The two-factor theory (also known a

The two-factor theory (also known as Herzberg's motivation-hygiene theory and dual-factor theory) states that there are certain factors in the workplace that cause job satisfaction, while a separate set of factors cause dissatisfaction. It was developed by psychologist Frederick Herzberg, who theorized that job satisfaction and job dissatisfaction act independently of each other.
Two-factor theory fundamentals: Attitudes and their connection with industrial mental health are related to Abraham Maslow's theory of motivation. His findings have had a considerable theoretical, as well as a practical, influence on attitudes toward administration. According to Herzberg, individuals are not content with the satisfaction of lower-order needs at work; for example, those needs associated with minimum salary levels or safe and pleasant working conditions. Rather, individuals look for the gratification of higher-level psychological needs having to do with achievement, recognition, responsibility, advancement, and the nature of the work itself. This appears to parallel Maslow's theory of a need hierarchy. However, Herzberg added a new dimension to this theory by proposing a two-factor model of motivation, based on the notion that the presence of one set of job characteristics or incentives leads to worker satisfaction at work, while another and separate set of job characteristics leads to dissatisfaction at work. Thus, satisfaction and dissatisfaction are not on a continuum with one increasing as the other diminishes, but are independent phenomena. This theory suggests that to improve job attitudes and productivity, administrators must recognize and attend to both sets of characteristics and not assume that an increase in satisfaction leads to decrease in unpleasurable dissatisfaction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีสองปัจจัย (เรียกอีกอย่างว่าทฤษฎีแรงจูงใจอนามัยของ Herzberg และทฤษฎีปัจจัยคู่) ระบุว่า มีปัจจัยบางอย่างในทำงานที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจในงาน ในขณะที่ชุดแยกปัจจัยทำให้เกิดความไม่พอใจ มันถูกพัฒนา โดยจิตวิทยา Herzberg เฟรเดอริกที่ theorized ว่า งานความพึงพอใจและความไม่พอใจงานทำงานเป็นอิสระจากกันทฤษฎีสองปัจจัยพื้นฐาน: ทัศนคติและการเชื่อมต่อกับอุตสาหกรรมสุขภาพจิตเกี่ยวข้องกับทฤษฎีแรงจูงใจของมาสโลว์อับราฮัม ผลการวิจัยของเขามีเป็นจำนวนมากทฤษฎี เป็นความจริง อิทธิพลกับทัศนคติต่อการจัดการ ตาม Herzberg บุคคลที่ไม่มีเนื้อหาที่ มีความพึงพอใจของความต้องการลำดับต่ำกว่าที่ทำงาน ตัวอย่าง ที่ต้องเชื่อมโยงกับระดับเงินเดือนขั้นต่ำหรือสภาพการทำงานดี และปลอดภัย ค่อนข้าง บุคคลค้นหาพึงพอใจสูงกว่าต้องจิตใจไปกับความสำเร็จ รู้ ชอบ ก้าวหน้า และธรรมชาติของงานตัวเอง นี้ดูเหมือนจะคู่ขนานมาสโลว์ทฤษฎีลำดับชั้นความต้องการ อย่างไรก็ตาม Herzberg เพิ่มมิติใหม่ทฤษฎีนี้ โดยเสนอแบบ 2 ปัจจัยแรงจูงใจ ขึ้นอยู่กับความของชุดของลักษณะงานหรือแรงจูงใจที่นำไปสู่ความพึงพอใจของผู้ปฏิบัติงานที่ทำงาน ในขณะที่ชุดอื่น และแยกเป้าหมายลักษณะงานกับความไม่พอใจในการทำงาน ดังนั้น ความพึงพอใจและความไม่พอใจไม่ในความต่อเนื่องกับหนึ่งเพิ่มอื่น ๆ ค่อย ๆ หายไป แต่มีปรากฏการณ์ที่เป็นอิสระ ทฤษฎีนี้ชี้ให้เห็นว่า การปรับปรุงงานทัศนคติและผลงาน ผู้ดูแลระบบต้องรู้จักฟังทั้งสองชุดของลักษณะ และสันนิษฐานว่า การเพิ่มความพึงพอใจนำไปสู่ลดความไม่พอใจ unpleasurable

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีสองปัจจัย (หรือเรียกว่าทฤษฎีแรงจูงใจของ Herzberg สุขอนามัยและทฤษฎีแบบ dual-ปัจจัย) กล่าวว่ามีปัจจัยบางอย่างในการทำงานที่ก่อให้เกิดความพึงพอใจในขณะที่ชุดเฉพาะกิจการของปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจ ได้รับการพัฒนาโดยนักจิตวิทยาเฟรเดอริ Herzberg ที่มหาเศรษฐีพึงพอใจในงานที่ทำหน้าที่ไม่พอใจงานที่เป็นอิสระจากกัน.
ทฤษฎีสองปัจจัยปัจจัยพื้นฐาน: ทัศนคติและการเชื่อมต่อของพวกเขากับสุขภาพจิตของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีของอับราฮัมมาสโลว์ของแรงจูงใจ ผลการวิจัยของเขาได้มีมากทฤษฎีเช่นเดียวกับในทางปฏิบัติมีอิทธิพลต่อทัศนคติที่มีต่อการบริหารงาน ตามที่ Herzberg บุคคลที่ไม่ได้มีเนื้อหาที่มีความพึงพอใจของความต้องการที่ลดลงตามคำสั่งที่ทำงาน; ตัวอย่างเช่นความต้องการของผู้ที่เกี่ยวข้องกับระดับเงินเดือนขั้นต่ำหรือสภาพการทำงานที่ปลอดภัยและมีความสุข แต่บุคคลที่มีลักษณะเพื่อความพึงพอใจของความต้องการทางด้านจิตใจในระดับสูงจะต้องทำอย่างไรกับความสำเร็จที่ได้รับการยอมรับความรับผิดชอบต่อความก้าวหน้าและลักษณะของการทำงานเอง เรื่องนี้ดูเหมือนจะขนานทฤษฎี Maslow ของลำดับชั้นของความต้องการ อย่างไรก็ตาม Herzberg เพิ่มมิติใหม่ให้กับทฤษฎีนี้โดยนำเสนอรูปแบบสองปัจจัยของแรงจูงใจอยู่บนพื้นฐานความคิดที่ว่าการปรากฏตัวของหนึ่งชุดของลักษณะงานหรือแรงจูงใจที่จะนำไปสู่ความพึงพอใจของคนงานที่ทำงานในขณะที่อีกชุดที่แยกต่างหากจากลักษณะงาน นำไปสู่ความไม่พอใจในการทำงาน ดังนั้นความพึงพอใจและความไม่พอใจไม่ได้อยู่ในความต่อเนื่องกับหนึ่งเพิ่มขึ้นเป็นลดลงอื่น ๆ แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เป็นอิสระ ทฤษฎีนี้แสดงให้เห็นว่าในการปรับปรุงทัศนคติในการทำงานและการผลิต, ผู้บริหารต้องรับรู้และเข้าร่วมกับทั้งสองชุดของลักษณะและไม่คิดว่าการเพิ่มขึ้นของความพึงพอใจนำไปสู่การลดลงในความไม่พอใจ unpleasurable

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีสองปัจจัย ( หรือที่เรียกว่าทฤษฎีแรงจูงใจของเฮอร์สเบอร์กสุขอนามัยและทฤษฎีสองปัจจัย ) ระบุว่ามีปัจจัยบางอย่างในที่ทำงานว่า ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน เพราะ ในขณะที่ชุดแยกของปัจจัยที่ก่อให้เกิดความไม่พอใจ มันถูกพัฒนาโดยนักจิตวิทยา Frederick ในที่งานกระทำงานและ theorized ที่ไม่พอใจอย่างเป็นอิสระของแต่ละอื่น ๆ .
พื้นฐานทฤษฎีสองปัจจัย : ทัศนคติและความสัมพันธ์ของพวกเขากับสุขภาพจิต อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีแรงจูงใจของอับราฮัมมาสโลว์ การค้นพบของเขามีมากทางทฤษฎี ตลอดจนปฏิบัติมีอิทธิพลต่อทัศนคติต่อการบริหาร ตามในแต่ละบุคคลจะไม่ได้มีความพึงพอใจลดลงตามความต้องการในการทำงาน ตัวอย่างเช่นผู้ที่ต้องเกี่ยวข้องกับระดับเงินเดือนขั้นต่ำหรือปลอดภัยและสวยงาม สภาพการทำงาน แต่บุคคลที่มองหาความพึงพอใจระดับความต้องการทางด้านจิตวิทยาที่เกี่ยวข้องกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การยอมรับ ความรับผิดชอบ ความก้าวหน้า และลักษณะของงานนั่นเอง นี้จะปรากฏขึ้นที่จะขนานทฤษฎีความต้องการลำดับขั้นของมาสโลว์ . อย่างไรก็ตาม) ได้เพิ่มมิติใหม่ให้ทฤษฎีนี้โดยเสนอเป็นสองปัจจัยรูปแบบของแรงจูงใจ , ขึ้นอยู่กับความคิดที่ว่ามีหนึ่งชุดของลักษณะงานหรือแรงจูงใจที่นำไปสู่ความพึงพอใจในการทำงานของคนงาน ขณะที่อีกชุด และ แยกลักษณะงาน นำไปสู่ความไม่พอใจในการทำงาน ดังนั้นความพึงพอใจไม่ต่อเนื่องกับการเป็นอื่น ๆลดลง แต่เป็นปรากฏการณ์ที่เป็นอิสระ ทฤษฎีนี้เห็นว่าจะปรับปรุงทัศนคติ งาน ผลผลิต ผู้บริหารต้องตระหนักและเข้าร่วมกับทั้งสองชุดของลักษณะ และไม่คิดว่าการเพิ่มความพึงพอใจนำไปสู่การลดลงใน unpleasurable
ความไม่พอใจ