How to Be a Natural HelperYou don’t

How to Be a Natural Helper
You don’t need a professional degree to make a positive impact

If you’re like me, you often find yourself wondering how you can best help people who are going through tough times. But, the desire to be helpful is often outweighed by doubts and thoughts of, “I want to help, but I’m not sure how.” There are easy ways to make a positive impact on the lives of people around you.  Being a natural helper takes hardly any experience - only an attentive ear and a kind heart.
The Life Paths Research Program asked nearly 200 people to share high and low points of their lives. We found a few patterns in the stories they told: many people told of others reaching out to help them during challenging times. Participants commonly mentioned several types of adversity, including the death of someone they knew (12.2%), personal health problems (10.5%), financial problems (9.3%), job-related and/or academic challenges (8.1%), family adversity, such as the divorce of one’s parents (8.1%), and personal substance abuse (7.6%).
We found that 71.5% of people said that when they were faced with these and other adversities, they received help from another person. If you do not have a professional healthcare-related license, you may be thinking that you would be incapable of assisting with these problems. Surely the majority of these complicated and heavy issues were being addressed by professionals and community leaders.  

Nope.
People most often received help from:
Family members (41.1%)
Friends and peers (19.2%)
Only 8.7% of people claimed that they were helped by a therapist or other professional, 5.2% by a mentor, pastor, or coach, and 4.1% by school personnel.
Most importantly, 52.3% of people said that the help they received came in the form of friendly conversations, guidance, and demonstrations of loyalty and commitment. So, when people share personal experiences with friends and family, they often find themselves better equipped to cope with the difficult situation at hand. While professional helpers, such as doctors and therapists, can be very helpful, people report positive results even if the listener does not hold a professional degree or job title. For example, when one person was asked to describe the lowest point in her life, she responded with this comment:
            “[The lowest point] as far as being the saddest…was when my…daughter died. …When she died…the grief was so bad that…I was having to remind myself to breathe because I thought that I could easily just vanish at that moment. …But how I coped was I had so many other wonderful people in my life…. …It’s kind of like the wind beneath your wings,…I mean I felt like…they were breathing for me at that moment and…they kept me going. …Sometimes I thought my heart’s beating because I’ve got all these other people and so that’s really how I coped is just really relying…and remembering…how grateful and thankful I was for everybody else that I had and all the love and the support from not only our family, but from friends and people I didn’t even know.”
Dr. Hamby has told me, “The way the field of psychology often tells people to handle adversity is not always how we ourselves would handle such situations.”  In other words, though some instances may require professional attention, a meaningful conversation with a friend or family member may be exactly what someone needs to jumpstart the healing process. So, when someone comes to you for help with their personal challenges, don’t write yourself off as inexperienced or as unable to help. Instead, be an impactful, natural helper and simply listen to their story; it’s a meaningful way to show your loyalty and support that may ultimately help them overcome the adversity they face.
Learn more about the Life Paths Research Program at http://lifepathsresearch.org
(link is external)
(link is external). This study was conducted by Sherry Hamby, Victoria Banyard, and John Grych and the interviews described here were coded by Life Paths interns Elise Anderson, Zach Blount, Emily Christner, and Jemi Senoga.
This project was made possible through the support of a grant from the John Templeton Foundation. The opinions expressed in this paper are those of the authors and do not necessarily reflect the views of the John Templeton Foundation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิธีที่จะ ช่วยเหลือธรรมชาติคุณไม่จำเป็นต้องระดับมืออาชีพจะทำให้ผลกระทบถ้าคุณชอบฉัน คุณมักจะพบว่าคุณสงสัยว่า คุณสามารถที่ดีที่สุดช่วยคนที่จะผ่านเวลาที่ยาก แต่ ความต้องการมักเป็น outweighed ด้วยความสงสัยและความคิดของ, "อยากช่วย แต่ฉันไม่แน่ใจว่า" มีวิธีง่าย ๆ ในการทำให้ชีวิตของผู้คนรอบข้างคุณ การช่วยเหลือธรรมชาติจะไม่มีประสบการณ์ - เฉพาะหูมาหัวใจดีขึ้นโปรแกรมวิจัยเส้นทางชีวิตขอร่วมสูงต่ำจุดของชีวิตเกือบ 200 คน เราพบรูปแบบบางอย่างในเรื่องราวที่พวกเขาบอก: หลายคนบอกว่า ของคนอื่นถึงจะช่วยพวกเขาในช่วงเวลาที่ท้าทาย คนทั่วไปกล่าว ร้าย รวมถึงการตายของคนเหล่านั้นรู้ (12.2%), ปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล (10.5%), ปัญหาทางการเงิน (9.3%), ความท้าทายที่เกี่ยวข้อง กับงาน หรือการศึกษา (8.1%) ครอบครัว ร้าย เช่นการหย่าร้างของพ่อแม่ (8.1%), และละเมิดสิทธิสารส่วนบุคคล (7.6%) หลายชนิดเราพบว่า 71.5% คนกล่าวว่า เมื่อพวกเขาได้พบเจอกับสิ่งเหล่านี้และอื่น ๆ adversities ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลอื่น ถ้าคุณไม่มีใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมืออาชีพ คุณอาจจะคิดว่า คุณจะเป็นหมันให้ความช่วยเหลือกับปัญหาเหล่านี้ แน่นอน ส่วนใหญ่ปัญหาเหล่านี้ซับซ้อน และหนักได้ถูกส่ง โดยผู้เชี่ยวชาญและผู้นำชุมชน Nopeคนส่วนใหญ่มักจะได้รับความช่วยเหลือจาก:สมาชิกในครอบครัว (ร้อยละ 41.1) เพื่อนและเพื่อน (19.2%)เพียง 8.7% ของคนที่อ้างว่า พวกเขาได้ช่วยเหลือ โดยการบำบัดโรคหรืออื่น ๆ มืออาชีพ 5.2% โดยปรึกษา ศิษยาภิบาล หรือโค้ช และ 4.1% บุคลากรโรงเรียนสำคัญ 52.3% ของคนที่กล่าวว่า พวกเขาได้รับความช่วยเหลือมาในรูปของบทสนทนาที่เป็นกันเอง แนะนำ และสาธิตของสมาชิกและความมุ่งมั่น ดังนั้น เมื่อคนแชร์ประสบการณ์ส่วนตัวกับเพื่อนและครอบครัว พวกเขามักจะพบตัวเองดีขึ้น พร้อมจะรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากที่ ในขณะที่ผู้ช่วยมืออาชีพ แพทย์และนักบำบัด มีประโยชน์มาก คนรายงานผลบวกแม้ว่าจะฟังที่ถือตำแหน่งงานหรือระดับมืออาชีพ ตัวอย่าง เมื่อคนถูกถามให้อธิบายจุดต่ำสุดในชีวิตของเธอ เธอตอบมา: " [จุดต่ำ] เท่ากำลังเศร้า...ได้เวลาของฉัน...ลูกสาวเสียชีวิต … เมื่อเธอตาย...ความเศร้าโศกที่ถูกเลวที่... ผมมีเพื่อเตือนตัวเองหายใจ เพราะฉันคิดว่า ฉันง่ายเพียงสามารถสูญที่ขณะนั้น … แต่วิธีผม coped ผมนั้นยอดเยี่ยมคนอื่น ๆ ในชีวิตของฉัน...... เป็นชนิดเช่นลมใต้ปีกของคุณ, ... ผมหมายถึง ผมรู้สึกเหมือน...พวกเขาได้หายใจสำหรับฉันที่ and. ขณะที่... พวกเขาเก็บฉันไป … บางครั้งฉันคิดว่า หัวใจของฉันตีได้ทั้งหมดเหล่านี้บุคคลอื่น และ เพื่อให้เป็นจริง ๆ วิธีฉัน coped เป็นเพียงจริง ๆ อาศัย...และจดจำ...ขอบคุณ และขอบคุณผมทุกคนอื่นที่มีความรัก และการสนับสนุน จากครอบครัวของเราไม่เพียงแต่ แต่ จากเพื่อนและคนที่ฉันไม่ได้รู้วิธีการ "ดร.แฮมบี้ได้บอก "วิธีการด้านจิตวิทยามักจะบอกคนที่จะจัดการกับความทุกข์ยากไม่เสมอว่าเราเองจะจัดการ กับสถานการณ์ดังกล่าว" ในคำอื่น ๆ แต่บางกรณีอาจต้องใช้มืออาชีพความสนใจ การสนทนามีความหมายกับเพื่อน หรือสมาชิกในครอบครัวอาจจะ ว่าอะไรคนต้อง jumpstart กระบวนการรักษา ดังนั้น เมื่อมีคนมาให้คุณสำหรับความช่วยเหลือของพวกเขาความท้าทายส่วนตัว ไม่ตัดเองเป็นมือใหม่ หรือว่าสามารถช่วย สามารถแทน impactful ผู้ช่วยเหลือธรรมชาติ และเพียงแค่ฟังเรื่องราวของพวกเขา มันเป็นวิธีมีความหมายในการแสดงของสมาชิกและสนับสนุนที่สุดช่วยให้เอาชนะความทุกข์ยากที่พวกเขาเผชิญกับเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมการวิจัยเส้นทางชีวิตที่ http://lifepathsresearch.org(เชื่อมโยงอยู่ภายนอก)(เชื่อมโยงอยู่ภายนอก) การศึกษานี้ได้ดำเนินการ โดยแฮมบี้เชอร์รี่ วิคตอเรีย Banyard และจอห์น Grych และการสัมภาษณ์ต่อเข้ารหัส โดยฝึกหัดคนเส้นทางชีวิต Elise แอนเดอร์สัน ฮิลตัน Blount, Emily Christner และ Jemi Senogaโครงการนี้ทำโดยการสนับสนุนเป็นเงินช่วยเหลือจากมูลนิธิจอห์นเทมเปิลตัน ความคิดเห็นที่แสดงในเอกสารนี้เป็นของผู้เขียน และไม่จำเป็นต้องสะท้อนมุมมองของมูลนิธิจอห์นเทมเปิลตัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการเป็นผู้ช่วยธรรมชาติคุณไม่จำเป็นต้องมีการศึกษาระดับปริญญามืออาชีพเพื่อให้ผลกระทบเชิงบวกถ้าคุณชอบฉันคุณมักจะพบว่าตัวเองสงสัยว่าคุณที่ดีที่สุดสามารถช่วยคนที่กำลังจะผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ความปรารถนาที่จะเป็นประโยชน์ในแง่เป็นมักจะสงสัยและคิดว่า "ผมต้องการที่จะช่วย แต่ผมไม่แน่ใจว่า." มีวิธีการที่ง่ายที่จะทำให้ส่งผลดีต่อชีวิตของผู้คนรอบ ๆ ตัวคุณมี เป็นผู้ช่วยที่เป็นธรรมชาติแทบจะไม่ต้องใช้ประสบการณ์ใด ๆ -. เพียงหูใส่ใจและหัวใจชนิดเส้นทางชีวิตโครงการวิจัยถามเกือบ200 คนที่จะแบ่งปันจุดสูงและต่ำของชีวิตของพวกเขา เราพบไม่กี่รูปแบบในเรื่องที่พวกเขาบอกว่า: หลายคนบอกว่าของคนอื่น ๆ เอื้อมมือออกไปช่วยให้พวกเขาในช่วงเวลาที่ท้าทาย ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยทั่วไปที่กล่าวถึงหลายประเภทของความทุกข์ยากรวมถึงการตายของคนที่พวกเขารู้ว่า (12.2%) ปัญหาสุขภาพส่วนบุคคล (10.5%) ปัญหาทางการเงิน (9.3%) ที่เกี่ยวข้องกับงานและ / หรือความท้าทายทางวิชาการ (8.1%) ความทุกข์ยากของครอบครัว เช่นการหย่าร้างของพ่อแม่ของคน (8.1%) และสารเสพติดส่วนบุคคล (7.6%). เราพบว่า 71.5% ของคนที่บอกว่าตอนที่พวกเขาต้องเผชิญกับความลำบากเหล่านี้และอื่น ๆ ที่พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น หากคุณไม่ได้มีใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพมืออาชีพที่คุณอาจจะคิดว่าคุณจะมีความสามารถในการให้ความช่วยเหลือกับปัญหาเหล่านี้ แน่นอนส่วนใหญ่ของปัญหาเหล่านี้ที่มีความซับซ้อนและหนักได้ถูกแก้ไขโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้นำชุมชน.   Nope. คนช่วยเหลือส่วนใหญ่ที่ได้รับมักจะมาจาก: สมาชิกในครอบครัว (41.1%) เพื่อนและเพื่อนร่วมงาน (19.2%) มีเพียง 8.7% ของคนที่อ้างว่าพวกเขาได้รับความช่วยเหลือ โดยนักบำบัดโรคหรืออื่น ๆ ที่เป็นมืออาชีพ 5.2% โดยการให้คำปรึกษาบาทหลวงหรือโค้ชและ 4.1% โดยบุคลากรของโรงเรียน. สิ่งสำคัญที่สุดคือ 52.3% ของคนที่บอกว่าช่วยให้พวกเขาได้รับมาในรูปแบบของการสนทนาที่เป็นมิตรคำแนะนำและสาธิต ของความจงรักภักดีและความมุ่งมั่น ดังนั้นเมื่อมีคนแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวกับเพื่อนและครอบครัวของพวกเขามักจะพบว่าตัวเองได้ดีขึ้นพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบากที่อยู่ในมือ ในขณะที่ผู้ช่วยเหลือระดับมืออาชีพเช่นแพทย์และนักบำบัดจะมีประโยชน์มากคนรายงานผลในเชิงบวกแม้ว่าฟังไม่ได้ถือในระดับมืออาชีพหรือตำแหน่งงาน ตัวอย่างเช่นเมื่อคนคนหนึ่งก็ขอให้อธิบายถึงจุดต่ำสุดในชีวิตของเธอเธอตอบกับเรื่องนี้ไม่มีความคิดเห็น:             "[จุดต่ำสุด] เท่าที่เป็นที่เศร้าที่สุด ... คือ ... เมื่อลูกสาวของฉันเสียชีวิต ... เมื่อเธอเสียชีวิต ... ความเศร้าโศกไม่ดีเพื่อให้ ... ฉันต้องเตือนตัวเองในการหายใจเพราะฉันคิดว่าฉันได้อย่างง่ายดายเพียงแค่หายไปในขณะนั้น ... แต่วิธีที่ผมรับมือเป็นฉันมีจำนวนมากดังนั้นคนที่ยอดเยี่ยมอื่น ๆ ในชีวิตของฉัน ... ... มันเหมือนลมใต้ปีกของคุณ ... ฉันหมายความว่าฉันรู้สึกเหมือน ... ที่พวกเขากำลังหายใจสำหรับฉันในขณะนั้นและ ... พวกเขาจะเก็บไว้ฉัน ... บางครั้งผมคิดว่าการเต้นหัวใจของฉันเพราะฉันมีสิ่งเหล่านี้คนอื่น ๆ และเพื่อให้เป็นจริงๆว่าผมรับมือเป็นเพียงจริงๆอาศัย ... และความทรงจำ ... วิธีการขอบคุณและขอบคุณผมเป็นสำหรับคนอื่น ๆ ที่ฉันมีและความรักและการสนับสนุน จากไม่เพียง แต่ครอบครัวของเรา แต่จากเพื่อนและคนที่ผมไม่ได้รู้ว่า. "ดร. Hamby ได้บอกผมว่า "ทางด้านของจิตวิทยามักจะบอกคนที่จะจัดการกับความทุกข์ยากไม่เสมอว่าพวกเราจะจัดการกับสถานการณ์ดังกล่าว." ในคำอื่น ๆ แม้ว่าบางกรณีอาจจะต้องให้ความสนใจเป็นมืออาชีพ, การสนทนาที่มีความหมายกับเพื่อนหรือครอบครัว สมาชิกอาจจะเป็นสิ่งที่คนต้องการที่จะเริ่มต้นอย่างรวดเร็วกระบวนการบำบัด ดังนั้นเมื่อมีคนมาให้คุณสำหรับความช่วยเหลือเกี่ยวกับความท้าทายส่วนตัวของพวกเขาไม่ได้เขียนออกมาเป็นตัวเองที่ไม่มีประสบการณ์หรือไม่สามารถที่จะช่วยให้ แต่จะมีผลกระทบผู้ช่วยธรรมชาติและก็ฟังเรื่องราวของพวกเขา; มันเป็นวิธีที่มีความหมายที่จะแสดงความจงรักภักดีและการสนับสนุนของคุณว่าในท้ายที่สุดอาจจะช่วยให้พวกเขาเอาชนะความยากลำบากที่พวกเขาเผชิญ. เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางชีวิตของโครงการวิจัยที่ http://lifepathsresearch.org (ลิงค์ภายนอก) (ลิงค์ภายนอก) การศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการโดยเชอร์รี่ Hamby วิกตอเรีย Banyard และจอห์น Grych และการสัมภาษณ์ที่อธิบายที่นี่ได้รับการเขียนโดยฝึกงานเส้นทางชีวิตเอลิเซ่เดอร์สัน, ซัค Blount เอมิลี่ Christner และ Jemi Senoga. โครงการนี้ได้ทำไปได้ผ่านการสนับสนุนของทุนจาก จอห์นเทมเปิลมูลนิธิ ความคิดเห็นที่แสดงออกในเอกสารนี้เป็นของผู้เขียนและไม่จำเป็นต้องสะท้อนมุมมองของจอห์นเทมเปิลมูลนิธิ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิธีที่จะเป็นผู้ช่วยธรรมชาติ
คุณไม่จำเป็นต้องปริญญาวิชาชีพให้

บวกผลกระทบถ้าคุณเป็นเช่นฉัน , คุณมักจะพบตัวเองสงสัยว่าวิธีที่ดีที่สุดคุณสามารถช่วยคนที่กำลังจะผ่านเวลาที่ยากลำบาก แต่ความปรารถนาที่จะเป็นประโยชน์มักจะเป็นนิเวศโดยความสงสัยและความคิดของ " ฉันต้องการที่จะช่วย แต่ผมไม่แน่ใจว่ายังไง" มันเป็นวิธีที่ง่ายที่จะทำให้ผลกระทบเชิงบวกในชีวิตของผู้คนรอบ ๆตัวคุณ ไหมเป็นผู้ช่วยธรรมชาติใช้เวลาแทบจะไม่ได้มีประสบการณ์ใด ๆ - เพียงใส่ใจในหู และจิตใจดี
เส้นทางชีวิตวิจัยโปรแกรมถามเกือบ 200 คน เพื่อแบ่งแต้มสูงและต่ำของชีวิตของพวกเขา เราพบหลายรูปแบบในเรื่องราวของพวกเขาว่าหลายคนบอกคนอื่นถึงออกเพื่อช่วยให้พวกเขาในความท้าทายครั้ง ผู้ที่มักกล่าวถึงหลายประเภทของภัยพิบัติ รวมถึงการเสียชีวิตของคนรู้จัก ( 12.2 % ) ปัญหาสุขภาพ ( 10.5% ) , ปัญหาทางการเงิน ( 9.3% ) และ / หรืองานที่เกี่ยวข้องกับความท้าทาย ( 8.1% ) ทุกข์ในครอบครัว เช่น การหย่าร้างของพ่อแม่ ( 8.1% ) และสาร ละเมิดส่วนบุคคล
( 7.6% )เราพบว่า 71.5 % ของผู้ที่กล่าวว่า เมื่อพวกเขาต้องเผชิญกับมรสุมชีวิตอื่น ๆเหล่านี้และพวกเขาได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลอื่น ถ้าคุณไม่ได้เป็นมืออาชีพการดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับใบอนุญาตที่คุณอาจจะคิดว่าคุณจะสามารถให้ความช่วยเหลือกับปัญหาเหล่านี้ แน่นอนส่วนใหญ่ของปัญหาที่ซับซ้อนและหนักเหล่านี้ถูกเขียนโดยผู้เชี่ยวชาญและผู้นำชุมชนรึเปล่า

ม่าย
คนส่วนใหญ่มักจะได้รับความช่วยเหลือจาก :
( 41.1 เปอร์เซ็นต์ ) สมาชิกในครอบครัวเพื่อนและเพื่อนร่วมงาน
 ( 19.2 ) %
เพียง 8.7 % ของผู้ที่อ้างว่าพวกเขาจะช่วยโดยการ therapist มืออาชีพ หรือ อื่น ๆ , 5.2 % โดยที่ปรึกษา บาทหลวง หรือโค้ช และ 4.1% โดยบุคลากรในโรงเรียน
ที่สำคัญ 6 % ของผู้ที่กล่าวว่า ช่วยให้พวกเขาได้รับกลับมาในรูปแบบของบทสนทนาที่เป็นมิตร , การแนะแนวและแสดงออกถึงความจงรักภักดี และความผูกพัน ดังนั้น เมื่อมีคนแบ่งปันประสบการณ์ส่วนตัวกับเพื่อนและครอบครัวที่พวกเขามักจะพบตัวเองการติดตั้งดีกว่าที่จะรับมือกับสถานการณ์ในมือ ขณะที่ผู้ช่วยมืออาชีพเช่นแพทย์และนักกายภาพบำบัด ได้ประโยชน์มาก คนรายงานผลเป็นบวก ถ้าผู้ฟังไม่ถือปริญญาวิชาชีพหรือชื่องาน ตัวอย่างเช่นเมื่อคนถูกถามเพื่ออธิบายถึงจุดที่ต่ำที่สุดในชีวิตของเธอ เธอตอบสนองกับความคิดเห็นนี้ :
            " [ ] จุดต่ำสุดเท่าที่จะเศร้ามาก . . . . . . . เมื่อลูกสาวตาย . . . . . . . ตอนที่เธอตาย . . . . . . . ความเศร้าชะมัดเลย . . . . . . . ฉันมีเพื่อเตือนให้ตัวเองหายใจ เพราะฉันคิดว่าฉันอาจจะหายไปในช่วงเวลานั้น. . . . . . . แต่ฉันรับมือมันได้ผู้คนที่แสนวิเศษอื่น ๆในชีวิต . . . . . . . . . . . . . . มันก็เหมือนกับลมใต้ปีก . . . . . ฉันหมายถึงฉันรู้สึกเหมือน . . . . . . . มีการหายใจสำหรับฉันในตอนนั้น และ . . . พวกเขาไปเรื่อยๆ. . . . . . . บางครั้งฉันคิดว่าหัวใจของฉันมันเต้นเพราะผมมีคนอื่น ๆ ทั้งหมดเหล่านี้และดังนั้นมันจริงๆว่า รับมือได้จริงๆ และได้อาศัย . . . . . . . . . . . . ขอบคุณและฉันรู้สึกขอบคุณทุกคนที่ฉันและทุกความรักและการสนับสนุนจากครอบครัวของเราไม่เพียง แต่จากเพื่อนและคนที่ฉันไม่รู้ว่า "
หมอแฮมบี้ก็บอกฉัน" ทางด้านจิตวิทยามักจะบอกผู้คนจัดการกับความทุกข์ยากไม่เสมอว่าตัวเราเองจะจัดการกับสถานการณ์เช่น " อะไรในคำอื่น ๆแม้ว่าบางกรณีอาจต้องการความสนใจมืออาชีพ , การสนทนาที่มีความหมายกับเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวอาจเป็นสิ่งที่คนต้องการที่จะเริ่มต้นกระบวนการบำบัด ดังนั้นเมื่อมีคนมาช่วยคุณกับความท้าทายส่วนตัวของตน อย่าเขียนเองจากประสบการณ์หรือที่ไม่สามารถช่วยอะไรได้ แทน เป็นสุดยอดผู้ช่วยธรรมชาติและเพียงแค่ฟังเรื่องราวของพวกเขา มันเป็นวิธีที่มีความหมายเพื่อแสดงความจงรักภักดี และการสนับสนุนที่ในที่สุดอาจช่วยให้พวกเขาเอาชนะความทุกข์ยากที่พวกเขาเผชิญ .
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิถีชีวิต โครงการวิจัยที่  http :/ / lifepathsresearch . org
( การเชื่อมโยงภายนอก )
( การเชื่อมโยงภายนอก ) การศึกษานี้ดำเนินการโดย เชอร์รี่ แฮมบี้ วิคตอเรีย banyard และจอห์น grych และสัมภาษณ์อธิบายไว้ที่นี่เป็นรหัสโดยชีวิตเส้นทางฝึกงานเอลิเซ่ แอนเดอร์สัน แซค Blount , เอมิลี่ christner และ jemi senoga .
โครงการนี้ทำให้เป็นไปได้โดยการสนับสนุนทุนจากมูลนิธิจอห์น Templeton .ความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นของผู้เขียนและไม่ได้สะท้อนถึงมุมมองของมูลนิธิจอห์น Templeton .