In McFarlane’s study, 30 patients u

In McFarlane’s study, 30 patients undergoing major
hepatobiliary or pancreatic surgery were randomly
allocated to receive either sodium chloride 0.9% or
Plasma-lyte at 15 mL/kg/h.
12
Patients receiving sodium
chloride 0.9% had significantly increased chloride
concentration (p < 0.01), decreased standard bicarbonate
concentration (p < 0.01) and increased base deficit (p <
0.01) compared to those receiving Plasma-lyte.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการศึกษาของ McFarlane, 30 ผู้ป่วยผ่าตัดใหญ่
ทั่วไปหรือการผ่าตัดตับอ่อนถูกสุ่ม
รับทั้งโซเดียมคลอไรด์ 0.9% การปันส่วน หรือ
lyte พลาสมาในผู้ป่วย mL/kg/h.
12
15 รับโซเดียม
คลอไรด์ 0.9% ได้เพิ่มคลอไรด์
ไบคาร์บอเนตมาตรฐานลดลงความเข้มข้น (p < 0.01),
เข้มข้น (p < 0.01) และขาดดุลพื้นฐานเพิ่มขึ้น (p <
001) เมื่อเทียบกับพลาสม่า-lyte ผู้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการศึกษา McFarlane ของ 30 ผู้ป่วยที่สำคัญ
หรือการผ่าตัดตับตับอ่อนถูกสุ่ม
ให้ได้รับการจัดสรรทั้งโซเดียมคลอไรด์ 0.9% หรือ
Plasma-lyte ที่ 15 mL / kg / h
12
ผู้ป่วยที่ได้รับโซเดียม
คลอไรด์ 0.9% ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญคลอไรด์
เข้มข้น (p <0.01 ) ลดลงไบคาร์บอเนตมาตรฐาน
ความเข้มข้น (p <0.01) และการขาดดุลที่เพิ่มขึ้นฐาน (p <
0.01) เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับพลาสม่า-lyte

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เมิกฟาร์เลินในการศึกษา 30 การดูแลผู้ป่วยหลักผ่าตัดตับ หรือตับอ่อน

การสุ่มได้รับทั้งโซเดียมคลอไรด์ 0.9% หรือ
พลาสมาไลต์ที่ 15 ml / kg / h .
6

ผู้ป่วยที่ได้รับโซเดียมคลอไรด์ 0.1% อย่างมีนัยสำคัญเพิ่มความเข้มข้นของคลอไรด์
( p < 0.01 ) มาตรฐานไบคาร์บอเนต
สมาธิ ( ลดลง P < 0.01 ) และขาดดุลเพิ่มขึ้นฐาน ( P <
001 ) เมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับพลาสม่าไลต์ .