การทำงานของความเชื่อในชีวิต
การทำงานของความเชื่อในชีวิตนั้น เราที่จะเข้าใจว่าความเชื่อทำงานอย่างไร กับชีวิตของเรา เราต้องเข้าใจหลักของความเป็นจริงของชีวิตก่อนว่า ความจริงของชีวิตตามแนวศาสนานั้น ทำให้ทราบว่าชีวิตสามารถนิยามได้หลายอย่าง เช่น การดำรงอยู่ หรือเป็นการดำเนินชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นร้น ขวนขวายเรียนรู้และและพัฒนาตนเองไปในทางที่ดี เพื่อ หรือ อาจเป็นชีวิตที่เกิดมาเพื่อเรียนรู้สิ่งต่างๆและเผชิญกับปัญหามี่มากเพื่อที่ จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายสูงสุด ของชีวิต และทุกอย่างนั้น ทำให้ความเชื่อเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลกับเรามากที่สุด และทำให้เรารู้ว่าเมื่อเรารู้ถึงความจริงของชีวิต ยังต้องมีความเชื่อ ที่ทำให้เรารู้ว่า ความจริงนั้นเกิดขึ้นอย่างไร
การทำงานของความเชื่อในชีวิตของหนูนั้น หนูคิดว่าความเชื่อเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับชีวิตของหนู เพราะหนูเป็น คริสเตียน เพราะว่าหนูเชื่อว่าการจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด ก็ตาม หนูต้องมีความเชื่อในพระเจ้า ให้พระองค์ ที่จะทรงนำหนู
ในการดำเนินชีวิตที่ดี เดินในทางของพระองค์ และทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า เมื่อเรามีความเชื่อทุกอย่างที่คิดว่าหนูทำไม่ได้ก็สามารถทำได้เช่น การเรียน ที่ยาก การสอบ ที่หนูทำไดนั้นเพราะหนู เชื่อและวางใจในพระองค์ ความเชื่อทำให้หนูรู้ว่าเวลาที่ทุกข์ใจอยู่นั้น ยังมีคนหนึ่งที่ค่อยให้กำลังใจหนูเสมอคือพระเจ้า พระองค์ยังเป็นทั้งเพื่อน พ่อ แม่ ของหนูทำให้หนูมีกำลังใจ กล้าหาญ กล้าที่จะต่อสู้ในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน และกล้าที่จะรับใช้พระเจ้า ไม่ว่าจะเป็นการนำนมัสการ การประกาศเรื่องราวของพระเจ้า กับคนอื่นๆ และความเชื่อทำให้หนูเข้มแข็ง มีความอดทน เมื่อหนูเจอปัญหาที่ยาก ไม่สามารถหาทางออกได้ แต่หนูเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงให้ทางออกแก่หนูเสมอ หนูเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงดูแลและเลี้ยงดูหนู อย่างขาดตกบกพร่อง
ในมุมมองของฉันคือความความเชื่อ ดีกว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ด้วยความเชื่อทางศาสนา เรามีลักษณะที่แตกต่าง ระหว่างความคิด ตามหลักฐาน และ ตามความในความเชื่อ ย่อมรวมถึงศาสนา และความเชื่อในลัทธิต่างๆ ศาสนา คือการสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างมนุษย์กับอำนาจศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ซึ่งมนุษย์เชื่อว่าสามารถควบคุมหรือมีอิทธิพลเหนือวิถีทางของธรรมชาติและวิถีชีวิตของมนุษย์ ศาสนาตามทัศนะทางมานุษยวิทยาจึงบ่งบอกถึงการขยายความสัมพันธ์ทางสังคมของมนุษย์ ออกไปสู่ความสัมพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีอำนาจเหนือมนุษย์และธรรมชาติ ดังนั้นศาสนาและความเชื่อทางศาสนาจึงเป็นสิ่งสากลที่เราพบเห็นได้ในทุกสังคมตลอดมาทุกยุคทุกสมัย ศาสนาอาจจัดว่าเป็นวัฒนธรรมทางนามธรรมที่มีผลต่อการสร้างวัฒนธรรมทางรูปธรรม การทำความเข้าใจศาสนาจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก แรกเริ่มทีเดียวศาสนาและความเชื่อถือกำเนิดจากความกลัว ความต้องการความมั่นคงทางจิตใจ และความสงสัยในปรากฏการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบมนุษย์ ทำให้มนุษย์นั้นจึงต้อง มีความเชื่อและศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ
ความเชื่อนั้น ทำให้เราได้รู้ในหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต และความเชื่อนั้นจึงมีอิทธิพลกับเราทุกคน และยังความเชื่อนั้นเป็นสิ่งทื่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ เป็นสิ่งที่ล้ำลึกเกินความเข้าใจและความคิดของเราทุกคน