What to See at Old Sukhothai Histor

What to See at Old Sukhothai Historical Park

The medieval capital of Sukhothai now lies in picturesque ruins as Old Sukhothai Historical Park. Its many temples showcase the unique Sukhothai style of decoration, which incorporates Khmer (Cambodian) and Sri Lankan influences.

The park covers about 27 square miles (70 sq km) and is divided into five zones, each of which charge a separate admission. The central zone was the royal part of the city and is the first priority.

The four outer zones - north, east, west and south - are less crowded and touristy than the central zone. They all cover large areas, so a bicycle or other vehicle is essential to get around efficiently. The north zone is the best (and closest), followed by the east zone towards New Sukhothai. The west zone is more remote and hilly and the south zone is not worth most visitors' time.

Protected by a square moat, the central zone contains 21 temples interspersed among lotus-covered pools, canals, trees and other greenery. It covers over a square mile (3 sq km), so a bicycle is a convenient (but not essential) way to cover all the ground. The city was much more crowded in the 13th century than it looks today - the houses and other secular buildings packed between the temples were made of perishable wood.
The greatest temple in the Central Zone is without question Wat Mahathat, the spiritual focus of the city and the king. (The grassy area across the street is the site of the royal palace.) Founded by the first king, the royal temple was given its large central chedi by King Lö Thai in 1345. It was regularly expanded by successive rulers before being abandoned in the 16th century. Picturesquely surrounded by a lotus pond, Wat Mahathat now consists of ten viharns, one bot, eight mondops, one large chedi and 200 small chedis.

The central chedi was built in 1345 to house two relics of the Buddha brought from Sri Lanka by the monk Sisatta. The chedi's lotus-bud shape became the hallmark of Sukhothai architecture, imitated throughout the kingdom. Surrounded by eight smaller spires, it stands on a square platform decorated with stucco reliefs of 111 monks in prayer. The remaining chedis each contain the ashes of a nobleman. The most impressive among the other structures are the ruined viharns, with pillars leading the eye to serene Buddhas seated at the back.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิ่งที่เห็นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเก่าเมืองหลวงของสุโขทัยยุคกลางตอนนี้อยู่ในซากปรักหักพังที่งดงามเป็นอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเมืองเก่า ของเรา ๆ แสดงสุโขทัยเอกลักษณ์ของตกแต่ง ความเขมร (กัมพูชา) และศรีลังกามีผลต่อสวนสาธารณะครอบคลุมประมาณ 27 ตารางไมล์ (70 ตร.กม) และแบ่งออกเป็น 5 โซน ซึ่งค่าธรรมเนียมค่าเข้าชมแยกต่างหาก พื้นที่ส่วนกลางเป็นส่วนของเมืองหลวง และเป็นอันดับแรกโซนนอกสี่ - เหนือ ตะวันออก ตะวันตก และ ใต้ - ได้หนาแน่นน้อย และแห้งมากกว่าพื้นที่ส่วนกลาง ที่ทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ เพื่อจักรยานหรือรถอื่น ๆ เป็นสิ่งจำเป็นทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซนเหนือได้ดีสุด (และใกล้เคียงที่สุด) , ตามโซนตะวันออกไปทางสุโขทัยใหม่ โซนตะวันตกเป็นระยะไกลมาก และฮิลลี และโซนใต้จะไม่คุ้มค่าเวลาชมป้องกัน โดยคูเมืองสี่เหลี่ยม พื้นที่ส่วนกลางประกอบด้วย 21 วัดกระจายระหว่างบัวครอบคลุมสระว่ายน้ำ คลอง ต้นไม้ และสวนอื่น ๆ มันครอบคลุมมากกว่าหนึ่งตารางไมล์ (3 ตร.กม), เพื่อจักรยานเป็นวิธีสะดวก (แต่ไม่จำเป็น) เพื่อให้ครอบคลุมพื้นทั้งหมด เมืองมีมากแออัดในศตวรรษ 13 กว่าเหมือนวันนี้ - บ้านและอาคารอื่น ๆ ทางโลกบรรจุระหว่างวัดทำไม้เปื่อยได้วัดยิ่งใหญ่ที่สุดในโซนเซ็นทรัลไม่ถามวัดมหาธาตุ เน้นจิตวิญญาณของเมืองและกษัตริย์ (บริเวณหญ้าครับเป็นของหลวง) ก่อตั้ง โดยกษัตริย์องค์แรก วัดหลวงได้รับของเจดีย์กลางใหญ่ โดยกษัตริย์ Lö ไทยใน 1345 มันถูกขยาย ด้วยไม้ต่อเป็นประจำก่อนที่จะถูกทอดทิ้งในศตวรรษ 16 Picturesquely ล้อมรอบ ด้วยสระบัว วัดมหาธาตุตอนนี้ประกอบด้วย 10 viharns โบสถ์หนึ่ง mondops 8 เจดีย์ใหญ่หนึ่ง และ chedis เล็ก 200เจดีย์กลางถูกสร้างขึ้นใน 1345 บ้านสองพระธาตุของพระพุทธเจ้านำมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระ Sisatta รูปทรงดอกบัวตูมเป็นเจดีย์กลายเป็น จุดเด่นของสถาปัตยกรรมสุโขทัย เลียนแบบทั่วราชอาณาจักร ล้อมรอบ ด้วยสไปรส์เล็กแปด มันยืนบนแพลตฟอร์มตารางตกแต่ง reliefs ปูนปั้นของพระ 111 ในละหมาด เหลือ chedis ละประกอบด้วยขี้เถ้าของขุนนางเป็น น่าประทับใจมากที่สุดในโครงสร้างอื่น ๆ มี viharns เจ๊ง กับเสานำตาสงบ พระนั่งที่ด้านหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไปดูอะไรที่เก่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเมืองหลวงในยุคกลางของสุโขทัยในขณะนี้อยู่ในซากปรักหักพังที่งดงามเป็นเก่าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย วัดหลายมันแสดงรูปแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของสุโขทัยตกแต่งซึ่งประกอบด้วยเขมร (กัมพูชา) และอิทธิพลศรีลังกา. อุทยานครอบคลุมประมาณ 27 ตารางไมล์ (70 ตารางกิโลเมตร) และมีการแบ่งออกเป็นห้าโซนซึ่งแต่ละคิดค่าเข้าชมงานที่แยกต่างหาก เขตภาคกลางเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ของเมืองและเป็นอันดับแรก. สี่โซนด้านนอก - ทิศตะวันตกเฉียงเหนือทิศตะวันตกทิศตะวันออกและทิศใต้ - มีน้อยแออัดและท่องเที่ยวกว่าเขตภาคกลาง พวกเขาทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อจักรยานหรือยานพาหนะอื่น ๆ เป็นสิ่งจำเป็นที่จะได้รับรอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซนทิศตะวันตกเฉียงเหนือเป็นที่ดีที่สุด (และที่ใกล้เคียง) ตามมาด้วยโซนตะวันออกสู่ใหม่สุโขทัย โซนตะวันตกเป็นระยะไกลมากขึ้นและที่เป็นภูเขาและโซนภาคใต้จะไม่คุ้มค่าเวลาที่เข้าชมมากที่สุด '. ป้องกันโดยตารางคูเมือง, เขตภาคกลางมี 21 วัดกระจายตัวอยู่ท่ามกลางสระบัวปกคลุมคลองต้นไม้และพื้นที่สีเขียวอื่น ๆ มันครอบคลุมกว่าตารางไมล์ (3 ตารางกิโลเมตร) ดังนั้นจักรยานเป็นความสะดวกสบาย (แต่ไม่จำเป็น) วิธีการครอบคลุมทุกพื้นดิน เมืองได้มากขึ้นแออัดในศตวรรษที่ 13 กว่ามันก็ดูวันนี้ -. บ้านและอาคารอื่น ๆ บรรจุฆราวาสระหว่างวัดที่ทำจากไม้ที่เน่าเสียง่ายวัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภาคกลางจะไม่มีคำถามวัดมหาธาตุ, โฟกัสจิตวิญญาณของเมือง และพระมหากษัตริย์ (พื้นที่หญ้าฝั่งตรงข้ามถนนเป็นที่ตั้งของพระราชวัง.) ก่อตั้งขึ้นโดยกษัตริย์องค์แรก, พระอารามหลวงได้รับเจดีย์ขนาดใหญ่กลางโดยกษัตริย์ LO ไทยใน 1345. มันถูกขยายอย่างสม่ำเสมอโดยผู้ปกครองต่อเนื่องก่อนที่จะถูกทอดทิ้ง ศตวรรษที่ 16 ล้อมรอบงดงามด้วยสระบัว, วัดมหาธาตุในขณะนี้ประกอบด้วยสิบ viharns หนึ่งบอแปด mondops หนึ่งเจดีย์ขนาดใหญ่และขนาดเล็ก 200 เจดีย์. เจดีย์กลางถูกสร้างขึ้นใน 1345 ที่บ้านสองพระธาตุของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากประเทศศรีลังกาโดยพระภิกษุสงฆ์ Sisatta รูปทรงดอกบัวตูมเจดีย์กลายเป็นจุดเด่นของสถาปัตยกรรมสุโขทัยเลียนแบบทั่วราชอาณาจักร ล้อมรอบด้วยยอดแหลมขนาดเล็กแปดมันยืนบนแพลตฟอร์มตารางตกแต่งด้วยปูนปั้นจาก 111 พระสงฆ์ในการสวดมนต์ เจดีย์ที่เหลือแต่ละมีเถ้าถ่านของขุนนาง ที่น่าประทับใจมากที่สุดในหมู่อื่น ๆ ที่มีโครงสร้าง viharns เจ๊งกับเสาชั้นนำตาที่จะมีพระพุทธรูปอันเงียบสงบนั่งอยู่ที่ด้านหลัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิ่งที่เห็นที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเก่า

เมืองหลวงโบราณของสุโขทัยในขณะนี้อยู่ในสถานที่ปรักหักพังงดงามเช่นเดิมอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย . มีหลายวัดแสดงเอกลักษณ์สุโขทัยสไตล์ของการตกแต่ง ซึ่งประกอบด้วย เขมร ( กัมพูชา ) และศรีลังกา อิทธิพล

อุทยานครอบคลุมประมาณ 27 ตารางไมล์ ( 70 ตร. กม. ) และ แบ่งเป็น 5 โซนแต่ละที่เรียกเก็บค่าเข้าชมต่างหาก โซนกลางเป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์เมืองและเป็นอันดับแรก

4 นอกโซนเหนือ ตะวันออก ตะวันตก และใต้ - จะน้อยกว่าแออัดและ touristy กว่าโซนกลาง พวกเขาครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ ดังนั้นจักรยานหรือรถอื่น ๆเป็นสิ่งจำเป็นที่จะได้รับรอบ ๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซนภาคเหนือ เป็นดีที่สุด ( และใกล้เคียง )ตามด้วยโซนตะวันออก ต่อใหม่ สุโขทัย โซนตะวันตกเป็นห่างไกลมากขึ้นและเนินเขาและโซนใต้ ไม่คุ้มค่าเยี่ยมที่สุด

ป้องกันโดยคูเมืองสี่เหลี่ยม , โซนกลางมี 21 วัดสลับระหว่างโลตัสปกคลุมสระ คลอง ต้นไม้ และต้นไม้อื่น ๆ มันครอบคลุมกว่าตารางไมล์ ( 3 ตารางกิโลเมตร ) ดังนั้นจักรยานก็สะดวก ( แต่ไม่จำเป็น ) วิธีที่จะครอบคลุมทั่วพื้นดินเป็นเมืองที่แออัดมากขึ้นในศตวรรษที่ 13 กว่าที่เห็นในวันนี้ - บ้านและอาคารอื่น ๆบริการระหว่างฆราวาสวัดที่ทำจากไม้ที่เน่าเสียง่าย .
วัดมากที่สุดในโซนกลางได้โดยไม่ต้องคำถามวัดมหาธาตุ เน้นจิตวิญญาณของเมืองและกษัตริย์ ( หญ้าบริเวณฝั่งตรงข้ามเป็นเว็บไซต์ของพระราชวัง หลวง ) ที่ก่อตั้งโดยกษัตริย์ก่อนพระอารามหลวงได้รับเจดีย์กลางขนาดใหญ่โดยกษัตริย์ L öไทย 1265 . มันอย่างสม่ำเสมอขยายโดยผู้ปกครองต่อเนื่องก่อนที่จะถูกทิ้งร้างในศตวรรษที่ 16 picturesquely ล้อมรอบด้วยสระบัว วัดมหาธาตุ ตอนนี้ประกอบด้วยสิบ viharns หนึ่งในแปด mondops , ขนาดใหญ่หนึ่งเจดีย์ และเจดีย์ราย

เจดีย์กลางถูกสร้างขึ้นในบ้าน เมื่อเถ้ากระดูกของ พระพุทธเจ้า ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา โดยพระสงฆ์ sisatta . รูปดอกบัวตูมของเจดีย์เป็นตราของสถาปัตยกรรมสุโขทัย เลียนแบบ ทั่วราชอาณาจักร ล้อมรอบด้วยแปดยอดเล็ก มันยืนบนแพลตฟอร์มสี่เหลี่ยมตกแต่งด้วยปูนปั้นนูนของ 111 สงฆ์ในการสวดมนต์เหลือเจดีย์แต่ละประกอบด้วยเถ้าของขุนนาง ประทับใจมากที่สุดในบรรดาโครงสร้างอื่น ๆ จะพัง viharns กับเสานำตาให้ปลอดโปร่ง พระพุทธรูปนั่งที่ด้านหลัง