As indicated above, neo-classical e

As indicated above, neo-classical economics sees wage differentials as largely caused by differences in the marginal productivities of workers. This presupposes that the firm has some way of measuring the marginal productivity of each worker. As has been observed, in practice this is extremely difficult because of information deficiencies:
● In the case of services, even the definition and measurement of output itself is problematic because of the intangible nature of services.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตามที่ระบุไว้ข้างต้นเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิกเห็นความแตกต่างค่าจ้างเป็นส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างในผลผลิตส่วนเพิ่มของแรงงาน อนุมานนี้ว่า บริษัท มีวิธีการในการวัดผลผลิตส่วนเพิ่มของแต่ละคนบางคน ได้มีการตั้งข้อสังเกตในทางปฏิบัตินี้เป็นเรื่องยากมากเพราะขาดข้อมูล:
●ในกรณีของการบริการ,แม้คำนิยามและการวัดของการส่งออกของตัวเองเป็นตัวปัญหาเพราะของธรรมชาติที่ไม่มีตัวตนของการบริการ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตามที่ระบุข้างต้น เศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิกเห็น differentials ค่าจ้างเป็นส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างใน productivities ส่วนเพิ่มของแรงงาน นี้ presupposes ว่า บริษัทมีบางวิธีการวัดผลกำไรของผู้ปฏิบัติงานแต่ละ มีการตรวจสอบ ในแบบฝึกหัด นี้เป็นเรื่องยากมากเนื่องจากข้อมูลยัง:
●กำหนดบริการ แม้คำนิยามและการวัดผลตัวเองเป็นปัญหา เพราะธรรมชาติไม่มีตัวตนของบริการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามที่ได้อธิบายไว้ด้านบนทางด้านเศรษฐศาสตร์แบบนีโอคลาสสิกจะเห็นความแตกต่างค่าจ้างเป็นส่วนใหญ่เกิดจากความแตกต่างใน productivities เศษของคนงาน โรงแรมแห่งนี้โดยตั้งข้อสมมติฐานไว้ว่าบริษัทที่มีวิธีการบางอย่างของการวัด ประสิทธิภาพ การทำงานหน่วยท้ายสุดของงานแต่ละครั้ง เนื่องจากมีการตั้งข้อสังเกตในการปฏิบัตินี้จะเป็นการยากมากเพราะการขาดข้อมูล:
●ในกรณีของการให้บริการแม้การวัดและความละเอียดของเอาต์พุตของตัวมันเองมีปัญหาเพราะไม่มีรูปร่างของธรรมชาติของการให้บริการ.