will not have perennial water shortage by 2050 at the 100-km buffer distance, but the buffer distance needed to avoid perennial water shortage will increase from 2000 to 2050. This potentially implies infrastructure investment to enable short-scale (

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประชากรเมืองสามารถถูกแบ่งเป็นสามประเภทสะท้อนให้เห็นถึงสถานะของปัญหาการขาดแคลนน้ำยืนต้น (ตารางที่ 1) usefully จำนวน 162 ล้านคนจะอยู่อาศัยในเมืองที่จะมีการขาดแคลนน้ำยืนต้นใน 2050 คนประเภทนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในเอเชีย (94 ล้าน), แม้ว่าแอฟริกาจะมีเปอร์เซ็นต์มากกว่า (7.7%) ของชาวเมืองรวมภายใต้การขาดแคลนน้ำยืนต้น ประเภทที่สองคือ คนในเมืองที่จะมีการขาดแคลนน้ำยืนต้นภายในปี 2050 ที่ระยะทาง 100 กม.บัฟเฟอร์ แต่ระยะบัฟเฟอร์ที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนน้ำยืนต้นจะเพิ่มขึ้นจาก 2000 ถึง 2050 นี้อาจหมายถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานให้สั้นขนาด (< 100 km) น้ำขนส่งเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากรประมาณ 2050 คาด 720 ล้าน อีก ส่วนใหญ่ของคนประเภทนี้จะอยู่ในเอเชีย (338 ล้าน), แต่แอฟริกาจะมีเปอร์เซ็นต์มากกว่า (36.3%) ของชาวเมืองทั้งหมดในหมวดหมู่นี้ สุดท้าย ประเภทที่สามคือ คนในเมืองที่ดูเหมือนไม่น่าจะมีปัญหาเกี่ยวกับการขาดแคลนน้ำยืนต้น ประชากรที่จะเติบโตจาก 1.0 พันล้านถึง 2.9 พันล้านจาก 2000 ถึง 2050 ประชาชนจำนวนมากที่อยู่ในประเภทนี้เหลือ อย่างไรก็ตาม จะ เผชิญปัญหาการขาดแคลนน้ำตามฤดูกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประชากรในเมืองสามารถแบ่งออกได้เป็นประโยชน์ออกเป็นสามประเภทสะท้อนให้เห็นถึงสถานะการขาดแคลนน้ำยืนต้นของพวกเขา (ตารางที่ 1) ทั้งหมด 162 ล้านคนจะอาศัยอยู่ในเมืองที่จะมีการขาดแคลนน้ำยืนต้นในปี 2050 ส่วนใหญ่ของคนที่อยู่ในหมวดหมู่นี้จะอยู่ในเอเชีย (94000000) แม้ว่าแอฟริกาจะมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่า (7.7%) ของชาวเมืองทั้งหมด ภายใต้การขาดแคลนน้ำยืนต้น ประเภทที่สองคือคนที่อยู่ในเมืองที่จะได้มีการขาดแคลนน้ำยืนต้นภายในปี 2050 ที่ระยะทางบัฟเฟอร์ 100 กม. แต่ระยะบัฟเฟอร์ที่จำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดแคลนน้ำยืนต้นจะเพิ่มขึ้นจากปี 2000 ถึงปี 2050 ที่อาจเกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเปิดใช้งานในระยะสั้น ขนาด (<100 กิโลเมตร) การขนส่งทางน้ำเพื่อตอบสนองความต้องการของประชากร 2050 ที่คาดการณ์ของ 720000000 อีกครั้งที่คนส่วนใหญ่ในหมวดหมู่นี้จะอยู่ในเอเชีย (338,000,000) แต่แอฟริกาจะมีเปอร์เซ็นต์ที่สูงขึ้น (36.3%) ของผู้อาศัยอยู่ในเมืองทั้งหมดในหมวดหมู่นี้ สุดท้ายประเภทที่สามคือคนที่อยู่ในเมืองที่ดูเหมือนจะไม่น่าจะมีปัญหากับการขาดแคลนน้ำยืนต้นมีประชากรจะเติบโตจาก 1.0 พันล้านเป็น 2.9 พันล้านดอลลาร์จากปี 2000 ถึงปี 2050 ชาวเมืองหลายคนที่ตกอยู่ในประเภทนี้จะเหลือ แต่ ต้องเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนน้ำตามฤดูกาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประชากรในเมืองสามารถเป็นประโยชน์แบ่งออกเป็นสามประเภทสะท้อนให้เห็นถึงสถานะของพวกเขาขาดน้ำยืนต้น ( ตารางที่ 1 ) ทั้งหมด 162 ล้านคนอาศัยอยู่ในเมืองที่ต้องยืนต้นการขาดแคลนน้ำในเบื้องต้น ส่วนใหญ่คนประเภทนี้จะอยู่ในเอเชีย ( 94 ล้านบาท ) แม้ว่าแอฟริกาจะมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่า ( 77 % ) ของชาวเมืองรวมภายใต้ยืนต้นน้ำ . ประเภทที่สองคือ ผู้คนในเมืองนั้นจะไม่มีการขาดแคลนน้ำยืนต้นโดย 2050 ที่ 100 km บัฟเฟอร์ระยะไกล แต่บัฟเฟอร์ระยะทางต้องหลีกเลี่ยง ไม้ยืนต้น การขาดแคลนน้ำจะเพิ่มขึ้นจากปี 2000 ถึงปี 2050 .นี้อาจหมายถึงการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานเพื่อให้ขนาดสั้น ( < 100 km ) ขนส่งทางน้ำ เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศ 2050 ประชากร 720 ล้านบาท อีกครั้ง ส่วนใหญ่คนประเภทนี้จะอยู่ในเอเชีย ( 338 ล้านบาท ) แต่แอฟริกาจะมีมากขึ้น ( ร้อยละ 36.3 % ) รวมของชาวเมืองในหมวดนี้ ในที่สุดประเภทที่สาม คือ ผู้คนในเมืองที่ไม่น่าเป็นไปได้ที่จะมีปัญหาขาดน้ำยืนต้นที่มีประชากรจะเพิ่มขึ้นจาก 1.0 พันล้านถึง 2.9 พันล้าน จาก 2000 - 2050 . ชาวเมืองหลายคนที่ตกอยู่ในประเภทนี้ จะตกค้าง แต่หน้าน้ำตามฤดูกาล