In terms of rank, it was true that

In terms of rank, it was true that Climb was beneath them. They probably wished to show their distaste while Renner was not around. Having thought as much, Climb did not show any anger over their behavior.



But what Climb failed to realize was that his thinking spawned a vicious cycle where the maids would misunderstand his expressionless face as him ignoring them, infuriating them further. On the other hand, if he was the type who could notice such a thing then perhaps everything else would have been handled more smoothly.



It was also true for Climb that every time he was in the palace, his nerves would wear away slightly.



Although it went without saying, Renner and Ranpossa III were not the only people living in this palace.



Ugh?!



Speak of the devil, Climb moved to the side of the hallway, straightened his back and stood at attention with his hand over his chest.



Two people were approaching. The one following from behind was a tall, thin man with blond hair brushed behind his head.



Marquis Raeven, one of the six great noble families in the Kingdom.



The problem was the short, fat man walking in front of him. His name was Zanack Valurean Igana Ryle Vaiself, the second prince and second in line for the throne.



Zanack stopped his feet, his chubby face turning into a frown.



“Why, Climb. Are you on your way to show your face to that monster?”



There was only one person Prince Zanack would call a monster. Although he knew it was insolent, Climb could not let it stand.



“Your highness, I’m grateful for your words but Renner-sama is not a monster. She is kind and beautiful, some even call her the Kingdom’s treasure.”



What else could you call someone who got rid of the slave trade and proposed many policies in order to help the citizens? Although the number of them that saw light was small because of the checks in place by the nobles, Climb knew better than anyone else how much she cared for the people.



Every time a policy that would otherwise help the common folk was shot down for foolish reasons like nobles trying to save face, the kind-hearted girl would shed tears in front of him. This man, Zanack, who did not even lift a finger, had no right to say anything.



He was consumed by the desire to shout, to bring down his fist.



Even if they were only half-siblings– these weren’t words that should be said about someone who shared the same blood. However, he could not allow his anger to show.



Renner had said this:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในแง่ของลำดับ มันเป็นความจริงว่า ปีนเป็นพวก พวกเขาคงอยากแสดงเปาโลของพวกเขาในขณะที่คอนดิชั่นเนอร์ไม่ทั่ว มีความคิดมาก ปีนไม่ได้แสดงความโกรธใด ๆ ผ่านพฤติกรรมของพวกเขา แต่ปีนที่ไม่ตระหนัก ว่า ความคิดของเขาเกิดเป็นวงจรที่แม่บ้านที่จะหลงผิดหน้า expressionless เป็นเขาละเลยพวกเขา infuriating พวกเขาต่อไป คง ถ้าเขาเป็นชนิดที่สามารถสังเกตเห็นสิ่งนั้น แล้วบางทีทุกสิ่งทุกอย่างจะได้จัดการได้ราบรื่นขึ้น มันก็จริงสำหรับปีนขึ้นว่า ทุกครั้งที่เขามาอยู่ในวัง เส้นประสาทของเขาจะสวมใส่ออกไปเล็กน้อย ถึงแม้ว่ามันไปโดยไม่บอก คอนดิชั่นเนอร์และ Ranpossa III ได้ไม่เฉพาะบุคคลที่อาศัยอยู่ในพระราชวังนี้ เดลิ พูดของมาร ปีนย้ายไปด้านข้างของห้องโถง ยืดให้ตรงหลังของเขา และยืนให้ความสนใจกับมือของเขาบนหน้าอกของเขา คนสองคนมาใกล้ หนึ่งต่อจากด้านหลังที่สูง บางคนที่ มีผมสีบลอนด์ถูกแปรงหลังศีรษะของเขา มาร์ควิส Raeven ครอบครัวขุนนางดีหกในราชอาณาจักรอย่างใดอย่างหนึ่ง ปัญหาคือ ตัวสั้น ชายอ้วนเดินหน้าเขา ชื่อของเขาคือ Zanack Valurean Igana Ryle Vaiself สองเจ้าชาย และสองในบรรทัดเพื่อราชบัลลังก์ Zanack หยุดเท้าของเขา หน้าอ้วนเปลี่ยนเป็นหน้างอ "ทำไม ปีน ท่านก็จะแสดงใบหน้าของคุณไปที่มอนสเตอร์" มีเพียงบุคคลเดียว Zanack เจ้าจะเรียกมอนสเตอร์ แม้ว่าเขารู้ว่า มันกำเริบ ปีนสามารถปล่อยให้มันเด่น "ฝ่าบาท ฉันขอบคุณสำหรับคำพูดของคุณ แต่คอนดิชั่นเนอร์จาไม่ใช่สัตว์ประหลาด เธอ เป็นประเภทสวยงาม บางแม้สามีของสมบัติ. " มีอะไรที่สามารถเรียกคนที่ได้รับการกำจัดของการค้าทาส และเสนอนโยบายจำนวนมากเพื่อช่วยเหลือประชาชน แม้ว่าจำนวนของพวกเขาที่เห็นแสงขนาดเล็กเนื่องจากการตรวจสอบในสถานที่โดยขุนนาง ปีนรู้ดีกว่าคนอื่นว่าเธอดูแลสำหรับคน ทุกครั้งที่นโยบายที่จะช่วยให้ชาวบ้านทั่วไปมิฉะนั้นถ่ายลงเหตุผลเช่นขุนนางพยายามบันทึกหน้าโง่ สาว kind-hearted จะหลั่งน้ำตาต่อหน้าเขา คนนี้ Zanack ที่ทำไม่ได้ยกนิ้ว มีสิทธิที่จะพูดอะไร เขาใช้ความรู้สึก ต้องตะโกน ลดกำปั้น แม้ว่าพวกเขาเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง-พี่น้อง – เหล่านี้ไม่ได้คำที่ควรกล่าวเกี่ยวกับผู้ที่ร่วมเลือดเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจปล่อยให้ความโกรธของเขาจะแสดง คอนดิชั่นเนอร์ได้กล่าวว่า นี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในแง่ของการจัดอันดับมันเป็นความจริงที่ว่าปีนเป็นภายใต้พวกเขา พวกเขาอาจอยากจะแสดงความไม่พอใจของพวกเขาในขณะที่ไม่ได้ Renner รอบ มีความคิดเท่าปีนไม่ได้แสดงความโกรธใด ๆ ที่มากกว่าพฤติกรรมของพวกเขา. แต่สิ่งที่ปีนไม่ได้ตระหนักก็คือความคิดของเขากลับกลายเป็นวงจรที่แม่บ้านจะเข้าใจผิดใบหน้าอารมณ์ของเขาในฐานะที่เขาไม่สนใจพวกเขาโกรธพวกเขาต่อไป ในทางกลับกันถ้าเขาเป็นคนประเภทที่สามารถสังเกตเห็นสิ่งนั้นแล้วบางทีทุกอย่างอื่นจะได้รับการจัดการอย่างราบรื่นมากขึ้น. มันก็เป็นจริงสำหรับปีนว่าเวลาที่เขาอยู่ในพระราชวังทุกเส้นประสาทของเขาจะสวมใส่ออกไปเล็กน้อย. แม้ว่า มันไปโดยไม่บอก Renner และ Ranpossa III ไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ในพระราชวังนี้. ฮึ ?! พูดของมาร, ปีนย้ายไปอยู่ด้านข้างของห้องโถงยืดหลังของเขายืนอยู่ที่ความสนใจด้วยมือของเขามากกว่าหน้าอกของเขาคนสองคนอยู่ใกล้ หนึ่งต่อไปนี้จากด้านหลังเป็นสูงบางคนที่มีผมสีบลอนด์แปรงด้านหลังศีรษะของเขา. มาร์ควิส Raeven หนึ่งในหกของครอบครัวขุนนางที่ดีในราชอาณาจักร. ปัญหาคือระยะสั้น, คนอ้วนเดินในด้านหน้าของเขา ชื่อของเขาคือ Zanack Valurean Igana Ryle Vaiself เจ้าชายที่สองและครั้งที่สองในสายบัลลังก์. Zanack หยุดเท้าของเขาใบหน้าอ้วนของเขากลายเป็นนิ่ว. "ทำไมปีน คุณอยู่ในทางของคุณจะแสดงใบหน้าของคุณไปยังมอนสเตอร์ที่? " มีเพียงคนเดียวคือเจ้าชาย Zanack จะเรียกมอนสเตอร์ แม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันเป็นอวดดีปีนไม่สามารถปล่อยให้ยืน. "ใต้ฝ่าพระบาทผมขอบคุณสำหรับคำพูดของคุณ แต่ Renner-sama ไม่ได้เป็นสัตว์ประหลาด เธอเป็นคนใจดีและสวยงามบางคนเรียกเธอว่าสมบัติของราชอาณาจักร. " อะไรที่คุณสามารถโทรหาใครสักคนที่ได้กำจัดการค้าทาสและเสนอหลายนโยบายในการที่จะช่วยให้ประชาชนได้หรือไม่ แม้ว่าจำนวนของพวกเขาว่าเห็นแสงไฟมีขนาดเล็กเนื่องจากการตรวจสอบในสถานที่โดยขุนนางปีนรู้ดีกว่าคนอื่นว่าเธอได้รับการดูแลคน. ทุกครั้งที่นโยบายที่อาจจะช่วยให้ชาวบ้านร่วมกันถูกยิงลงสำหรับคนโง่ เหตุผลเช่นขุนนางพยายามที่จะบันทึกใบหน้าหญิงสาวใจดีที่จะหลั่งน้ำตาในด้านหน้าของเขา ชายคนนี้ Zanack ที่ไม่ได้ยกนิ้วมีสิทธิที่จะพูดอะไรไม่มี. เขาถูกครอบงำโดยความปรารถนาที่จะตะโกนเพื่อนำมาลงกำปั้นของเขา. ถึงแม้ว่าพวกเขาเป็นเพียงครึ่ง siblings- เหล่านี้ไม่ได้คำว่า ควรจะกล่าวเกี่ยวกับคนที่ใช้ร่วมกันเลือดเดียวกัน แต่เขาไม่สามารถช่วยให้ความโกรธของเขาที่จะแสดง. Renner ได้กล่าวนี้:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในแง่ของตำแหน่ง มันเป็นเรื่องจริง ที่ปีนอยู่ภายใต้พวกเขา พวกเขาอาจจะต้องการแสดงความรังเกียจของพวกเขาในขณะที่ เรนเนอร์ก็ไม่อยู่ มีความคิดมาก ปีนไม่แสดงความโกรธมากกว่าพฤติกรรมของพวกเขาแต่สิ่งที่ปีนล้มเหลวที่จะตระหนักถึงคือความคิดของเขาเกิดวงจรอุบาทว์ที่แม่บ้านจะเข้าใจผิด ใบหน้าไร้อารมณ์ของเขาขณะที่เขาไม่สนใจพวกเขาโกรธของพวกเขาต่อไป ในทางกลับกัน ถ้าเขาเป็นประเภทที่สามารถสังเกตเห็นเรื่องแบบนี้บางทีทุกอย่างอื่นจะถูกจัดการได้อย่างราบรื่นมากขึ้นมันยังเป็นจริงสำหรับปีนเขาทุกครั้งที่เขาอยู่ในพระราชวัง สมองของเขาจะใส่ไปเล็กน้อยมันไปโดยไม่บอก เรนเนอร์ , และไม่ ranpossa 3 คนเท่านั้นที่อาศัยอยู่ในพระราชวังนี้ฮึ ? !พูดถึงปีศาจ ปีศาจก็ปีนไปด้านข้างของทางเดิน ตรงหลังของเขายืนอยู่ที่ความสนใจกับมือของเขาไปที่หน้าอกของเขาสองคนที่เข้ามา ที่ตามมา คือ สูง ผอม ชายผมทองปัดหลังศีรษะของเขามาร์ค raeven หนึ่งในหกเยี่ยมครอบครัวขุนนางในอาณาจักรปัญหา คือ สั้น ชายอ้วนเดินอยู่ข้างหน้าเขา ชื่อของเขาคือ zanack valurean igana ไรล์ vaiself สององค์ และครั้งที่สองในบรรทัดสำหรับบัลลังก์zanack หยุดเท้าของเขาอ้วน ใบหน้าเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง" ทำไม ปีน คุณอยู่บนทางของคุณเพื่อแสดงใบหน้าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่น "มีคนเดียวเท่านั้นที่เจ้าชาย zanack จะเรียกปีศาจ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่ามันทะลึ่งปีนไม่อาจปล่อยให้มันยืน" องค์หญิง ผมซาบซึ้งกับคำพูดของคุณแต่เรนเนอร์ซามะไม่ใช่สัตว์ประหลาด เธออ่อนโยนและสวยงาม บางคนก็เรียกนางสมบัติของราชอาณาจักร”อะไรที่คุณสามารถเรียกคนที่กำจัดการค้าทาส และเสนอนโยบายหลายอย่างเพื่อช่วยเหลือประชาชน แม้ว่าจำนวนของผู้ที่ได้เห็นแสงเล็กๆ เพราะการตรวจสอบในสถานที่โดยขุนนางปีนรู้ดีกว่าใครเท่าไหร่ เธอแคร์คนทุกครั้งที่มีนโยบายที่อาจจะช่วยให้ประชาชนทั่วไปที่ถูกยิงตกเพราะเหตุผลโง่เหมือนขุนนางพยายามรักษาหน้า สาวใจดี หลั่งน้ำตาต่อหน้าเขา ชายคนนี้ zanack ใครไม่ได้แม้แต่ยกนิ้วไม่มีสิทธิพูดอะไรเขาถูกทำลายโดยความปรารถนาที่จะตะโกน เอาลงกำปั้นของเขาแม้ว่าพวกเขากำลังเพียงครึ่งพี่น้อง–เหล่านี้ไม่ได้ คำที่ควรจะกล่าวเกี่ยวกับผู้ร่วมสายเลือดเดียวกัน อย่างไรก็ตาม เขาอาจไม่ได้ช่วยให้ความโกรธของเขาที่จะแสดงเรนเนอร์ได้กล่าวว่า :