In the experiment, to study the liq

In the experiment, to study the liquid extraction or solvent extraction process and determine an extraction efficiency of different concentration mixtures. โดยสกัดสารละลาย Acetic acid ที่ผสมอยู่ใน Hexane ที่ความเข้มข้น 0.1 % v/v และ 1.6 % v/v ด้วย Distilled water ทำการวัด ความเข้มข้นของ Acetic Acid ของ Extract phase และ Overflow ทุก 10 นาทีจนความเข้นข้นของ NaoH เริ่มคงที่ พบว่าความเข้มข้นของ Acetic acid ใน Extract phase ลดลงเรื่อยๆจนกระทั้งคงที่ เนื่องจากในช่วงแรกของการสกัดปริมาณของ Acetic acid สามารถละลายเข้าไปใน extract solvent (distilled water) ได้เป็นจำนวนมาก แต่ใช้ปริมาณของ extract solvent เป็นจำนวนน้อย ดังนั้นความเข้มข้นของ Acetic acid จึงมีค่าสูง เมื่อเวลาผ่านไปปริมาณของ Acetic acid ในสารละลายมีน้อยลง ทำให้น้ำสกัดออกมาได้ปริมาณน้อยลง แต่มีปริมาณของน้ำกลั่นอยู่ใน extract phase จำนวนมาก ทำให้ความเข้มข้นของ Acetic acid มีค่าน้อยลง และเมื่อน้ำกลั่นไม่สามารถสกัดได้อีกแล้ว ความเข้มข้นมีค่าคงที่ หรือเป็นจุด equilibrium ระหว่าง Extract phase และ Raffinate phase.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการทดลอง การศึกษาการสกัดของเหลวหรือกระบวนการการแยกตัวทำละลาย และกำหนดประสิทธิภาพการแยกของส่วนผสมความเข้มข้นแตกต่างกัน โดยสกัดสารละลายกรดอะซิติกที่ผสมอยู่ในโพลีที่ความเข้มข้น 0.1% v/v และ 1.6% v/v ด้วย Distilled น้ำทำการวัดความเข้มข้นของกรดอะซิติกนั้น ๆ แยกเฟสและเกินทุก 10 นาทีจนความเข้นข้นของ NaoH เริ่มคงที่พบว่าความเข้มข้นของกรดอะซิติกในสารสกัดจากระยะลดลงเรื่อยๆจนกระทั้งคงที่เนื่องจากในช่วงแรกของการสกัดปริมาณของกรดอะซิติกสามารถละลายเข้าไปในสารสกัดจากตัวทำละลาย (น้ำกลั่น) ได้เป็นจำนวนมากแต่ใช้ปริมาณของสารสกัดจากเป็นจำนวนน้อยเป็นตัวทำละลายดังนั้นความเข้มข้นของกรดอะซิติกจึงมีค่าสูงเมื่อเวลาผ่านไปปริมาณของกรดอะซิติกในสารละลายมีน้อยลงทำให้น้ำสกัดออกมาได้ปริมาณน้อยลงแต่มีปริมาณของน้ำกลั่นอยู่ในสารสกัดจากระยะจำนวนมากทำให้ความเข้มข้นของกรดอะซิติกมีค่าน้อยลงและเมื่อน้ำกลั่นไม่สามารถสกัดได้อีกแล้วความเข้มข้นมีค่าคงที่หรือเป็นจุดสมดุลระหว่างแยกเฟสและ Raffinate ระยะการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการทดลองเพื่อศึกษาการสกัดของเหลวหรือกระบวนการสกัดด้วยตัวทำละลายและตรวจสอบประสิทธิภาพการสกัดเข้มข้นผสมที่แตกต่างกัน โดยสกัดสารละลายกรดอะซิติกที่ผสมอยู่ในเฮกเซนที่ความเข้มข้น 0.1% v / V และ 1.6% ปริมาตร / ปริมาตรด้วยน้ำกลั่นทำการน้ำวัดความเข้มข้นของกรดอะซิติกของเฟสสารสกัดและล้นทุก 10 นาทีจนความเข้นข้นของ NaOH เริ่ม คงที่พบว่าความเข้มข้นของกรดอะซิติกในเฟส Extract ลดลงเรื่อย ๆ จนกระทั้งคงที่ กรดอะซิติกสามารถละลายเข้าไปในสารสกัดด้วยตัวทำละลาย (น้ำกลั่น) ได้เป็นจำนวนมาก แต่ใช้ปริมาณของสารสกัดด้วยตัวทำละลายเป็นจำนวนน้อยดังนั้นความเข้มข้นของกรดอะซิติกจึงมีค่าสูงเมื่อเวลาผ่านไปปริมาณของกรดอะซิติกในสารละลายมีน้อยลงทำให้น้ำ สกัดออกมาได้ปริมาณน้อยลง แต่มีปริมาณของน้ำกลั่นอยู่ในสารสกัดจากขั้นตอนจำนวนมากทำให้ความเข้มข้นของกรดอะซิติกมีค่าน้อยลง ความเข้มข้นมีค่าคงที่หรือเป็นจุดสมดุลระหว่างสารสกัดจากเฟสและเฟสแรฟฟิเน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในการทดลองเพื่อศึกษาการสกัดของเหลวด้วยตัวทำละลายหรือกระบวนการตรวจสอบประสิทธิภาพการสกัดของส่วนผสมความเข้มข้นแตกต่างกัน โดยสกัดสารละลายที่ผสมอยู่ในฤทธิ์กรดที่ความเข้มข้น 0.1 % v / v และ 16 % v / v ด้วยน้ำกลั่นทำการวัดความเข้มข้นของกรดอะซิติกของแยกเฟสและล้นทุก 10 นาทีจนความเข้นข้นของ NaOH เริ่มคงที่พบว่าความเข้มข้นของ กรดลดลงเรื่อยๆจนกระทั้งคงที่ the แยกเฟสสามารถละลายเข้าไปในสกัดกรดตัวทำละลาย ( น้ำ ) ได้เป็นจำนวนมากแต่ใช้ปริมาณของสกัดตัวทำละลายเป็นจำนวนน้อยดังนั้นความเข้มข้นของ กรด กรดจึงมีค่าสูงเมื่อเวลาผ่านไปปริมาณของในสารละลายมีน้อยลงสารสกัดจากกรดแต่มีปริมาณของน้ำกลั่นอยู่ในเฟสจำนวนมากทำให้ความเข้มข้นของมีค่าน้อยลงและเมื่อน้ำกลั่นไม่สามารถสกัดได้อีกแล้วความเข้มข้นมีค่าคงที่หรือเป็นจุดระหว่างสมดุลแยกเฟสและแรฟฟิเนทเฟส