The root mediated allelopathic inte

The root mediated allelopathic interference of Eclipta alba infested soil on growth, physiological
parameters and antioxidant enzyme activity was conducted on Arachis hypogaea L. and vigna radiata L. It
was found that rhizosphere soil significantly reduced the germination percentage, seedling growth and
dry biomass depending upon the species sensitivity. The germination inhibition was correlated with
membrane deterioration as proved by a strong electrolyte leakage, increase in malondialdehyde (MDA)
and H2O2 content. The physiological parameters like chlorophyll content, photosynthetic rate (Pn),
intercellular CO2 concentration (Ci), stomatal conductance (Gs), and transpiration (E) also showed
significant reduction in E. alba infested soil and non-significant increase in leaf temperature (Lt) of two
test species. The test seedlings have circumvented the allelochemicals stress, by both significant decrease
and non-significant increase in the antioxidant activities in E. alba infested soil in contrast to control soil.
Rhizosphere soil contained significantly higher amount of water-soluble phenolics as the putative
allelochemicals, which were vanillic acid, benzoic acid, ferulic acid, and p-coumaric acid. The study
concluded that rhizosphere soil exerts an allelopathic influence on peanut and mung bean by releasing
water soluble phenolic acids as putative allelochemicals in soil.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รากพึ่งรบกวน allelopathic ของอัลบ้า Eclipta
รบกวนดินต่อการเจริญเติบโตทางสรีรวิทยาพารามิเตอร์และกิจกรรมของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระที่ได้ดำเนินการในลิสงลิตรและVigna radiata ลิตรมันก็พบว่าดินบริเวณรากลดเปอร์เซ็นต์การงอกของต้นกล้าเจริญเติบโตและมวลชีวภาพแห้งขึ้นอยู่กับความไวของสปีชีส์ การยับยั้งการงอกของเมล็ดที่ได้รับมีความสัมพันธ์กับการเสื่อมสภาพเป็นเมมเบรนได้รับการพิสูจน์โดยการรั่วไหลของอิเล็กโทรไลแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นใน Malondialdehyde (MDA) และเนื้อหา H2O2 พารามิเตอร์ทางสรีรวิทยาเช่นเนื้อหาคลอโรฟิล, อัตราการสังเคราะห์แสง (Pn) ความเข้มข้นของ CO2 ระหว่างเซลล์ (Ci) conductance ปากใบ (Gs) และการคาย (E) ยังแสดงให้เห็นการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในอีอัลบ้าดินรบกวนและการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญที่ไม่ได้อยู่ในอุณหภูมิใบ( แอล) ของทั้งสองสายพันธุ์ทดสอบ ต้นกล้าทดสอบได้เลี่ยงความเครียด allelochemicals โดยทั้งสองลดลงอย่างมากและการเพิ่มขึ้นที่ไม่สำคัญในการต้านอนุมูลอิสระในอีอัลบ้าดินรบกวนในทางตรงกันข้ามกับการควบคุมดิน. ดินบริเวณรากที่มีปริมาณสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของฟีนอลที่ละลายน้ำได้เป็นสมมุติallelochemicals, ซึ่งเป็นกรด vanillic, กรดเบนโซอิกกรด ferulic และกรดพี coumaric ผลการศึกษาสรุปได้ว่าดินบริเวณรากออกแรงอิทธิพล allelopathic ในถั่วลิสงและถั่วเขียวโดยการปล่อยน้ำที่ละลายน้ำได้กรดฟีนอลเป็นallelochemicals สมมุติในดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ราก ( รบกวนทดสอบของกะเม็งรบกวนดินต่อการเจริญเติบโตและสรีรวิทยา
เอนไซม์สารต้านอนุมูลอิสระ เนื้อหาเกี่ยวกับถั่วลิสงถั่วเขียว
ล. ล. จะพบว่าดินบริเวณรากอย่างมีนัยสำคัญลดความงอกและการเจริญเติบโตของต้นกล้า ,
แห้งชีวมวลขึ้นอยู่กับชนิดความไวการยับยั้งการงอก มีความสัมพันธ์กับการเสื่อมสภาพที่พิสูจน์โดย
เยื่อของอิเล็กโทรไลต์แก่ เพิ่ม ใน มาลอนไดอัลดีไฮด์ ( MDA )
H2O2 และเนื้อหา ในทางสรีรวิทยา เช่น ปริมาณคลอโรฟิลล์ , อัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง ( PN )
intercellular CO2 ความเข้มข้น ( CI ) ของการชัก ( GS ) , และการคายน้ำ ( E ) ยังพบ
ลดลงในลบา ที่รบกวนดิน พบว่าเพิ่มอุณหภูมิของใบ ( LT ) ของการทดสอบสอง
ชนิด ต้นกล้าทดสอบได้หลีกเลี่ยง allelochemicals ความเครียด โดยทั้งสองลดลงอย่างมาก
และไม่เพิ่มขึ้นในกิจกรรมของสารต้านอนุมูลอิสระใน อัลบา ที่รบกวนดินในทางตรงกันข้ามกับ
การควบคุมดินดินบริเวณรากมีปริมาณน้ำสูงกว่าผลซึ่งเป็น allelochemicals
ที่ vanillic acid กรดเบนโซอิก กรดเฟอรูลิก และ p-coumaric กรด การศึกษา
สรุปได้ว่าดินบริเวณราก exerts มีอิทธิพลต่อความหลากหลายในถั่วลิสง และถั่วเขียว โดยปล่อยสารฟีโนลิก กรดที่ละลายน้ำซึ่ง
allelochemicals ในดิน