Objective: To answer the question w

Objective: To answer the question whether dietary strawberry seed oil rich in a-linolenic acid and linoleic acid (29.3 and 47.2% of total fatty acids, respectively) can beneficially affect disorders induced by the consumption of an obesogenic diet.
Design: Thirty-two male Wistar rats were randomly assigned to four groups of eight animals each and fed with a basal or obesogenic (high in fat and low in fiber) diet that contained either strawberry seed oil or an edible rapeseed oil. A two-way analysis of variance was then applied to assess the effects of diet and oil and the interaction between them.
Results: After 8 weeks of feeding, the obesogenic diet increased the body weight and the liver mass and fat content, whereas decreased the cecal acetate and butyrate concentration. This diet also altered the plasma lipid profile and decreased the liver sterol regulatory element-binding protein 1c (SREBP-1c) content. However, the lowest liver SREBP-1c content was observed in rats fed an obesogenic diet containing strawberry seed oil. Moreover, dietary strawberry seed oil decreased the cecal short-chain fatty acid concentrations (acetate, propionate, and butyrate) regardless of the diet type, whereas the cecal b-glucuronidase activity was considerably increased only in rats fed an obesogenic diet containing strawberry seed oil. Dietary strawberry seed oil also lowered the liver fat content, the plasma triglyceride level and the atherogenic index of plasma. Conclusions: Strawberry seed oil has a potent lipid-lowering activity but can unfavorably affect microbial metabolism in the distal intestine. The observed effects are partly due to the synergistic action of the oil and the obesogenic diet.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์: การตอบคำถาม ว่าอาหารสตรอเบอร์รี่น้ำมันเมล็ดอุดมไปด้วยมีไลโนเลนิกรดและกรดไลโนเลอิก (29.3 และ 47.2% ของกรดไขมันทั้งหมด ตามลำดับ) อย่างมีผลต่อโรคที่เกิดจากการบริโภคอาหาร obesogenicออกแบบ: สามสิบสองหนู Wistar เพศชายถูกสุ่มกำหนดให้กลุ่มสี่แปดสัตว์ และเลี้ยง ด้วยที่แรกเริ่ม หรือ obesogenic (ไขมันสูง และต่ำในไฟเบอร์) อาหารที่ประกอบด้วยน้ำมันเมล็ดสตรอเบอร์รี่หรือน้ำมันเมล็ดต้นเรพกิน วิเคราะห์ความแปรปรวนสองทางถูกใช้เพื่อประเมินผลกระทบของอาหาร และน้ำมัน และการโต้ตอบระหว่างกันผลลัพธ์: หลังจาก 8 สัปดาห์ของการให้อาหาร อาหาร obesogenic เพิ่มน้ำหนัก และมวลตับ และ ไขมัน ในขณะที่ลดความเข้มข้นอะซิเตทและบิวทิเรต cecal ขึ้น อาหารนี้ยังเปลี่ยนค่าไขมันพลา และลดตับสเตอรอลบังคับรวมองค์ประกอบโปรตีน 1c (SREBP - 1c) เนื้อหา อย่างไรก็ตาม เนื้อหา SREBP - 1c ตับต่ำสุดที่สังเกตในหนูที่เลี้ยงเป็นอาหาร obesogenic ประกอบด้วยน้ำมันเมล็ดสตอเบอร์รี่ นอกจากนี้ น้ำมันเมล็ดสตรอเบอร์รี่อาหารลดความเข้มข้นของกรดไขมันสายโซ่สั้น cecal (อะซิเตท propionate และบิวทิเรต) โดยไม่คำนึงถึงชนิดอาหาร ในขณะที่กิจกรรม cecal b-glucuronidase ถูกเพิ่มขึ้นในหนูที่เลี้ยงเป็นอาหาร obesogenic ประกอบด้วยน้ำมันเมล็ดสตอเบอร์รี่ อาหารสตรอเบอร์รี่น้ำมันยังลดไขมันตับ ระดับไตรกลีเซอไรด์พลาสมา และดัชนี atherogenic ของพลาสม่า สรุป: น้ำมันเมล็ดสตรอเบอร์รี่มีกิจกรรมลดไขมันที่มีศักยภาพ แต่ unfavorably มีผลต่อการเผาผลาญอาหารจุลินทรีย์ในลำไส้มาก ผลสังเกตได้มีบางส่วนเนื่องจากการทำงานเสริมฤทธิ์กันของน้ำมันและอาหาร obesogenic