Unlike the intellectual orientations related to the term knowledge, such as ‘‘accumulated
information’’, Senge, following in the footsteps of Searle (1992), defines knowledge as ‘‘the
capacity for effective action’’ (Senge et al., 1999, p. 421). ‘‘Knowing about . . . ’’ represents
information. However, in order for information to materialize into knowledge, people have to be
capable of interpreting it, generating meaningful options for action and implementing the action
expected to produce the desired results. That necessarily opens up the issue of the concept ofdesigning an infrastructure to expand knowledge. Polanyi’s (1966) notion of ‘‘tacit knowledge’’
is important because, as pointed out by Nonaka and Takeuchi (1995), it allows a difference to
be made between ‘‘explicit‘‘ and ‘‘tacit knowledge’’ which lies at the core of a ‘‘knowledge
creating company’’. ‘‘Explicit knowledge’’ is scholastic knowledge expressed by language and
numbers; it can be broken down into separate parts, codified, transmitted and analyzed.
ซึ่งแตกต่างจากแนวทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับความรู้ระยะ เช่น '' สะสมข้อมูล '', Senge ตามรอยเท้าของ Searle (1992), กำหนดรู้เป็น ''กำลังการผลิตสำหรับการดำเนินการมีประสิทธิภาพ '' (Senge et al., 1999, p. 421) '' รู้เกี่ยวกับ... '' แทนข้อมูล อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ข้อมูลที่เป็นตัวเป็นตนเป็นความรู้ ประชาชนต้องสามารถทำนายได้ สร้างตัวเลือกที่มีความหมายสำหรับการดำเนินการ และใช้การดำเนินการคาดว่าจะให้ผลลัพธ์ที่ต้องการ ที่จำเป็นต้องเปิดปัญหาของ ofdesigning แนวคิดเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อขยายความรู้ ของ Polanyi (1966) ความของ ''ความรู้ tacit''เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ ช่วยให้ความแตกต่างให้เป็นชี้ให้เห็น โดยโนนากะและสแมน (1995),ทำระหว่าง ''ชัดเจน '' และ '' tacit knowledge'' ซึ่งอยู่ในหลักของการ '' ความรู้สร้างบริษัท '' ''รู้ชัดเจน '' จะรู้ scholastic ที่แสดง โดยภาษา และตัวเลข สามารถแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนแยก, ประมวลกฎหมายสูง ส่ง และวิเคราะห์
การแปล กรุณารอสักครู่..