The art of mixing different materia

The art of mixing different materials was known to mankind from the Bronze Age. Concrete,
metal alloys, and fiber composites that are considered to be typical examples were introduced
[1]. In the early stages of polymer industry the major polymers used were wood, natural rubber,
and gutta-percha along with natural fibers such as cellulose, protein fibers, and leather. Theyear 1846 witnessed the first polymer blend (natural rubber blended with gutta-percha) which
was reported in the patents of Hancock and Parkes [1]. A single rotor masticating machine was
used for the blending process. This was followed by the slow development of blending
technology. In the first half of the twentieth century great progress in the polymer industry led
to the development of a wide range of new polymers. Later the depletion of economic ways to
develop new monomers, and the fact that newly developed monomers gave rise to polymers
with intermediate properties as compared with the existing polymers, led to the development of
polymer blending [2]. The last 80 years show an exponential increase in the number of polymer
blend patents and literature; the number almost doubled after 1993 [3]. Thus, polymer blends
are a class of materials in which at least two polymers are combined together resulting in a new
material with different physical properties [4].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศิลปะของการผสมวัสดุต่าง ๆ ถูกเรียกว่ามนุษย์จากยุคสำริด คอนกรีตโลหะโลหะผสม และคอมโพสิตเส้นใยซึ่งถือเป็นตัวอย่างโดยทั่วไปจะได้แนะนำ[1] ในขั้นต้นของอุตสาหกรรมพอลิเมอร์ โพลิเมอร์หลักที่ใช้มียางไม้ ธรรมชาติและ gutta-percha กับเส้นใยธรรมชาติเช่นเซลลูโลส โปรตีนเส้นใย และหนัง Theyear 1846 เห็นแรกพอลิเมอร์ผสม (ยางธรรมชาติที่ผสมผสานกับ gutta-percha) ซึ่งมีรายงานในสิทธิบัตรของแฮนค็อคคส์ [1] มีใบพัดตัวเดียว masticating เครื่องใช้สำหรับการผสม นี้ถูกตาม ด้วยการพัฒนาที่ช้าของผสมเทคโนโลยี เจริญก้าวหน้าในอุตสาหกรรมพอลิเมอร์นำในครึ่งแรกของศตวรรษที่ยี่สิบการพัฒนาความหลากหลายของโพลิเมอร์ใหม่ หลังจากการลดลงของเศรษฐกิจวิธีการพัฒนา monomers ใหม่ และความจริงที่ว่าพัฒนา monomers ให้โพลิเมอร์มีคุณสมบัติปานกลางเมื่อเทียบกับโพลิเมอร์ที่มีอยู่ นำไปสู่การพัฒนาพอลิเมอร์ผสม [2] ปี 80 แสดงเพิ่มเนนหมายของพอลิเมอร์ผสมผสานวรรณกรรม และสิทธิบัตร จำนวนเกือบสองเท่าจากปี 1993 [3] ดังนั้น พอลิเมอร์ผสมมีชั้นวัสดุที่โพลิเมอร์น้อยสองจะรวมกันเกิดใหม่วัสดุที่ มีคุณสมบัติทางกายภาพแตกต่างกัน [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ศิลปะของการผสมวัสดุที่แตกต่างเป็นที่รู้จักกันเพื่อมนุษยชาติจากยุคสำริด คอนกรีต,
โลหะผสมและคอมโพสิตเส้นใยที่ได้รับการพิจารณาให้เป็นตัวอย่างทั่วไปได้รับการแนะนำ
[1] ในระยะแรกของอุตสาหกรรมโพลิเมอร์โพลิเมอร์ที่สำคัญที่ใช้เป็นไม้ยางพารา
และหยดลมๆพร้อมด้วยเส้นใยธรรมชาติเช่นเซลลูโลสเส้นใยโปรตีนและหนัง Theyear 1846 เห็นการผสมผสานลิเมอร์เป็นครั้งแรก (ยางธรรมชาติผสมกับหยดลมๆ) ซึ่ง
มีรายงานในสิทธิบัตรของแฮนค็อกและปาร์กส์ [1] เครื่อง masticating ใบพัดเดียว
ที่ใช้สำหรับขั้นตอนการผสม นี้ตามด้วยการพัฒนาช้าของการผสมผสาน
เทคโนโลยี ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ยี่สิบความก้าวหน้าอย่างมากในอุตสาหกรรมโพลิเมอร์นำ
ไปสู่การพัฒนาที่หลากหลายของโพลิเมอร์ใหม่ ต่อมาการสูญเสียของวิธีการทางเศรษฐกิจที่จะ
พัฒนาโมโนเมอร์ใหม่และความจริงที่ว่าโมโนเมอร์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ให้สูงขึ้นเพื่อโพลิเมอร์
ที่มีคุณสมบัติกลางเมื่อเทียบกับโพลิเมอร์ที่มีอยู่นำไปสู่การพัฒนาของ
การผสมโพลีเมอ [2] 80 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นเพิ่มขึ้นชี้แจงในจำนวนของพอลิเมอ
สิทธิบัตรผสมผสานและวรรณกรรม; จำนวนเกือบสองเท่าหลังจากที่ 1993 [3] ดังนั้นผสมพอลิเมอ
เป็นชั้นของวัสดุที่อย่างน้อยสองโพลิเมอร์จะถูกรวมเข้าด้วยกันส่งผลให้ใหม่
วัสดุที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน [4]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ศิลปะของการผสมวัสดุที่แตกต่างกันเป็นที่รู้จักกันเพื่อมนุษยชาติจากบรอนซ์อายุ คอนกรีต
โลหะผสมโลหะและไฟเบอร์คอมโพสิตที่ถือเป็นตัวอย่างทั่วไปแนะนำ
[ 1 ] ในช่วงแรกของอุตสาหกรรมพอลิเมอร์สาขาพอลิเมอร์ที่ใช้ไม้ยางพาราธรรมชาติ
gutta เปอร์เช่และพร้อมกับเส้นใยจากธรรมชาติ เช่น เซลลูโลส , เส้นใย , โปรตีน และหนังปี พ.ศ. 2389 เป็นครั้งแรก ( พอลิเมอร์ผสมยางธรรมชาติที่ผสมกับ gutta เปอร์เช่ ) ซึ่ง
ถูกรายงานในสิทธิบัตรของแฮนค็อกและ ปาร์กส์ [ 1 ] ใบพัดเดี่ยว masticating เครื่อง
ใช้สำหรับผสมในกระบวนการ นี้ตามด้วยการพัฒนาช้าของการผสม
เทคโนโลยี ในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ยี่สิบความก้าวหน้าอย่างมากในอุตสาหกรรม LED
โพลีเมอร์เพื่อการพัฒนาที่หลากหลายของวัสดุใหม่ ต่อมามีการลดลงของเศรษฐกิจพัฒนาวิธี

แบบใหม่ ที่พัฒนาขึ้นใหม่แบบให้สูงขึ้นไป ด้วยคุณสมบัติของพอลิเมอร์
กลางเมื่อเทียบกับพอลิเมอร์ที่มีอยู่ไปสู่การพัฒนา
พอลิเมอร์ผสม [ 2 ] เมื่อ 80 ปี ให้เพิ่มเป็นทวีคูณในหมายเลขของพอลิเมอร์
ผสมผสานสิทธิบัตรและวรรณกรรมจํานวนเกือบสองเท่าจากปี 1993 [ 3 ] ดังนั้น พอลิเมอร์ผสม
เป็นชั้นของวัสดุที่อย่างน้อยสองเม็ดรวมด้วยกันส่งผลให้วัสดุใหม่
ที่มีคุณสมบัติทางกายภาพที่แตกต่างกัน [ 4 ]