Jerri Nielsen was trying to escape

Jerri Nielsen was trying to escape monsters in her personal life when she volunteered to work at a south Pole research station in 1998. What she ended up with, in 11 Antarctic months, was a near-death experience, international celebrity status, and a new outlook on life.
Dramatic as it was. The experience didn’t solve Nielsen’s personal problems. (this is. After all, A true story. Fiction might have ended differently.) But it did give the former emergency-room doctor the perspective that comes to those who have taken a long, hard look into the abyss.
“Ice Bound” is a family story. Or rather. The story of one family being torn apart by emotional abuse and infidelity, while another pulls together to deal with serious illness in its ranks. It’s also a cancer survivor’s story, with all the gests. Most of all. Though. “Ice Bound” is the story of ordinary people doing extraordinary things under some of the most difficult conditions on the planet.
Nielsen first came to the world’s attention in the summer of 1999, when she performed a biopsy on herself (using ice as her only anesthetic) and aggressive form of breast cancer.
The situation was certainly dramatic. Nielsen was the only doctor within 600 miles, trapped on the ice in the middle if the polar winter with little in the way of advanced medical supplies. Her sole link with the outside world came through e-mail, and that worked only when a communication satellite passed over the Pole.
Despite Nielsen’s request that publicity be avoided, her employer—a subcontractor to the National Science Foundation—was overwhelmed by media interest in the “South Pole doctor.” Although NSF didn’t release her name, reporters quickly filled in the blanks from information that was released. Nielsen’s family and friends were soon fielding a barrage of interview requests back in the United States. Her ex-husband, with whom she had gone through a bitter divorce, told reporters that Nielsen was a bad mother who had abandoned her children and was probably making up the whole thing to get attention.
Meanwhile, at the bottom of the world, odds didn’t look particularly good. Under the best of circumstances, women with her type and stage of breast cancer have a 50/50 chance of survival. And the Amundsen-Scott South Pole Station hardly provided the best of circumstances.
in temperatures cold enough to coagulate jet fuel, 41 people were living and working in perpetual exterior darkness under a polar dome designed to house a staff of 1.7 as the medic, it was Nielsen’s job to keep the scientists and onsite construction crew healthy until fresh personnel and supplies would arrive with the coming if the Antarctic spring.
As Nielsen’s cancer progressed, though, the doctor increasingly became the patient. Because it was too cold at that point to land an airplane at the Pole, the NSF arranged to have cancer-fighting drugs and other medical supplies airdropped.
To a large degree, Nielsen treated herself after that, while continuing to care for other “Polies” with injuries. She did though, have plenty of help administering her weekly chemotherapy sessions.
Following directions from a stateside oncologist, a welder and a maintenance man on the base learned to administer the IVs. A heavy-equipment mechanic mixed the potentially deadly drugs and monitored the IV drips. Others at the station videotaped the session and worked to keep the communications lines open so doctors 9,000 miles away could give advice if something went wrong.
By the time an Air National Guard LC-130 made the coldest-ever landing at the pole, with temperatures hovering around 60 degrees below zero, on October 16, Nielsen had to be carried to plane. Once she was in America, the NSF slipped her past waiting reporters and she was taken directly to Indiana University Hospital. There she had a lumpectomy (later she was forced to have a full mastectomy) and more chemotherapy.
Behind her on the Pole, she left the closest friends she had ever made- a group she rightly calls modern-day heroes. Unfortunately, “Ice Bound”. Nielsen’s account of the ordeal. Has a rushed and almost amateur quality to it. It reads in places like it’s the product of a vanity publisher.
The good doctor isn’t always a sympathetic character, either, leaving her old life in shambles and heading to the Pole while her father was seemingly on his death bed. Even now, more than 15 months after Nielsen’s emergency evacuation from the Pole, she hasn’t been able to arrange a reunion with her three teenage children.
But taken as a whole. “Ice Bound” is a worthwhile read. The details of life at the fringes of human development are fascinating, and the stages if anger, depression, and anguish Nielsen passes through ring true even to a reader who hasn’t been faced with a terminal illness or been estranged from loved ones.
At one point, Nielsen writes that Antarctic is a “blank slate on which you could writes your soul.” In “Ice Bound,” Nielsen her your—warts, frostbite,

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นีลสัน Jerri ได้พยายามหนีมอนสเตอร์ในชีวิตส่วนตัวของเธอเมื่อเธออาสาที่จะทำงานที่สถานีวิจัยขั้วโลกใต้ในปี 1998 อะไรเธอจบลง ด้วย ในแอนตาร์กติกเดือน มีประสบการณ์ใกล้ตาย สถานะดาราต่างประเทศ และใหม่ outlook ในชีวิตอย่างมากก็ ประสบการณ์ไม่สามารถแก้ไขปัญหาส่วนของนีลสัน (นี่เป็น หลังทั้งหมด เรื่องจริง นิยายอาจมีสิ้นสุดแตกต่างกัน) แต่มันไม่ได้ให้แพทย์ห้องฉุกเฉินเดิมมุมมองที่มาที่ได้ดูนาน แข็งเหว"น้ำแข็งขอบ" เป็นเรื่องราวครอบครัว หรือมากกว่านั้น เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งที่ถูกฉีกขาดออกจากกัน โดยใช้อารมณ์และชาย ในขณะที่อื่นดึงเข้าด้วยกันเพื่อจัดการกับการเจ็บป่วยรุนแรงในยศ เป็นเรื่องราวของผู้รอดชีวิตมะเร็ง มี gests ทั้งหมด ส่วนใหญ่ของทั้งหมด แม้ว่า "น้ำแข็งขอบ" คือเรื่องราวของคนธรรมดาสามัญที่ทำสิ่งที่พิเศษภายใต้บางเงื่อนไขยากที่สุดในโลก นีลสันมาเพื่อความสนใจของโลกในฤดูร้อนของปี 1999 เมื่อเธอทำการตรวจชิ้นเนื้อในตัวเอง (ใช้น้ำแข็งเป็นยาชาของเธอเท่านั้น) และก้าวร้าวมะเร็งเต้านม สถานการณ์ได้อย่างแน่นอน นีลสันถูกแพทย์เฉพาะภายใน 600 ไมล์ ติดอยู่บนน้ำแข็งตรงกลางถ้าฤดูหนาวขั้วโลกน้อยในทางขั้นสูงด้วยเวชภัณฑ์ เชื่อมโยงของเธอแต่เพียงผู้เดียวกับโลกภายนอกมาทางอีเมล์ และที่ทำงานเฉพาะ เมื่อดาวเทียมสื่อสารส่งผ่านเสา แม้ มีการร้องขอของนีลว่า ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยง จ้าง — เหมามูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติซึ่งถูกจม โดยสนใจสื่อใน "หมอขั้วโลกใต้" แม้ว่าชื่อของเธอไม่ได้ออกกับ NSF ผู้สื่อข่าวได้อย่างรวดเร็วเต็มในช่องว่างจากข้อมูลที่นำออกใช้ เพื่อนและครอบครัวของนีลสันได้เร็วรับการฝ่ายป่วนขอสัมภาษณ์กลับในสหรัฐอเมริกา อดีตสามี ที่เธอได้ผ่านการหย่าร้างขม บอกผู้สื่อข่าวที่ นีลคือ แม่ไม่ดีที่ได้ละทิ้งลูก ๆ ของเธอ และอาจจะถูกทำให้สิ่งทั้งหมดจะได้รับความสนใจในขณะเดียวกัน ที่ด้านล่างของโลก อัตราต่อรองไม่ได้ดูดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้ดีที่สุดของสถานการณ์ ผู้หญิงกับชนิดและระยะของมะเร็งเต้านมของเธอมีโอกาสรอด 50 และสถานีขั้วโลกใต้อามุนด์เซน-สกอตต์แทบไม่สุดของสถานการณ์ ในอุณหภูมิที่เย็นพอ ให้จับตัวเป็น jet เชื้อเพลิง 41 คนอยู่ และทำงานในที่มืดภายนอกถาวรภายใต้โดมขั้วออกแบบมาเพื่อบ้านพนักงาน 1.7 เป็นเสนารักษ์ มันเป็นงานของนีลสันเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์และลูกเรือในสถานที่ก่อสร้างสุขภาพจนบุคลากรสด และอุปกรณ์จะมาถึงกับการมาถ้าฤดูใบไม้ผลิแอนตาร์ขณะที่ก้าวหน้าของนีลมะเร็ง แม้ว่า แพทย์กลายเป็น ผู้ป่วยมากขึ้น เพราะมันเย็นเกินไปซึ่งในจุดที่ดินเครื่องบินที่เสา NSF ที่จัดมีมะเร็งยาและเวชภัณฑ์อื่น ๆ ที่ airdropped มัว นีลถือว่าตัวเองหลังจากนั้น ขณะที่ยังคงการดูแลอื่น ๆ "Polies" มีอาการบาดเจ็บ เธอไม่ได้แม้ว่า มีความช่วยเหลือในการจัดการของเซสชันเคมีบำบัดรายสัปดาห์มากมายต่อเส้นทางจากเวชกรรมประเทศสหรัฐอเมริกาเป็น เครื่องเชื่อมและบำรุงรักษาคนที่ฐานเรียนรู้การจัดการการ IVs ช่างอุปกรณ์หนักผสมยาเสพติดร้ายแรงอาจ และตรวจสอบการหยด IV คนอื่นที่สถานี videotaped เซ และทำให้การสื่อสารที่บรรทัดเปิดแพทย์ 9,000 กม.ห่างสามารถให้คำแนะนำถ้าสิ่งที่ผิดในขณะอากาศยามชาติ LC-130 ทำหนาวที่สุดเคยขึ้นฝั่งที่เสา อุณหภูมิประมาณ 60 องศาใต้ศูนย์ บน 16 ตุลาคม โฉบนีลสันได้จะทำให้เครื่องบิน เมื่อเธอในอเมริกา NSF การเล็ดรอดของเธอที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวรอ และเธอถูกนำไปโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอินดีแอนาโดยตรง มีเธอ lumpectomy (ภายหลังเธอถูกบังคับให้มีการแข็งเต็ม) และเพิ่มเติมเคมีบำบัด หลังเธอบนเสา เธอทิ้งเพื่อนสนิทเธอเคยทำ-กลุ่มเธอต้องเรียกยุควีรบุรุษ อับ "น้ำแข็งขอบ" บัญชีของนีลของการทรมานการ มีคุณภาพเร่งรีบ และมือสมัครเล่นเกือบไป อ่านในสถานที่เหมือนเป็นผลิตภัณฑ์ของผู้เผยแพร่ของโต๊ะเครื่องแป้งหมอดีไม่เสมอตัวเห็นอกเห็นใจ ทั้ง ออกจากชีวิตเก่าของเธอในโรงฆ่าสัตว์ และเดินทางไปขั้วในขณะที่พ่อของเธอดูเหมือนบนเตียงของเขาตายไป แม้ตอนนี้ มากกว่า 15 เดือนหลังจากนีลสันฉุกเฉินจากเสา เธอไม่ได้จัดชุมนุมลูกวัยรุ่น 3แต่นำมาทั้งหมด "น้ำแข็งขอบ" เป็นการอ่านที่คุ้มค่า รายละเอียดของชีวิตที่ขอบของการพัฒนามนุษย์น่าสนใจ และขั้นตอนหากความ ซึมเศร้า เจ็บปวด และนีลผ่านผ่านแหวนจริงแม้จะอ่านที่ยังไม่ได้ประสบกับการเจ็บป่วยที่เทอร์มินัล หรือการ ผิดพ้องหมองจากคนที่รักจุดหนึ่ง นีลเขียนว่า ขั้วโลกใต้ "เปล่าที่คุณสามารถเขียนจิตวิญญาณของคุณ" ใน "ขอบเขตน้ำแข็ง นีลเธอของคุณ — หูด frostbite

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Jerri นีลเซ่นได้พยายามที่จะหลบหนีมอนสเตอร์ในชีวิตส่วนตัวของเธอเมื่อเธออาสาที่จะทำงานที่ใต้สถานีวิจัยขั้วโลกในปี 1998 เธอจบลงด้วยใน 11 เดือนแอนตาร์กติกเป็นประสบการณ์ใกล้ตายสถานะคนดังต่างประเทศและใหม่ แนวโน้มเกี่ยวกับชีวิต.
ละครที่มันเป็น ประสบการณ์ไม่ได้แก้ปัญหาส่วนตัวของนีลเซ่น (นี่คือ. หลังจากที่ทุกคนเป็นเรื่องจริง. นิยายอาจจะสิ้นสุดวันที่แตกต่างกัน.) แต่มันไม่ให้อดีตแพทย์ฉุกเฉินห้องมุมมองที่มาพร้อมกับผู้ที่มีการดำเนินการที่มีความยาวดูยากในนรก.
"น้ำแข็งผูกพัน" เป็นเรื่องราวของครอบครัว หรือว่า .. แทน. เรื่องราวของครอบครัวหนึ่งถูกฉีกออกจากกันโดยการล่วงละเมิดทางอารมณ์และความไม่ซื่อสัตย์ในขณะที่อีกดึงกันที่จะจัดการกับการเจ็บป่วยที่รุนแรงในการจัดอันดับของ นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องมะเร็งด้วย gests ทั้งหมด ส่วนใหญ่ของทั้งหมด แม้ "ไอศผูกพัน" เป็นเรื่องราวของคนธรรมดาทำสิ่งที่พิเศษภายใต้บางส่วนของเงื่อนไขที่ยากที่สุดในโลก.
นีลเซ่นแรกที่เข้ามาให้ความสนใจของโลกในช่วงฤดูร้อนของปี 1999 เมื่อเธอแสดงการตรวจชิ้นเนื้อในตัวเอง (โดยใช้น้ำแข็งเป็นของเธอเท่านั้น ยาชา) และรูปแบบก้าวร้าวของมะเร็งเต้านม.
สถานการณ์เป็นอย่างมากแน่นอน นีลเส็นเป็นแพทย์เฉพาะภายใน 600 ไมล์ติดอยู่บนน้ำแข็งที่อยู่ตรงกลางถ้าฤดูหนาวขั้วโลกที่มีน้อยในทางของวัสดุทางการแพทย์ที่ทันสมัย การเชื่อมโยง แต่เพียงผู้เดียวของเธอกับโลกภายนอกผ่านเข้ามาทาง E-mail และที่ทำงานเฉพาะเมื่อมีการสื่อสารผ่านดาวเทียมผ่านขั้วโลก.
แม้จะมีการร้องขอของนีลเซ่นที่ประชาสัมพันธ์หลีกเลี่ยงนายจ้างเธอผู้รับเหมาช่วงให้กับมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติถูกครอบงำโดยความสนใจของสื่อมวลชน ใน "ขั้วโลกใต้แพทย์." แม้ว่า NSF ไม่ปล่อยชื่อของเธอผู้สื่อข่าวเต็มไปอย่างรวดเร็วในช่องว่างจากข้อมูลที่ได้รับการปล่อยตัว นีลเซ่นครอบครัวและเพื่อน ๆ ในไม่ช้าก็ฟีลดิงเขื่อนกั้นน้ำของการขอสัมภาษณ์กลับในประเทศสหรัฐอเมริกา อดีตสามีของเธอซึ่งเธอได้ผ่านการหย่าร้างขมบอกกับผู้สื่อข่าวว่านีลเส็นเป็นแม่ที่เลวที่ทิ้งลูก ๆ ของเธอและก็อาจจะทำให้สิ่งที่ทั้งได้รับความสนใจ.
ในขณะเดียวกันที่ด้านล่างของโลกที่อัตราต่อรอง ไม่ได้มองที่ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภายใต้สถานการณ์ที่ดีที่สุดของผู้หญิงที่มีชนิดและระยะของโรคมะเร็งเต้านมของเธอมีโอกาสที่ 50/50 ของการอยู่รอด และ Amundsen-Scott ใต้สถานีขั้วโลกแทบจะไม่ให้ที่ดีที่สุดของสถานการณ์.
ในอุณหภูมิที่เย็นพอที่จะจับเป็นก้อนน้ำมันเครื่องบิน 41 คนที่อาศัยและทำงานอยู่ในความมืดภายนอกตลอดภายใต้โดมขั้วโลกออกแบบบ้านพนักงาน 1.7 เป็นแพทย์ก็ เป็นงานของนีลเซ่นเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์และทีมงานก่อสร้างในสถานที่ที่มีสุขภาพดีจนบุคลากรสดและวัสดุสิ้นเปลืองจะมาถึงกับการมาถ้าฤดูใบไม้ผลิแอนตาร์กติก.
ในฐานะที่เป็นโรคมะเร็งของนีลเซ่นก้าวหน้าแม้ว่าแพทย์มากขึ้นกลายเป็นผู้ป่วย เพราะมันเป็นเย็นเกินไปที่จุดที่จะลงจอดเครื่องบินที่เสามาตรฐาน NSF จัดให้มียาเสพติดต้านมะเร็งและวัสดุทางการแพทย์อื่น ๆ airdropped.
ในระดับขนาดใหญ่, นีลเซ่นได้รับการรักษาตัวเองหลังจากนั้นขณะที่ต่อเนื่องในการดูแลอื่น ๆ "Polies "ที่มีอาการบาดเจ็บ เธอได้ แต่มีความอุดมสมบูรณ์ของความช่วยเหลือการบริหารการประชุมประจำสัปดาห์ของเธอเคมีบำบัด.
ทำตามคำแนะนำจากเนื้องอก stateside, ช่างเชื่อมและการบำรุงรักษาคนบนฐานเรียนรู้ที่จะจัดการบริการ IVS หนักอุปกรณ์ช่างผสมยาเสพติดร้ายแรงอาจเกิดขึ้นและตรวจสอบหยดที่สี่ อื่น ๆ ที่สถานีวีดิโอการใช้งานและการทำงานเพื่อให้สายการสื่อสารที่เปิดกว้างเพื่อให้แพทย์ 9,000 ห่างออกไปอาจจะให้คำแนะนำหากสิ่งที่ผิดพลาดไป.
ตามเวลาที่อากาศแห่งชาติยาม LC-130 ทำที่หนาวเย็นที่เคยลงจอดที่เสามีอุณหภูมิ โฉบรอบ 60 องศาด้านล่างเป็นศูนย์เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมนีลเซ่นจะต้องมีการดำเนินการไปยังเครื่องบิน เมื่อเธออยู่ในอเมริกา NSF เล็ดรอดผ่านมาของเธอรอผู้สื่อข่าวและเธอก็ถูกนำไปยังโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยอินดีแอนา มีเธอมี lumpectomy (ต่อมาเธอถูกบังคับให้มีป่วยมะเร็งเต้านมเต็ม) และเคมีบำบัดมากขึ้น.
ด้านหลังของเธอบนเสาเธอออกจากเพื่อนสนิทที่เธอเคย made- กลุ่มเธอถูกต้องเรียกวีรบุรุษวันที่ทันสมัย แต่น่าเสียดายที่ "ไอศผูกพัน" บัญชีของนีลเซ่นของการทดสอบ มีคุณภาพและวิ่งมือสมัครเล่นเกือบไป มันอ่านในสถานที่เช่นมันเป็นผลิตภัณฑ์จากสำนักพิมพ์โต๊ะเครื่องแป้งได้.
แพทย์ที่ดีจะไม่เสมอตัวละครขี้สงสารทั้งทิ้งชีวิตเก่าของเธอในโรงฆ่าสัตว์และมุ่งหน้าไปยังขั้วโลกในขณะที่พ่อของเธอเป็นที่ดูเหมือนจะตายบนเตียงของเขา แม้ตอนนี้มากกว่า 15 เดือนหลังจากการอพยพฉุกเฉินของนีลเซ่นจากเสาที่เธอยังไม่ได้รับสามารถที่จะจัดให้มีการชุมนุมที่มีสามเด็กวัยรุ่นของเธอ.
แต่นำมาเป็นทั้ง "ไอศผูกพัน" เป็นอ่านที่คุ้มค่า รายละเอียดของชีวิตที่ขอบของการพัฒนามนุษย์ที่มีความน่าสนใจและขั้นตอนถ้าความโกรธและความซึมเศร้าและความปวดร้าวนีลเซ่นผ่านแหวนจริงแม้กับผู้อ่านที่ยังไม่ได้รับการต้องเผชิญกับความป่วยไข้หรือรับเหินห่างจากคนที่รัก.
ที่ จุดหนึ่งที่นีลเซ่นเขียนว่าแอนตาร์กติกเป็น "ชนวนว่างเปล่าที่คุณสามารถเขียนจิตวิญญาณของคุณ." ใน "ไอศ Bound" นีลเส็นเธอของคุณหูดแอบแฝง