AbstractMorphology can be adaptive

Abstract
Morphology can be adaptive through its effect on performance of an organism. The effect of performance may, however,
be modulated by behavior; an organism may choose a behavioral option that does not fully utilize its maximum
performance. Behavior may therefore be decoupled from morphology and performance. To gain insight into the
relationships between these levels of organization, we combined morphological data on defensive structures with measures
of defensive performance, and their utilization in defensive behavior. Scorpion species show significant variation in the
morphology and performance of their main defensive structures; their chelae (pincers) and the metasoma (‘‘tail’’) carrying
the stinger. Our data show that size-corrected pinch force varies to almost two orders of magnitude among species, and is
correlated with chela morphology. Chela and metasoma morphology are also correlated to the LD50 of the venom,
corroborating the anecdotal rule that dangerously venomous scorpions can be recognized by their chelae and metasoma.
Analyses of phylogenetic independent contrasts show that correlations between several aspects of chela and metasoma
morphology, performance and behavior are present. These correlations suggest co-evolution of behavior with morphology
and performance. Path analysis found a performance variable (pinch force) to partially mediate the relationship between
morphology (chela aspect ratio) and behavior (defensive stinger usage). We also found a correlation between two aspects of
morphology: pincer finger length correlates with the relative ‘‘thickness’’ (aspect ratio) of the metasoma. This suggests
scorpions show a trade-off between their two main weapon complexes: the metasoma carrying the stinger, and the
pedipalps carrying the chelae.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อสัณฐานวิทยาได้อย่างเหมาะสม โดยมีผลต่อประสิทธิภาพขององค์กร ผลของประสิทธิภาพอาจ อย่างไรก็ตามสันทัด โดยลักษณะการทำงาน องค์กรอาจเลือกตัวเลือกพฤติกรรมที่ไม่อย่างแท้จริงสูงสุดประสิทธิภาพของ ลักษณะการทำงานอาจดังเป็น decoupled จากสัณฐานวิทยาและประสิทธิภาพการทำงาน การเข้าใจในการความสัมพันธ์ระหว่างระดับขององค์กรเหล่านี้ เรารวมข้อมูลสัณฐานบนโครงสร้างที่ป้องกัน ด้วยมาตรการประสิทธิภาพการป้องกัน และการใช้ประโยชน์ในลักษณะที่ป้องกัน พันธุ์แมงป่องแสดงการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในการสัณฐานวิทยาและประสิทธิภาพการทำงานของโครงการป้องกันหลัก ของ chelae (pincers) และแบก metasoma (''หาง '')stinger ข้อมูลแสดงว่า แก้ไขขนาดหยิกแรงไปจนถึงเกือบสองอันดับของขนาดระหว่างพันธุ์ และcorrelated กับ chela สัณฐานวิทยา สัณฐานวิทยา chela และ metasoma จะยัง correlated กับ LD50 ของพิษcorroborating กฎเล็ก ๆ ที่เลิฟมากแมงป่องสามารถได้รับการรับรอง โดย metasoma และ chelae ของพวกเขาวิเคราะห์ของ phylogenetic อิสระแตกแสดงว่าความสัมพันธ์ระหว่างด้านต่าง ๆ ของ chela และ metasomaสัณฐานวิทยา ประสิทธิภาพ และลักษณะการทำงานมีอยู่ ความสัมพันธ์เหล่านี้แนะนำวิวัฒนาการร่วมของพฤติกรรมกับสัณฐานวิทยาและประสิทธิภาพ การวิเคราะห์เส้นทางพบตัวแปรประสิทธิภาพ (หยิกแรง) บางส่วนบรรเทาความสัมพันธ์ระหว่างสัณฐานวิทยา (chela อัตรา) และพฤติกรรม (stinger ป้องกันการใช้งาน) นอกจากนี้เรายังพบความสัมพันธ์ระหว่างสองด้านของสัณฐานวิทยา: ความยาวนิ้ว pincer คู่กับ ''หนา '' (อัตรา) ของ metasoma ญาติ นี้แนะนำแมงป่องแสดง trade-off ระหว่างคอมเพล็กซ์ของอาวุธหลักสอง: metasoma แบก stinger และpedipalps ดำเนินการ chelae

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
สัณฐานวิทยาสามารถปรับตัวผ่านผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของสิ่งมีชีวิต ผลกระทบของประสิทธิภาพการทำงานอาจ แต่
จะปรับพฤติกรรม; ชีวิตอาจจะเลือกเป็นตัวเลือกที่พฤติกรรมที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่สูงสุด
ประสิทธิภาพ พฤติกรรมจึงอาจจะเนื่องมาจากลักษณะทางสัณฐานวิทยาและประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกใน
ความสัมพันธ์ระหว่างระดับเหล่านี้ขององค์กรเรารวมข้อมูลทางสัณฐานวิทยาในการป้องกันโครงสร้างกับมาตรการ
ของการปฏิบัติงานการป้องกันและการใช้ประโยชน์ของพวกเขาในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกัน สายพันธุ์แมงป่องแสดงความเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญใน
ทางสัณฐานวิทยาและประสิทธิภาพของการป้องกันโครงสร้างหลักของพวกเขา; Chelae ของพวกเขา (ก้ามปู) และ metasoma ('' หาง '') แบก
เหล็ก ข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่าแรงหยิกขนาดแตกต่างกันไปแก้ไขไปเกือบสองคำสั่งของขนาดในหมู่สายพันธุ์และมี
ความสัมพันธ์กับลักษณะทางสัณฐานวิทยา Chela chela และสัณฐานวิทยา metasoma มีความสัมพันธ์ยัง LD50 พิษ,
ยืนยันกฎเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่แมงป่องพิษอันตรายได้รับการยอมรับโดย Chelae และ metasoma ของพวกเขา.
การวิเคราะห์ความแตกต่างที่เป็นอิสระ phylogenetic แสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลายแง่มุมของสาวกและ metasoma
สัณฐานประสิทธิภาพการทำงานและ พฤติกรรมที่มีอยู่ ความสัมพันธ์นี้ชี้ให้เห็นวิวัฒนาการร่วมของพฤติกรรมที่มีลักษณะทางสัณฐานวิทยา
และประสิทธิภาพการทำงาน การวิเคราะห์เส้นทางพบตัวแปรประสิทธิภาพ (แรงหยิก) บางส่วนเป็นสื่อกลางความสัมพันธ์ระหว่าง
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา (Chela อัตราส่วน) และพฤติกรรม (การใช้เหล็กในการป้องกัน) นอกจากนี้เรายังพบความสัมพันธ์ระหว่างสองด้านของ
สัณฐานวิทยา: ตรงกลางความยาวนิ้วมีความสัมพันธ์กับญาติ '' ความหนา '' (อัตราส่วน) ของ metasoma นี้แสดงให้เห็น
แมงป่องแสดงค้าระหว่างสองคอมเพล็กซ์อาวุธหลักของพวกเขา: metasoma แบกเหล็กและ
pedipalps แบก Chelae

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปร่างนามธรรม
สามารถปรับตัวผ่านผลกระทบต่อประสิทธิภาพของระบบสิ่งมีชีวิต ผลการปฏิบัติงานอาจจะ , อย่างไรก็ตาม ,
จะปรับโดยพฤติกรรม องค์กรอาจเลือกพฤติกรรมตัวเลือกที่ไม่เต็มที่ใช้ประสิทธิภาพสูงสุด
. พฤติกรรมจึงอาจจะแบบ จากรูปร่างลักษณะ และประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มความเข้าใจในความสัมพันธ์ระหว่างระดับ
ขององค์การเรารวมข้อมูลทางสัณฐานวิทยาโครงสร้างการป้องกันที่มีประสิทธิภาพของมาตรการ
ป้องกัน และการใช้ประโยชน์ของพวกเขาในพฤติกรรมการป้องกัน แมงป่องสายพันธุ์ พบว่า มีความแตกต่างในประสิทธิภาพของโครงสร้างของพวกเขา
สัณฐานวิทยาและหลักรับ ; chelae ( ปากนกแก้ว ) และเมตาโซมา ( ''tail ' ' ) แบก
เหล็ก .ข้อมูลของเราแสดงให้เห็นว่าขนาดแตกต่างกันเพื่อแก้ไขหยิกแรงเกือบสองอันดับของขนาดของชนิด และมีความสัมพันธ์กับชีลา
น้ำหนัก และทางเมตาโซมาชีลายังมีความสัมพันธ์กับ ld50 ของพิษ
corroborating จดกฎอันตรายพิษแมงป่องสามารถรับรู้และการ chelae
เมตาโซมา .การวิเคราะห์ความอิสระ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างหลายแง่มุมของชีลาเมตาโซมา
และสัณฐานวิทยา การปฏิบัติงานและพฤติกรรมที่เป็นปัจจุบัน ความสัมพันธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นวิวัฒนาการของพฤติกรรมที่มีลักษณะ Co
และประสิทธิภาพ การวิเคราะห์เส้นทางพบว่าตัวแปรการปฏิบัติ ( หยิกแรง ) บางส่วนไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์ระหว่าง
สัณฐานวิทยา ( อัตราส่วนชีลา ) และพฤติกรรม ( การใช้เหล็กในป้องกัน ) นอกจากนี้เรายังพบความสัมพันธ์ระหว่างสองด้านของ
สัณฐานวิทยา : คีมนิ้วความยาวมีความสัมพันธ์กับญาติ 'thickness ' ' ( อัตราส่วน ) ของเมตาโซมา . แสดงว่า
แมงป่องแสดงแลกเปลี่ยนระหว่างสองอาวุธหลัก คอมเพล็กซ์ : เมตาโซมาแบกเหล็กและ
pedipalps แบก chelae .