The Trans Pacific Partnership (TPP)

The Trans Pacific Partnership (TPP) is the largest trade deal in history currently being negotiated by 12 countries: Canada, Australia, Brunei, Chile, Japan, Malaysia, Mexico, New Zealand, Peru, Singapore, the United States and Vietnam. These countries represent 792 million people and a combined GDP of $27.5 trillion, which accounts for 40 percent of the world economy according to the Office of the United States Trade Representative. The TPP intends to enhance trade and investment among the TPP partner countries, promote innovation, economic growth and development, and support the creation and retention of jobs. Like the majority of international trade deals, the talks are not open to the public and as a result many are concerned about the overwhelming secrecy around this trade deal.

The TPP has received considerable criticism from various sources including global health professionals, internet freedom activists, organized labour, academics, and elected officials. The main areas of criticism included the partnership’s stance on intellectual property rights, agriculture, and human rights.

On November 13, 2013, WikiLeaks released a draft of the TPP that highlights increased intellectual property rights to the point where civil liberties could be legally violated by internet providers. Critics also argue this is a move to provide higher profits for the big pharmaceutical companies. Noam Chomsky states that increased intellectual rights are, in theory, supposed to protect major research and development as well as profit, but the reality is quite different. He affirms that most research and development in the pharmaceutical industry originates from the public sector and is then fed into the private pharmaceutical companies, which implies that increasing intellectual property rights serves to increase pharmaceutical companies’ profits and has little impact on the real research and development done in the public sector.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ห้างหุ้นส่วนทรานส์แปซิฟิก (TPP) เป็นจัดการการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ที่ขณะนี้กำลังเจรจา โดย 12 ประเทศ: แคนาดา ออสเตรเลีย บรูไน ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ประเทศเหล่านี้แสดงถึง 792 ล้านคนและมี GDP รวมของ $27.5 ล้านล้าน ซึ่ง 40% ของเศรษฐกิจโลกตามสำนักงานของพนักงานการค้าของสหรัฐอเมริกา TPP มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศคู่ค้า TPP ส่งเสริมนวัตกรรม การเติบโตทางเศรษฐกิจ และการพัฒนา และสนับสนุนการสร้างและรักษางาน เช่นส่วนใหญ่ของข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศ เจรจาไม่เปิดให้ประชาชน และอีก จำนวนมากมีความกังวลเกี่ยวกับความลับครอบงำรอบ ๆ ข้อตกลงทางการค้านี้TPP ได้รับการวิจารณ์มากจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระดับโลก นักเคลื่อนไหวอิสระอินเทอร์เน็ต จัดระเบียบแรงงาน นักวิชาการ และเลือกเจ้าหน้าที่ พื้นที่หลักของการวิจารณ์รวมท่าทางของหุ้นส่วนทรัพย์สินทางปัญญา เกษตรกรรม และสิทธิมนุษยชนบน 13 พฤศจิกายน 2013, WikiLeaks ปล่อยร่างของ TPP ที่สำคัญสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาการจุดที่เสรีภาพอาจถูกกฎหมายละเมิด โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น นักวิจารณ์โต้เถียงจึงย้ายให้ผลกำไรสูงกว่าบริษัทยาขนาดใหญ่ อเมริกาโนมชัมสกีที่สิทธิทางปัญญาเพิ่มขึ้น เป็น ทฤษฎี ควรจะปกป้องหลักการวิจัย และพัฒนา ตลอดจน กำไร แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างแตกต่าง เขา affirms การวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมเภสัชกรรมส่วนใหญ่มีต้นกำเนิดมาจากภาครัฐ และเป็นแล้วได้รับยาบริษัทเอกชน ซึ่งหมายความว่า การเพิ่มทรัพย์สินทางปัญญาให้บริการเพื่อเพิ่มผลกำไรของบริษัทยา และมีผลกระทบเล็กน้อยที่จริงการวิจัยและพัฒนาในภาครัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทรานส์แปซิฟิก Partnership (TPP) เป็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ในปัจจุบันมีการเจรจาโดย 12 ประเทศ: แคนาดา, ออสเตรเลีย, บรูไน, ชิลี, ญี่ปุ่น, มาเลเซีย, เม็กซิโก, นิวซีแลนด์, เปรู, สิงคโปร์, สหรัฐอเมริกาและเวียดนาม ประเทศเหล่านี้เป็นตัวแทน 792,000,000 คนและจีดีพีรวมของ $ 27500000000000 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40 ของเศรษฐกิจโลกตามที่สำนักงานของสหรัฐอเมริกาผู้แทนการค้า TPP มุ่งมั่นที่จะขยายการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศพันธมิตร TPP, ส่งเสริมนวัตกรรมการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาและสนับสนุนการสร้างและการเก็บรักษาของงาน เช่นเดียวกับส่วนใหญ่ของข้อเสนอการค้าระหว่างประเทศ, การพูดคุยไม่ได้เปิดให้ประชาชนและเป็นผลให้หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับความลับที่ครอบงำรอบข้อตกลงการค้านี้. TPP ได้รับการวิจารณ์อย่างมากจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลกเรียกร้องเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ต จัดงานนักวิชาการและเจ้าหน้าที่การเลือกตั้ง พื้นที่หลักของการวิจารณ์รวมถึงจุดยืนของการเป็นหุ้นส่วนกับสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา, การเกษตร, และสิทธิมนุษยชน. ที่ 13 พฤศจิกายน 2013 ข่าวปล่อยออกมาร่างของ TPP ที่เน้นเพิ่มสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาไปยังจุดที่เสรีภาพอาจถูกละเมิดถูกต้องตามกฎหมายด้วย ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต นักวิจารณ์ยังอ้างนี้เป็นไปเพื่อให้ผลกำไรที่สูงขึ้นสำหรับ บริษัท ยาขนาดใหญ่ รัฐโนมชัมที่เพิ่มขึ้นเป็นสิทธิทางปัญญาในทางทฤษฎีควรจะปกป้องการวิจัยที่สำคัญและการพัฒนาเช่นเดียวกับกำไร แต่ในความเป็นจริงแตกต่างกันมาก เขายืนยันว่าการวิจัยมากที่สุดและการพัฒนาในอุตสาหกรรมยามาจากภาครัฐและจะถูกป้อนเข้าไปใน บริษัท ยาเอกชนซึ่งหมายถึงว่าการเพิ่มสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่ทำหน้าที่ในการเพิ่มผลกำไรของ บริษัท ยาและมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อการวิจัยที่แท้จริงและการพัฒนา ทำในภาครัฐ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หุ้นส่วนทรานส์แปซิฟิก ( TPP ) เป็นข้อตกลงการค้าที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์กำลังเจรจาโดย 12 ประเทศ แคนาดา ออสเตรเลีย บรูไน ชิลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก นิวซีแลนด์ เปรู สิงคโปร์ สหรัฐอเมริกา และเวียดนาม ประเทศเหล่านี้เป็นตัวแทนของ 740 ล้านคน และมี GDP รวมของ $ 27.5 ล้านที่บัญชีสำหรับร้อยละ 40 ของโลกเศรษฐกิจตามสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐสหรัฐอเมริกา . นายกรัฐมนตรีตั้งใจที่จะขยายการค้าและการลงทุนระหว่างหุ้นส่วน TPP ประเทศ ส่งเสริมนวัตกรรม การพัฒนาเศรษฐกิจ และสนับสนุนการสร้างและความคงทนของงาน เช่นเดียวกับส่วนใหญ่ของข้อตกลงการค้าระหว่างประเทศการเจรจายังไม่เปิดให้ประชาชน และเป็นผลให้หลายมีความกังวลเรื่องยุ่งยากการจัดการการค้าความลับรอบนี้

นายกรัฐมนตรีได้รับการวิจารณ์มากจากแหล่งต่างๆ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพทั่วโลก เรียกร้องเสรีภาพทางอินเทอร์เน็ตองค์กรแรงงาน นักวิชาการ และเจ้าหน้าที่ที่ถูกเลือกพื้นที่หลักของการรวมของหุ้นส่วนของสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา การเกษตร และสิทธิมนุษยชน .

ที่ 13 พฤศจิกายน 2013 , Wikileaks ปล่อยร่างของ TPP ที่ไฮไลท์เพิ่มสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ไปยังจุดที่อาจจะละเมิดสิทธิเสรีภาพตามกฎหมาย โดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตนักวิจารณ์โต้แย้งนี้จะย้ายเพื่อให้กำไรที่สูงขึ้นสำหรับบริษัทยายักษ์ใหญ่ แองกลิคันระบุว่าเพิ่มขึ้นทรัพย์สินทางปัญญาอยู่ในทฤษฎีควรที่จะปกป้องการวิจัยหลักและพัฒนาเป็นกำไร แต่ในความเป็นจริงค่อนข้างแตกต่างกันเขายืนยันว่างานวิจัยส่วนใหญ่ และการพัฒนาในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม ที่มาจากภาคประชาชน และจากนั้น อาหาร เป็น ส่วนบุคคล บริษัท เภสัชกรรม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทเภสัชกรรมบริการเพื่อเพิ่มผลกำไรและที่มีผลกระทบน้อยในจริงการวิจัยและพัฒนาในภาคสาธารณะ