Researchers have long thought that

Researchers have long thought that emperor penguins were philopatric, which means they would return to the same location to nest each year. The new research study used satellite images to show that penguins may not be faithful to previous nesting locations.
Researchers involved in the new study found six instances in just three years in which emperor penguins did not return to the same location to breed. They also report on one newly discovered colony on the Antarctic Peninsula that may represent the relocation of penguins.
University of Minnesota College of Science and Engineering researcher and the study's lead author Michelle LaRue shared her findings at the IDEACITY conference in Toronto on June 20. The study will also be published in an upcoming issue of Ecography, a professional journal publishing research in spatial ecology, macroecology and biogeography.
"Our research showing that colonies seem to appear and disappear throughout the years challenges behaviors we thought we understood about emperor penguins," said LaRue. "If we assume that these birds come back to the same locations every year, without fail, these new colonies we see on satellite images wouldn't make any sense. These birds didn't just appear out of thin air -- they had to have come from somewhere else. This suggests that emperor penguins move among colonies. That means we need to revisit how we interpret population changes and the causes of those changes."
Emperor penguins are a well-studied species and have recently been elevated to celebrity status with movies like "Happy Feet" and the documentary "March of the Penguins."
The "March of the Penguins" colony is called Pointe Géologie and it's been studied for more than 60 years. Researchers observe the colony every year and look, in particular, for birds that have been banded by researchers to return to the colony. In recent decades researchers have been concerned about how receding sea ice may affect the emperor penguins that breed on it.
Over five years in the late 1970s, the Southern Ocean warmed and at the same time the penguin colony at Pointe Géologie, declined by half (6,000 breeding pairs to 3,000 breeding pairs). The decline was thought to be due to decreased survival rates. In other words, researchers thought that the warming temperatures were negatively impacting the survival of the species.
High-resolution satellite imagery has changed all that because now researchers can see the entire coastline and all the sea ice. Because emperor penguins are the only species out on the sea ice, they can look at images and identify their presence through the telltale sign -- their guano stain. Before satellite images, researchers thought Pointe Géologie was isolated and there was nowhere else for the penguins to go. The satellite images show that Pointe Géologie is not isolated at all. Plenty of colonies are within easy travel distance for an emperor penguin.
"It's possible that birds have moved away from Pointe Géologie to these other spots and that means that maybe those banded birds didn't die," LaRue said. "If we want to accurately conserve the species, we really need to know the basics. We've just learned something unexpected, and we should rethink how we interpret colony fluctuations.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิจัยได้จึงคิดว่า นกเพนกวินจักรพรรดิได้ philopatric ซึ่งหมายความว่า พวกเขาจะกลับไปที่ตำแหน่งเดียวกันไปในแต่ละปี การศึกษาวิจัยใหม่ใช้ภาพดาวเทียมแสดงว่า นกเพนกวินไม่ซื่อสัตย์การซ้อนตำแหน่งก่อนหน้านี้นักวิจัยที่เกี่ยวข้องในการศึกษาใหม่พบอินสแตนซ์หกเพียงสามปีที่นกเพนกวินจักรพรรดิยังไม่กลับมาขุน พวกเขายังรายงานบนโคโลนี่เพิ่งพบหนึ่งในคาบสมุทรแอนตาร์กติกที่อาจย้ายนกเพนกวินวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมินนิโซตาของนักวิจัยวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์และการศึกษาผู้เขียนรอ LaRue มิเชลเธอค้นพบในการประชุม IDEACITY ในโตรอนโตที่ใช้ร่วมกันในวันที่ 20 มิถุนายน นอกจากนี้การศึกษายังจะถูกเผยแพร่ไปในประเด็นที่กำลังมาถึงของ Ecography วิจัยประกาศสมุดอาชีพในปริภูมินิเวศวิทยา macroecology และ biogeography"งานวิจัยของเราแสดงว่า อาณานิคมที่ดูเหมือนจะ ปรากฏ และหายไปตลอดทั้งพฤติกรรมความท้าทายปีเราคิดว่า เราเข้าใจเกี่ยวกับนกเพนกวินจักรพรรดิ LaRue กล่าว "ถ้าเราสมมติว่า นกเหล่านี้กลับมาที่ตำแหน่งเดิมทุกปี ไม่ได้ อาณานิคมใหม่เหล่านี้ที่เราเห็นบนภาพดาวเทียมจะไม่ทำให้รู้สึกใด ๆ นกเหล่านี้ไม่เพียงปรากฏบางแฟบ - พวกเขามาจากภูเก็ตแฟนตาซี แนะนำว่า เพนกวินจักรพรรดิย้ายระหว่างอาณานิคม หมายความ ว่า เราต้องมาทบทวนว่าเราแปลเปลี่ยนแปลงประชากรและสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น"เพนกวินจักรพรรดิมีพันธุ์ studied อย่างดี และล่าสุดได้ยกระดับสถานะชื่อเสียงกับภาพยนตร์สารคดี "มีนาคมของเพนกวิน" และ "ปุ๊กลุก"ฝูง "มีนาคมของเพนกวิน" เรียกว่าพอยท์ Géologie และมีการศึกษามากว่า 60 ปี นักวิจัยสังเกตเห็นฝูงทุกปีและดู โดยเฉพาะ สำหรับนกที่ได้รับแถบ โดยนักวิจัยกลับไปยังฝูง ในล่าสุดทศวรรษที่ผ่านมานักวิจัยได้รับกังวลเหตุว่าทะเลน้ำแข็งอาจมีผลต่อนกเพนกวินจักรพรรดิที่สายพันธุ์ไว้ห้าปีในปลายทศวรรษที่ 1970 ทะเลภาคใต้ warmed และขณะเดียวกันฝูงนกเพนกวินที่พอยท์ Géologie ปฏิเสธ โดยครึ่ง (6000 พันธุ์คู่กับ 3000 พันธุ์คู่) ลดลงถูกคิดว่า เป็นจากอัตราการรอดตายลดลง ในคำอื่น ๆ นักวิจัยคิดว่า อุณหภูมิโลกร้อนได้ส่งผลกระทบต่อความอยู่รอดของสายพันธุ์ภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูงมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ได้เนื่องจากขณะนี้ นักวิจัยสามารถเห็นชายฝั่งทั้งหมดและน้ำแข็งทะเล เนื่องจากนกเพนกวินจักรพรรดิมีสปีชีส์เดียวออกบนทะเลน้ำแข็ง พวกเขาสามารถดูภาพ และระบุสถานะของพวกเขาผ่านปากโป้งหมาย - คราบ guano ของพวกเขา ก่อนที่ภาพดาวเทียม นักวิจัยคิดว่า Géologie พอยท์ถูกแยก และมีเด็กสำหรับเพนกวินไป ภาพดาวเทียมแสดงว่า Géologie พอยท์ไม่แยกเลย อาณานิคมมากมายอยู่เดินทางสะดวกสำหรับเพนกวินจักรพรรดิเป็นLaRue กล่าวว่า "เป็นไปได้ว่า นกได้ย้ายจาก Géologie พอยท์ไปจุดอื่น และหมายความว่า บางทีที่แถบนกไม่ตาย "ถ้าเราต้องการอนุรักษ์สายพันธุ์อย่างถูกต้อง เราจริง ๆ ต้องรู้พื้นฐาน เราเพิ่งได้รู้บางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิด และเราควร rethink ว่าเราตีความผันผวนของอาณานิคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิจัยมีความคิดมานานแล้วว่านกเพนกวินจักรพรรดิเป็น philopatric ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะกลับไปยังตำแหน่งเดิมไปที่รังในแต่ละปี การศึกษาวิจัยใหม่ที่ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่านกเพนกวินอาจจะไม่ซื่อสัตย์กับสถานที่ทำรังก่อน.
นักวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาใหม่พบหกกรณีในเวลาเพียงสามปีที่เพนกวินจักรพรรดิไม่ได้กลับไปยังตำแหน่งเดิมจะก่อให้เกิด พวกเขายังรายงานเกี่ยวกับอาณานิคมหนึ่งที่ค้นพบใหม่บนคาบสมุทรแอนตาร์กติกที่อาจจะเป็นการย้ายถิ่นฐานของนกเพนกวิน.
มหาวิทยาลัยมินนิโซตาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และนักวิจัยวิศวกรรมและผู้เขียนนำการศึกษาของมิเชลวีที่ใช้ร่วมกันค้นพบของเธอที่ประชุม Ideacity ในโตรอนโตในวันที่ 20 มิถุนายน การศึกษาจะได้รับการตีพิมพ์ในปัญหาที่จะเกิดขึ้นของ Ecography เป็นมืออาชีพการวิจัยการเผยแพร่ในวารสารนิเวศวิทยาเชิงพื้นที่ macroecology และว.
"การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าโคโลนีที่ดูเหมือนจะปรากฏและหายไปตลอดทั้งปีความท้าทายพฤติกรรมเราคิดว่าเราเข้าใจเกี่ยวกับนกเพนกวินจักรพรรดิ" วีลกล่าวว่า "ถ้าเราคิดว่านกเหล่านี้กลับมาที่สถานที่เดียวกันทุกปีโดยไม่ต้องล้มเหลวอาณานิคมใหม่เหล่านี้ที่เราเห็นในภาพจากดาวเทียมจะไม่ทำให้รู้สึกใด ๆ นกเหล่านี้ไม่ได้เพียงแค่ปรากฏออกมาจากอากาศบาง -. พวกเขาจะต้อง ได้มาจากที่อื่น. นี้แสดงให้เห็นว่านกเพนกวินจักรพรรดิย้ายไปมาระหว่างอาณานิคม. นั่นหมายความว่าเราจำเป็นที่จะต้องทบทวนวิธีการที่เราตีความการเปลี่ยนแปลงประชากรและสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น. "
นกเพนกวินจักรพรรดิเป็นสายพันธุ์ที่ดีการศึกษาและเพิ่งได้รับการยกระดับให้เป็นสถานะที่มีชื่อเสียง มีภาพยนตร์เช่น "เท้าความสุข" และสารคดี "การเดินทางของจักรพรรดิ."
"เดือนมีนาคมของเพนกวิน" อาณานิคมเรียกว่าปวงGéologieและจะได้รับการศึกษามานานกว่า 60 ปี นักวิจัยสังเกตอาณานิคมของทุกปีและมองโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนกที่ได้รับการรวมตัวโดยนักวิจัยที่จะกลับไปเป็นอาณานิคม นักวิจัยในทศวรรษที่ผ่านมามีความกังวลเกี่ยวกับวิธีทะเลน้ำแข็งถอยอาจส่งผลกระทบต่อนกเพนกวินจักรพรรดิที่ผสมพันธุ์บน.
กว่าห้าปีที่ผ่านมาในช่วงปลายปี 1970 ที่มหาสมุทรใต้และอบอุ่นในเวลาเดียวกันอาณานิคมนกเพนกวินที่ปวงGéologieลดลงครึ่งหนึ่ง ( 6,000 คู่ผสมพันธุ์ถึง 3,000 คู่ผสมพันธุ์) ลดลงเป็นความคิดที่จะเกิดจากการลดลงของอัตราการอยู่รอด ในคำอื่น ๆ นักวิจัยคิดว่าอุณหภูมิร้อนได้รับผลเสียต่อการอยู่รอดของสายพันธุ์.
ดาวเทียมความละเอียดสูงภาพมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดว่าเป็นเพราะนักวิจัยสามารถดูชายฝั่งทั้งหมดและทะเลน้ำแข็ง เพราะนกเพนกวินจักรพรรดิเป็นเพียงสายพันธุ์ออกไปในทะเลน้ำแข็งที่พวกเขาสามารถดูภาพและระบุสถานะของพวกเขาผ่านเข้าสู่ระบบปากโป้ง - คราบขี้ค้างคาวของพวกเขา ก่อนที่ภาพจากดาวเทียมนักวิจัยคิดว่าปวงGéologieเป็นโดดเดี่ยวและมีไม่มีที่ไหนเลยอื่นสำหรับนกเพนกวินที่จะไป ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าปวงGéologieไม่ได้แยกเลย ความอุดมสมบูรณ์ของอาณานิคมอยู่ในระยะการเดินทางที่ง่ายสำหรับเพนกวินจักรพรรดิ.
"มันเป็นไปได้ว่านกได้ย้ายออกไปจากปวงGéologieจุดอื่น ๆ เหล่านี้และนั่นหมายความว่าอาจจะรวมตัวนกเหล่านั้นไม่ได้ตาย" วีลกล่าวว่า "ถ้าเราต้องการที่จะต้องอนุรักษ์สายพันธุ์ที่เราต้องการจริงๆที่จะรู้พื้นฐาน. เราเพิ่งได้เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่ไม่คาดคิดและเราควรจะคิดใหม่ว่าเราตีความผันผวนอาณานิคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นักวิจัยได้ลองคิดว่านกเพนกวินจักรพรรดิถูก philopatric ซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะกลับไปยังตำแหน่งเดิมรัง ในแต่ละปี งานวิจัยใหม่ใช้ภาพถ่ายจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าเพนกวินอาจจะซื่อสัตย์กับสถานที่ทำรังก่อนหน้านี้
นักวิจัยที่เกี่ยวข้องในการศึกษาใหม่พบอินสแตนซ์ในเวลาเพียงสามปีหกที่นกเพนกวินจักรพรรดิไม่ได้กลับไปยังสถานที่เดียวกันผสมพันธุ์ พวกเขายังมีรายงานที่ค้นพบใหม่อาณานิคมบนคาบสมุทรแอนตาร์กติกที่อาจเป็นตัวแทนของการ
เพนกวินมหาวิทยาลัยมินนิโซตาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และนักวิจัยด้านวิศวกรรมและการศึกษาของผู้เขียนหลักมิเชลลารูแบ่งปันการค้นพบของเธอที่ ideacity การประชุมในโตรอนโตบน 20 มิถุนายน การศึกษาจะถูกตีพิมพ์ในฉบับต่อไปของ ecography , นิตยสารมืออาชีพเผยแพร่วิจัยนิเวศวิทยาเชิงพื้นที่ macroecology
แล้วว" การวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าอาณานิคมดูเหมือนจะปรากฏขึ้นและหายไปตลอดทั้งปี พฤติกรรมที่เราคิดว่าเราเข้าใจความท้าทายเกี่ยวกับนกเพนกวินจักรพรรดิ กล่าวว่า ลารู " ถ้าเราสมมติว่า นกเหล่านี้กลับมาที่สถานที่เดียวกันทุกปี ไม่พลาด ใหม่เหล่านี้ เราเห็นภาพดาวเทียมอาณานิคมจะไม่ทำให้รู้สึกใด ๆนกเหล่านี้ไม่ได้ปรากฏออกมาจากอากาศ . . . ก็ต้องมาจากที่อื่น แสดงว่านกเพนกวินจักรพรรดิย้ายของอาณานิคม นั่นหมายความว่า เราต้องทบทวนว่าเราตีความการเปลี่ยนแปลงประชากรและสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้น "
.นกเพนกวินจักรพรรดิเป็นอย่างดีศึกษาชนิด และเพิ่งจะได้รับการยกระดับสถานะดารากับภาพยนตร์เช่น " Happy Feet " สารคดี " การเดินทางของคิโนะ "
" การเดินทางของคิโนะ " อาณานิคมเรียกว่า ologie Pointe กรัม ) และมันก็ศึกษามานานกว่า 60 ปี นักวิจัยสังเกตอาณานิคมทุกปี และ ดู โดยเฉพาะสำหรับนกที่มีแถบโดยนักวิจัยกลับไปอาณานิคม ในทศวรรษที่ผ่านมานักวิจัยได้กังวลเกี่ยวกับวิธีถอยห่างทะเลน้ำแข็งอาจมีผลต่อเพนกวินจักรพรรดิที่พันธุ์นั้น
กว่าห้าปีในปลายทศวรรษ ทางตอนใต้ของมหาสมุทรอบอุ่นและในเวลาเดียวกันอาณานิคมนกเพนกวินที่จุด G é ologie ลดลงครึ่งนึง ( 6 , 000 คู่พันธุ์ 3 , 000 คู่ ผสมพันธุ์ )ลดลงเนื่องจากการลดลง พบว่ามีอัตราการอยู่รอด . ในคำอื่น ๆที่นักวิจัยคิดว่าร้อนอุณหภูมิที่ส่งผลเสียต่อการอยู่รอดของชนิดพันธุ์
ความละเอียดสูงจากดาวเทียมมีการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่ เพราะตอนนี้นักวิจัยสามารถมองเห็นชายฝั่งทั้งหมด และทะเลน้ำแข็ง เพราะจักรพรรดิเพนกวินสปีชีส์เดียวบนน้ำแข็งทะเลพวกเขาสามารถดูภาพและระบุสถานะของพวกเขาผ่านเครื่องหมายปากโป้ง -- พวกเขาทำงานต่อคราบ . ก่อนที่ภาพดาวเทียม นักวิจัยคิดว่า ologie Pointe g éแยกและมีไม่มีที่ไหนเลยอื่นสำหรับเพนกวินไป ภาพจากดาวเทียมแสดงให้เห็นว่า ologie Pointe g éไม่ได้แยกเลย มากมายของอาณานิคมภายในระยะทางเดินทางง่ายสำหรับนกเพนกวินจักรพรรดิ .
" เป็นไปได้ว่า นกได้ย้ายออกไปจาก ologie Pointe g éไปยังจุดอื่น ๆเหล่านี้และนั่นหมายความว่าอาจจะเป็นแถบนกไม่ตาย " ลารูกล่าว ถ้าเราต้องการถูกต้องอนุรักษ์สายพันธุ์ เราจำเป็นต้องทราบข้อมูลพื้นฐาน เราเพิ่งได้เรียนรู้บางอย่างที่ไม่คาดคิด และเราควรคิดใหม่ว่าเราตีความของอาณานิคม