The Light Emitting Diode (LED) is a

The Light Emitting Diode (LED) is a phototherapy equipment, poorly studied, which is able of acting on blood level and it has frequently appeared in clinical practice of physiotherapy to aid on skin rejuvenation, control inflammation and wound healing. The aim of the study was to evaluate the effects of LED on red blood cells through the spectrophotometer. This is an experimental study with a sample of 5 male Wistar rats weighting between 200 g and 350 g, randomly selected, anesthetized and 4 ml of blood was collected by cardiac puncture. The blood collected was divided into four groups, one control and three treated, these individually irradiated by blue LED (420 - 490 nm), green LED (515 - 570 nm) and red LED (620 - 680 nm) at an output of 3 watts, for 10 minutes and 5 cm apart from the surface of the blood, then it was analyzed by a spectrophotometer at 540 nm. The results were submitted to Anova and Post-roch Turkey (p < 0.05). All wavelengths tested produced hemolysis greater than the control in hypotonic solutions of NaCl (range 0.02 to 0.06 M) (p < 0.01). Only the band between 515 - 570 nm provides a higher hemolysis (range 0.06 to 0.1) when compared to the control group (p < 0.05). The irradiation of blood through the LED therapy was able to weaken the cell membrane of the red blood cells. It is likely that hemolysis does not bring harm the body, because as it is a local therapy, the amount of hemolysis that can be caused is small and it will induce the reproduction of new red blood cells, thus improving their physiological functions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไดโอดเปล่งแสง (LED) เป็นอุปกรณ์ส่องไฟ, การศึกษาไม่ดีซึ่งมีความสามารถในการทำหน้าที่ในระดับเลือดและได้ปรากฏขึ้นบ่อยในการปฏิบัติทางคลินิกกายภาพบำบัดเพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิวอักเสบการควบคุมและการรักษาบาดแผล วัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อประเมินผลกระทบของไฟ LED ในเซลล์เม็ดเลือดแดงผ่านสเปก นี่คือการศึกษาทดลองกับกลุ่มตัวอย่างจาก 5 หนูวิสตาร์ชายน้ำหนักระหว่าง 200 กรัมและ 350 กรัม, สุ่มเลือกดมยาสลบและ 4 มิลลิลิตรของเลือดที่เก็บรวบรวมโดยการเจาะการเต้นของหัวใจ เลือดที่เก็บรวบรวมได้ถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มหนึ่งการควบคุมและสามได้รับการรักษาเหล่านี้ฉายรังสีเป็นรายบุคคลโดยไฟ LED สีฟ้า (420-490 นาโนเมตร), ไฟ LED สีเขียว (515-570 นาโนเมตร) และไฟ LED สีแดง (620-680 นาโนเมตร) ที่การส่งออกของ 3 วัตต์เป็นเวลา 10 นาทีและ 5 ซม. นอกเหนือจากพื้นผิวของเลือดแล้วมันได้รับการวิเคราะห์โดยสเปกที่ 540 นาโนเมตร ผลการถูกส่งไป Anova และ Post-roch ตุรกี (p <0.05) ทุกความยาวคลื่นแสงที่ผ่านการทดสอบการผลิตเม็ดเลือดแดงแตกมากกว่าการควบคุมในการแก้ปัญหา hypotonic ของโซเดียมคลอไรด์ (ช่วง 0.02-0.06 M) (p <0.01) เฉพาะวงระหว่าง 515-570 นาโนเมตรให้สูงขึ้นภาวะเม็ดเลือดแดงแตก (ช่วง 0.06-0.1) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม (p <0.05) การฉายรังสีของเลือดผ่านการรักษาด้วยไฟ LED ก็สามารถที่จะลดลงเยื่อหุ้มเซลล์ของเซลล์เม็ดเลือดแดง มันมีแนวโน้มว่าภาวะเม็ดเลือดแดงแตกไม่ได้นำมาเป็นอันตรายต่อร่างกายเพราะมันเป็นวิธีการบำบัดท้องถิ่นจำนวนเม็ดเลือดแดงแตกที่อาจเกิดมีขนาดเล็กและมันจะทำให้เกิดการสืบพันธุ์ของเซลล์เม็ดเลือดแดงใหม่จึงปรับปรุงฟังก์ชั่นทางสรีรวิทยาของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไดโอดเปล่งแสง ( LED ) เป็นอุปกรณ์รักษาไม่เป็น เรียน ซึ่งสามารถแสดงในระดับเลือดและมันมักปรากฏในคลินิกของกายภาพบำบัด เพื่อช่วยในการฟื้นฟูผิว อักเสบ ควบคุมและรักษาบาดแผล จุดมุ่งหมายของการศึกษาคือ เพื่อศึกษาผลของ LED สีแดงเลือดเซลล์ผ่านวัสดุนี่คือการทดลอง กับตัวอย่าง 5 หนูพันธุ์วิสตาร์เพศผู้น้ำหนัก 350 กรัม ระหว่าง 200 กรัม และ สุ่มเลือกยาสลบและ 4 มิลลิลิตรของเลือดถูกเก็บรวบรวมโดยหัวใจถูกเจาะ เลือดที่เก็บถูกแบ่งออกเป็นสี่กลุ่มควบคุมหนึ่งและสามการรักษาจากรังสีเหล่านี้ไฟ LED สีฟ้า ( 420 - 290 nm )LED สีเขียว ( 515 - 570 nm ) และไฟ LED สีแดง ( 620 - 680 nm ) ที่ output ของ 3 วัตต์ เป็นเวลา 10 นาที และ 5 เซนติเมตร ห่างจากพื้นผิวของเลือด แล้ววิเคราะห์ด้วยเครื่อง 540 นาโนเมตร ผลลัพธ์ที่ได้ถูกส่งไปยัง ANOVA และโพสต์โรชตุรกี ( P < 0.05 ) ทั้งหมดทดสอบที่ระดับความยาวคลื่นมากกว่าการควบคุมในไฮโพทอนิก โซลูชั่นของเกลือโซเดียมคลอไรด์ ( ช่วง 0.02 0.1 M ) ( P < 0.01 )แค่วงระหว่าง 515 - 570 nm มีระดับที่สูงขึ้น ( ช่วง 0.1 0.1 ) เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มควบคุม ( P < 0.05 ) การฉายรังสีของเลือดที่ผ่านการบำบัด คือ LED สามารถทำให้เยื่อหุ้มเซลล์ของเม็ดเลือดแดง มันมีแนวโน้มว่า การไม่ทำให้เป็นอันตรายต่อร่างกาย เพราะเป็นการท้องถิ่นจำนวนของระดับที่สามารถทำให้มีขนาดเล็ก และจะกระตุ้นให้เกิดการสืบพันธุ์ของเซลล์เม็ดเลือดแดงใหม่ จึงพัฒนาฟังก์ชั่นทางสรีรวิทยา