There was a time in past when the p

There was a time in past when the people of Britain celebrated the end of summer and the beginning of winter on All Hallow's Eve,which is on 31st October. In those days, they thought that bad things always came with the long dark winteer nights, so they built fires which they danced around. They also performed rtuals to keep out evil. There were many people who believed there were ghosts everywhere in winter. Villagers,whose beliefs were vvery simple,thought that if they wore scary costumes and masks after they left their homes after dark,the spooks and monsters that roamed around at night would not recognise them. They also bowls of food outside their houses for these invisible ghouls, thinking this would stop them from tring to get in. Today,the British continue to celebrate this festival,which is now called Halloween,on 31st October. They do this by dressing wearing masks and putting candles inside lanterns made from pumpkins. They leave the lanterns outside to frighten away witches and ghosis,just as people in the past did,but today it is just for fun.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีเวลาในอดีตเมื่อชาวอังกฤษเฉลิมฉลองการสิ้นสุดของฤดูร้อนและต้นฤดูหนาวในทั้งหมด Hallow ของวัน ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคม ในวันเหล่านั้น พวกเขาคิดว่า สิ่งเลวร้ายเสมอมาพร้อมกับคืนมืดยาว winteer เพื่อสร้างไฟที่พวกเขาเต้นรอบ นอกจากนี้พวกเขายังทำ rtuals ให้ความชั่วร้าย มีคนจำนวนมากที่เชื่อว่า มีผีทุกในฤดูหนาว ชาวบ้าน ความเชื่อที่ถูก vvery ง่าย คิดว่า ถ้าพวกเขาสวมน่ากลัวเครื่องแต่งกายและรูปแบบหลังจากที่พวกเขาซ้ายบ้านมหัศจรรย์ spooks และมอนสเตอร์ที่ roamed รอบดึกจะไม่รู้ได้ พวกเขายังชามอาหารนอกบ้านของพวกเขาเหล่านี้มองไม่เห็น ghouls คิดจะหยุดพวกเขาจาก tring รับในการ วันนี้ อังกฤษยังคงฉลองเทศกาลนี้ ซึ่งขณะนี้เรียกว่าฮาโลวีน บน 31 ตุลาคม พวกเขาสามารถทำได้ โดยการแต่งตัวสวมหัวโขนและเทียนย้ายภายในโคมไฟที่ทำจากฟักทอง พวกเขาปล่อยโคมไฟภายนอกหลอกทวิทช์สเก็บและ ghosis เหมือนคนในอดีตไม่ได้ แต่วันนี้ก็เพียงเพื่อความสนุกสนาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีเวลาในอดีตเมื่อมีคนของอังกฤษฉลองการสิ้นสุดของฤดูร้อนและจุดเริ่มต้นของฤดูหนาวบน Hallow ทุกวันซึ่งเป็นวันที่ 31 ตุลาคม ในวันนั้นที่พวกเขาคิดว่าสิ่งที่ไม่ดีมักจะมาพร้อมกับความยาวคืน winteer มืดเพื่อให้พวกเขาสร้างไฟที่พวกเขาเต้นไปรอบ ๆ พวกเขายังดำเนิน rtuals เพื่อให้ออกความชั่วร้าย มีหลายคนที่เชื่อว่ามีผีทุกที่ในฤดูหนาวมี ชาวบ้านที่มีความเชื่อได้ง่าย vvery คิดว่าถ้าพวกเขาสวมเครื่องแต่งกายที่น่ากลัวและมาสก์หลังจากที่พวกเขาออกจากบ้านของพวกเขาหลังจากที่มืด spooks และมอนสเตอร์ที่ท่องไปทั่วในเวลากลางคืนจะไม่รู้จักพวกเขา พวกเขายังชามอาหารนอกบ้านของพวกเขาสำหรับผีปอบที่มองไม่เห็นเหล่านี้คิดว่าเรื่องนี้จะหยุดพวกเขาจาก tring จะได้รับใน. วันนี้อังกฤษยังคงฉลองเทศกาลนี้ซึ่งเรียกว่าตอนนี้ฮัลโลวีเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พวกเขาทำเช่นนี้ด้วยการแต่งกายสวมหน้ากากและวางเทียนภายในโคมไฟที่ทำจากฟักทอง พวกเขาออกจากโคมไฟที่อยู่ด้านนอกจะขู่ไปแม่มดและ ghosis เช่นเดียวกับผู้คนในอดีตไม่ได้ แต่วันนี้มันเป็นเพียงเพื่อความสนุกสนาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีเวลาในอดีตเมื่อผู้คนในอังกฤษ ฉลองการสิ้นสุดของฤดูร้อนและจุดเริ่มต้นของฤดูหนาวในทั้งหมด Hallow อีฟ ซึ่งในวันที่ 31 ตุลาคม ในวันเหล่านั้น พวกเขาคิดว่าสิ่งไม่ดีมักจะมาพร้อมกับสีเข้มยาว winteer คืน ดังนั้นพวกเขาสร้างไฟที่พวกเขาเต้นรำไปรอบ ๆ พวกเขายังแสดง rtuals เก็บเอาความชั่วร้ายมีหลายคนที่เชื่อว่ามีผีทุกที่เลยในฤดูหนาว ชาวบ้านที่มีความเชื่อถูก vvery ง่าย คิดว่าถ้าพวกเขาสวมเครื่องแต่งกายน่ากลัวและหน้ากากหลังจากที่พวกเขาออกจากบ้านของพวกเขาหลังจากที่มืด , ผีและมอนสเตอร์ที่เดินดูรอบๆ ตอนกลางคืนจะไม่รับรู้มัน พวกเขายังชามอาหารนอกบ้านของพวกเขาสำหรับผีที่มองไม่เห็นเหล่านี้ความคิดนี้จะหยุดพวกเขาจาก Tring ที่จะเข้าไป วันนี้ อังกฤษ ยังคงเฉลิมฉลองเทศกาลนี้ซึ่งเรียกว่าตอนนี้วันฮาโลวีน ในวันที่ 31 ตุลาคม พวกเขาทำเช่นนี้โดยการแต่งตัวสวมหน้ากากและใส่เทียนด้านในโคมไฟทำจากฟักทอง พวกเขาปล่อยโคมไฟภายนอกเพื่อขู่หนีแม่มดและ ghosis เช่นเดียวกับผู้คนในอดีตได้ แต่ในวันนี้มันก็แค่เพื่อความสนุกสนาน