Ischemic colitis (also known as isc

Ischemic colitis (also known as ischaemic colitis) is a medical condition in which inflammation and injury of the large intestine result from inadequate blood supply. Although uncommon in the general population, ischemic colitis occurs with greater frequency in the elderly, and is the most common form of bowel ischemia.[1][2][3] Causes of the reduced blood flow can include changes in the systemic circulation (e.g. low blood pressure) or local factors such as constriction of blood vessels or a blood clot. In most cases, no specific cause can be identified.[4]

Ischemic colitis is usually suspected on the basis of the clinical setting, physical examination, and laboratory test results; the diagnosis can be confirmed via endoscopy or by using sigmoid or endoscopic placement of a visible light spectroscopic catheter (see Diagnosis). Ischemic colitis can span a wide spectrum of severity; most patients are treated supportively and recover fully, while a minority with very severe ischemia may develop sepsis and become critically,[5] sometimes fatally, ill.[6]

Patients with mild to moderate ischemic colitis are usually treated with IV fluids, analgesia, and bowel rest (that is, no food or water by mouth) until the symptoms resolve. Those with severe ischemia who develop complications such as sepsis, intestinal gangrene, or bowel perforation may require more aggressive interventions such as surgery and intensive care. Most patients make a full recovery; occasionally, after severe ischemia, patients may develop long-term complications such as a stricture[7] or chronic colitis.[8

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ขาดเลือดลำไส้ใหญ่อักเสบ (หรือเรียกว่าอาการลำไส้ใหญ่บวมขาดเลือด) เป็นเงื่อนไขทางการแพทย์ที่เกิดการอักเสบและการบาดเจ็บของลำไส้ใหญ่ผลจากปริมาณเลือดไม่เพียงพอ แม้ว่าเรื่องผิดปกติในประชากรทั่วไป, ขาดเลือดลำไส้ใหญ่อักเสบเกิดขึ้นกับความถี่มากขึ้นในผู้สูงอายุและเป็นรูปแบบที่พบมากที่สุดของการขาดเลือดลำไส้. [1] [2] [3] สาเหตุของการไหลเวียนของเลือดที่ลดลงอาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในการไหลเวียนของระบบ ( เช่นความดันโลหิตต่ำ) หรือปัจจัยในท้องถิ่นเช่นการหดตัวของหลอดเลือดหรือลิ่มเลือด ในกรณีส่วนใหญ่สาเหตุที่เฉพาะเจาะจงสามารถระบุได้ [4]. ขาดเลือดลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นผู้ต้องสงสัยมักจะอยู่บนพื้นฐานของการตั้งค่าทางคลินิก, การตรวจร่างกายและผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการ การวินิจฉัยโรคได้รับการยืนยันผ่านการส่องกล้องหรือโดยการใช้ sigmoid หรือตำแหน่งส่องกล้องของสายสวนแสงที่มองเห็นสเปกโทรสโก (ดูการวินิจฉัย) ขาดเลือดอาการลำไส้ใหญ่สามารถขยายคลื่นความถี่กว้างของความรุนแรง; ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรักษา supportively และกู้คืนอย่างเต็มที่ในขณะที่ชนกลุ่มน้อยที่มีการขาดเลือดรุนแรงมากอาจจะพัฒนาภาวะติดเชื้อและกลายเป็นวิกฤต [5] บางครั้งสาหัสป่วย. [6] ผู้ป่วยที่มีน้อยถึงปานกลางในลำไส้ใหญ่ขาดเลือดได้รับการรักษามักจะมีหลอดเลือด, ปวด, และส่วนที่เหลือของลำไส้ (นั่นคืออาหารหรือไม่มีน้ำปาก) จนกว่าอาการแก้ไข ผู้ที่มีการขาดเลือดอย่างรุนแรงที่พัฒนาภาวะแทรกซ้อนเช่นการติดเชื้อแผลเรื้อรังในลำไส้หรือทะลุลำไส้อาจจำเป็นต้องมีการแทรกแซงเชิงรุกมากขึ้นเช่นการผ่าตัดและการดูแลอย่างเข้มข้น ผู้ป่วยส่วนใหญ่ให้กู้เต็ม; บางครั้งหลังจากที่ขาดเลือดอย่างรุนแรงผู้ป่วยอาจพัฒนาภาวะแทรกซ้อนในระยะยาวเช่นการตีบ [7] หรือลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรัง. [8

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการลำไส้ใหญ่บวมขาดเลือด ( ยังเป็นที่รู้จัก ischaemic colitis ) เป็นภาวะทางการแพทย์ซึ่งการอักเสบและอาการบาดเจ็บของผลลําไส้ใหญ่จากขาดเลือด . แม้ว่าบ่อยครั้งในประชากรทั่วไป , หลอดเลือดอักเสบเกิดขึ้นด้วยความถี่มากขึ้นในผู้สูงอายุ และเป็นรูปแบบที่พบมากที่สุดของภาวะลำไส้[ 1 ] [ 2 ] [ 3 ] สาเหตุของการไหลของเลือดลดลง อาจรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในการไหลเวียนทั่วร่างกาย เช่น ความดันเลือดต่ำ หรือท้องถิ่นต่างๆ เช่น ตีบของหลอดเลือดหรือการแข็งตัวของเลือด . ในกรณีส่วนใหญ่ ไม่เฉพาะทำให้สามารถระบุได้ . [ 4 ]

เลือดอักเสบมักจะสงสัยว่า บนพื้นฐานของการตั้งค่าทางคลินิก การตรวจร่างกายและทดสอบทางห้องปฏิบัติการผลลัพธ์การวินิจฉัยสามารถยืนยันผ่านการส่องกล้อง หรือ โดยการใช้แบบหรือการส่องกล้องของแสงทางสายสวน ( เห็นการวินิจฉัย ) หลอดเลือดอักเสบสามารถครอบคลุมสเปกตรัมกว้างของความรุนแรง ผู้ป่วยส่วนใหญ่ได้รับการรักษา supportively และกู้คืนอย่างเต็มที่ มีเพียงส่วนน้อยที่มีภาวะการติดเชื้อที่รุนแรงมาก และอาจพัฒนากลายเป็นวิกฤต [ 5 ] บางครั้งปางตาย , ป่วย [ 6 ]

ผู้ป่วยที่มีอาการลำไส้ใหญ่บวมขาดเลือดไม่รุนแรงปานกลางมักจะปฏิบัติกับของเหลว IV ด้วยพักผ่อนกระเพาะ ( คือไม่มีอาหารหรือน้ำด้วยปาก ) จนกว่าอาการที่แก้ไข ผู้ที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ผู้ที่พัฒนาในลำไส้เน่า หรือ พ่างอาจต้องการการแทรกแซงเชิงรุกมากขึ้น เช่น การผ่าตัด และการดูแลผู้ป่วย ผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำให้การกู้คืนเต็มบางครั้งหลังจากการขาดเลือดรุนแรง ผู้ป่วยอาจพัฒนาภาวะแทรกซ้อนระยะยาว เช่น การจำกัด [ 7 ] [ 8 หรืออักเสบเรื้อรัง