BACKGROUND: High levels of cadmium

BACKGROUND: High levels of cadmium exposure are known to cause emphysema in occupationally
exposed workers, but little has been reported to date on the association between chronic environmental
cadmium exposure and pulmonary function.
OBJECTIVE: In this study we examined the association between pulmonary function and cadmium
body burden in a subcohort of the Normative Aging Study, a community-based study of aging.
METHODS: We examined 96 men who had cadmium measured in single 24-hr urinary specimens
collected in 1994–1995 and who had one to three tests of pulmonary function between 1994 and
2002 (a total of 222 observations). We used mixed-effect models to predict pulmonary function
based on individual 24-hr urinary cadmium output, adjusted for age, height, time elapsed from the
baseline, and smoking status. We assessed effect modification by smoking status.
RESULTS: Among all subjects, a single log-unit increase in baseline urinary cadmium was inversely
associated with forced expiratory volume in 1 sec (FEV1) percent predicted [β = –7.56%; 95% confidence
interval (CI) –13.59% to –1.53%]; forced vital capacity (FVC) percent predicted (β =
–2.70%; 95% CI –7.39% to 1.99%), and FEV1/FVC ratio (β = –4.13%; 95% CI –7.61% to
–0.66%). In models including an interaction between urinary cadmium and smoking status, there
was a graded, statistically significant reduction in FEV1/FVC ratio across smoking status in association
with urinary cadmium.
CONCLUSIONS: This study suggests that chronic cadmium exposure is associated with reduced pulmonary
function, and cigarette smoking modifies this association. These results should be interpreted
with caution because the sample size is small, and further studies are needed to confirm our findings.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: แคดเมียมสัมผัสระดับสูงเป็นที่รู้จักกันทำให้เกิดภาวะอวัยวะใน occupationallyผู้ปฏิบัติงานสัมผัส แต่น้อยได้รับรายงานวันในความสัมพันธ์ระหว่างโรคสิ่งแวดล้อมสัมผัสแคดเมียมและฟังก์ชันระบบทางเดินหายใจวัตถุประสงค์: ในการศึกษานี้ เราตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างฟังก์ชันระบบทางเดินหายใจและแคดเมียมภาระร่างกายใน subcohort ของ Normative อายุการศึกษา การศึกษาชุมชนของริ้วรอยวิธีการ: เราตรวจสอบ 96 คนที่มีแคดเมียมในเดียว 24 ชั่วโมงท่อปัสสาวะไว้เป็นตัวอย่างในปี 1994 – 1995 และผู้ทดสอบ 1-3 ของฟังก์ชันระบบทางเดินหายใจระหว่างปี 1994 และ2002 (รวม 222 สังเกต) เราใช้ลักษณะผสมแบบจำลองเพื่อทำนายฟังก์ชันระบบทางเดินหายใจตามผลผลิตแคดเมียมท่อปัสสาวะ 24 ชั่วโมงละ อายุ ส่วนสูง ปรับเวลาผ่านไปจากการพื้นฐาน และสถานะการสูบบุหรี่ เราประเมินผลปรับเปลี่ยนตามสถานะการสูบบุหรี่ผลลัพธ์: ในเรื่องทั้งหมด เพิ่มล็อกหน่วยเดียวในพื้นฐานท่อปัสสาวะแคดเมียมถูก inverselyเกี่ยวข้องกับบังคับเสียง expiratory ใน 1 วินาที (FEV1) เปอร์เซ็นต์คาดการณ์ [β = –7.56% ความเชื่อมั่น 95%ช่วง (CI) –13.59% –1.53%]; เปอร์เซ็นต์ความจุชีพบังคับ (FVC) ทำนาย (β =– 2.70% 95% CI –7.39% 1.99%), และอัตราส่วน FEV1/FVC (β = –4.13%; 95% CI –7.61%–0.66%) ในรูปแบบรวมถึงการโต้ตอบระหว่างท่อปัสสาวะแคดเมียมและบุหรี่สถานะ มีมีอัตราส่วน FEV1/FVC ลดอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ มีการจัดระดับในสถานะการสูบบุหรี่ในสมาคมมีแคดเมียมท่อปัสสาวะบทสรุป: การศึกษานี้แนะนำว่า สัมผัสแคดเมียมเรื้อรังร่วมด้วยลดลงระบบทางเดินหายใจฟังก์ชัน และการสูบบุหรี่ปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์นี้ ผลลัพธ์เหล่านี้ควรจะตีความด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากขนาดตัวอย่างขนาดเล็ก และการ ศึกษามีความจำเป็นเพื่อยืนยันผลการวิจัยของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภูมิหลัง: ระดับสูงของการเปิดรับแคดเมียมเป็นที่รู้จักกันที่จะทำให้เกิดถุงลมโป่งพองในอาชีพ
คนงานสัมผัส แต่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ได้รับรายงานถึงวันที่ความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งแวดล้อมเรื้อรัง
การสัมผัสแคดเมียมและการทำงานของปอด.
มีวัตถุประสงค์ในการศึกษานี้เราตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างการทำงานของปอดและแคดเมียม
ภาระในร่างกาย subcohort ของการศึกษาอายุกฎเกณฑ์การศึกษาชุมชนตามของริ้วรอย.
นักวิจัยตรวจสอบ 96 คนที่วัดแคดเมียมในตัวอย่างปัสสาวะตลอด 24 ชั่วโมงเดียว
เก็บใน 1994-1995 และผู้ที่มีหนึ่งถึงสามการทดสอบของปอด ฟังก์ชั่นระหว่างปี 1994 และ
2002 (รวม 222 สังเกต) เราใช้ตัวแบบผสมที่จะคาดการณ์ผลกระทบการทำงานของปอด
ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลตลอด 24 ชั่วโมงส่งออกแคดเมียมปัสสาวะปรับอายุความสูง, เวลาที่ผ่านไปจาก
พื้นฐานและสถานะการสูบบุหรี่ เราประเมินผลกระทบการปรับเปลี่ยนตามสถานะการสูบบุหรี่.
ผล: ในบรรดาทุกวิชาที่เพิ่มเข้าสู่ระบบในเครื่องเดียวแคดเมียมปัสสาวะพื้นฐานได้รับการผกผัน
ที่เกี่ยวข้องกับปริมาณการหายใจบังคับใน 1 วินาที (FEV1) คาดการณ์ร้อยละ [β = -7.56%; ความเชื่อมั่น 95%
ช่วงเวลา (CI) -13.59% ถึง -1.53%]; บังคับให้กำลังการผลิตที่สำคัญ (FVC) คาดการณ์ร้อยละ (β =
-2.70%; 95% CI -7.39% ถึง 1.99%) และอัตราส่วน FEV1 / FVC (β = -4.13%; 95% CI -7.61% ถึง
-0.66%) ในรูปแบบรวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างแคดเมียมปัสสาวะและสถานะการสูบบุหรี่มี
ได้รับการจัดลำดับการลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติใน FEV1 / FVC อัตราส่วนข้ามสถานะการสูบบุหรี่ในการเชื่อมโยง
กับแคดเมียมปัสสาวะ.
สรุปการศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการได้รับแคดเมียมเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับปอดลดลง
ฟังก์ชั่น การสูบบุหรี่และปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์นี้ ผลลัพธ์เหล่านี้ควรจะตีความ
ด้วยความระมัดระวังเพราะขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่มีขนาดเล็กและการศึกษาต่อที่มีความจำเป็นเพื่อยืนยันการค้นพบของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง : ระดับแคดเมียมเป็นที่รู้จักกันเพื่อทำให้เกิดโรคถุงลมโป่งพองในทางอาชีพ
เปิดรับคนงาน แต่ได้รับรายงานว่าวันที่ความสัมพันธ์ระหว่างการเปิดรับเรื้อรังสิ่งแวดล้อม
แคดเมียมและสมรรถภาพปอด .
วัตถุประสงค์ในการศึกษานี้เราตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสมรรถภาพปอดและแคดเมียม
ตัวภาระใน subcohort การศึกษาอายุเชิงบรรทัดฐาน ,ชุมชนการศึกษาอายุ .
วิธี : เราตรวจสอบ 96 คนที่ได้รับแคดเมียมในตัวอย่างปัสสาวะ 24 ชม. วัดเดียว
เก็บใน 1994 - 1995 และมีหนึ่งถึงสามการทดสอบสมรรถภาพปอด ระหว่างปี 1994 และ 2002 (
รวม 222 สังเกต ) เราใช้โมเดลทำนายผลผสม
สมรรถภาพปอด ขึ้นอยู่กับบุคคล ตลอด 24 ชั่วโมง ปัสสาวะ ปริมาณผลผลิต ปรับความสูง , อายุเวลาผ่านไปจาก
baseline และสูบบุหรี่ สถานะ เราประเมินการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการสูบบุหรี่ สถานะ ผลของทุกวิชา
, เข้าสู่ระบบเดียวหน่วยพื้นฐานเพิ่มในปัสสาวะกับแคดเมียม
เกี่ยวข้องกับบังคับกลุ่มเสียงใน 1 วินาที ( fev1 ) เปอร์เซ็นต์คาดการณ์ [ บีตา = – 7.56 เปอร์เซ็นต์ 95% ช่วงความเชื่อมั่น
( CI ) – 13.59 % – 1.53 % ] ; บังคับความจุปอด ( FVC ) เปอร์เซ็นต์คาดการณ์ ( บีตา =
– 270% ; 95% CI - 7.39 % 1.99 % ) และอัตราส่วน fev1 / FVC ( บีตา ) = 4.13 % ; 95% CI - 7.61 บาท
- 0.66% ) ในรุ่นรวมทั้งปฏิสัมพันธ์ระหว่างแคดเมียม ทางเดินปัสสาวะ และสูบบุหรี่หรือไม่มี
เป็นคะแนน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ fev1 / FVC ลดอัตราการสูบบุหรี่ในสมาคมในสถานะกับทางเดินปัสสาวะ

สรุป : แคดเมียมการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าแคดเมียมเรื้อรังที่เกี่ยวข้องกับลดปอด
ฟังก์ชัน และการสูบบุหรี่จะปรับเปลี่ยนสมาคมนี้ ผลลัพธ์เหล่านี้ควรจะตีความ
ด้วยความระมัดระวัง เพราะขนาดตัวอย่างน้อย ๆ และศึกษาเพิ่มเติมที่จำเป็นในการยืนยันผลของเรา