Thailand should lay down basic infr

Thailand should lay down basic infrastructure to help companies transform their creative ideas into real innovations, say proponents of the creative economy.

The government should have an incubation system for new innovations and technologies so that companies, especially start-ups, can bring them for commercial use, said Petipong Pungbun Na Ayudhya, chairman of the New Economy Steering Subcommittee.

.
After that, the registration of intellectual property should have higher efficiency to encourage those who own innovations to register them.

Only 20,000 to 30,000 Thai patents and copyrights have been registered annually on average in recent years compared with more than 300,000 applications granted in the US in 2014.

. Moreover, start-ups should have more access to the financing system and financial institutes should understand their business natures.

"If such infrastructure is available, we can push Thailand into a new era of the new economy. Although the country is agriculture-based, we can grow with the creative economy in the future," Mr Petipong said at last week's opening of the new office for the Thailand Creative & Design Center (TCDC).

. To promote the creative economy, managing director Apisit Laistrooklai said the TCDC would encourage more Thai talent to come up with creative ideas, which would be transformed into real innovations to come up with creative ideas, which would be transformed into real innovations to develop the country.

. "If the country is moving forward with the creative economy, our competitiveness will increase and the middle-income trap will be solved," he said.

. TCDC expects 20 million Thais will be able to access creative-economy knowledge in 2020 so that they will know how to use creativity to develop business and improve quality of life.

The centre has played a vital role in nurturing the creative economy. It has helped more than 100,000 entrepreneurs and creative start-ups, which saw their sales rise by 26.2% last year.

. Mr Petipong advises Thais to add more value to farm products such as rice, pineapple, rubber and palm to generate higher prices.

"We sell farm products as commodities and are reluctant to add more value to them. That's why most Thai farmers earn very little," he said.

Agrifood Co chief executive Pita Limjaroenrat agrees with Mr Petipong, saying that Thailand has 24 million people in the agriculture sector but they cannot generate a big proportion of revenue for the agriculture sector but they cannot generate a big proportion of revenue for the country.
The agriculture sector is not strong. If rice has added value or is processed, the price will rise sharply. For example, rice bran is priced at 32 US cents per kilogramme but when it becomes rice bran oil, its price increases to US$3.30 per kg. Rice bran oil can also be used to produce vitamins (copy65 per kg), cosmetics ($300) and oryzanol ($600).
"The value chain of rice is quite long and rice can be used to produce biodiesel, but we don't have the technology or team to promote this issue," Mr Pita said.

. Agrifood produces rice bran oil, with one litre coming from rice cultivated on one rai of land.

Mr Petipong said Thailand should export more Thai culture. Thai restaurants and Muay Thai boxing are considered magnet tourism products and are very famous in many countries around the world.

Pranitan Phornprapha, co-founder of Asiola, a cloud funding platform for Thai artists, agreed with the plan to promote Thai culture abroad.

He gave Jim Thompson Farm in Nakhon Ratchasima as an example. The farm uses exhibitions, marketing and tourism activities to promote farming, fabric weaving and foods.

.
"If we find more interesting cultural products that can be promoted among foreigners and add more value, they will become good tourism products," Mr Pranitan said.
If there are interesting projects, the owners can share ideas and raise funds from other people through the cloud funding platform, while Thais can use digital technology to benefit economic development, he said.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประเทศไทยควรวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อช่วยบริษัทที่เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์เป็นนวัตกรรมจริง บอกว่า กุญแจของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ รัฐบาลควรมีระบบบ่มด้านนวัตกรรมใหม่ และเทคโนโลยีดังนั้นบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟิลิปส์ สามารถนำมาใช้ กล่าวว่า Petipong Pungbun นากรุงศรีอยุธยา ประธานใหม่ประหยัดพวงมาลัยอนุกรรม .หลังจากที่ การลงทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาควรมีประสิทธิภาพสูงเพื่อสนับสนุนให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมการลงทะเบียน ลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรไทยเพียง 20,000 กับ 30,000 ได้ลงทะเบียนเป็นรายปีโดยเฉลี่ยเมื่อเทียบกับการใช้งานมากกว่า 300,000 รับในสหรัฐอเมริกาในปี . นอกจากนี้ ตลอดจนควรมีสิทธิ์เข้าระบบเงิน และสถาบันการเงินควรเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจ "ถ้าโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวจะพร้อมใช้งาน เราสามารถผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจใหม่ แม้ว่าประเทศจะใช้เกษตร เราสามารถเติบโตไปกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอนาคต นาย Petipong กล่าวว่า ในสัปดาห์สุดท้ายของการเปิดสำนักงานใหม่สำหรับการสร้างสรรค์ของประเทศไทยและศูนย์การออกแบบ (TCDC) . ส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การจัดการกรรมการ Apisit Laistrooklai กล่าวว่า TCDC จะส่งเสริมให้บุคลากรไทยเพิ่มเติมมากับความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะกลายเป็นนวัตกรรมจริงต้องมีความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งจะกลายเป็นนวัตกรรมที่แท้จริงในการพัฒนาประเทศ . เขากล่าวว่า "ถ้าประเทศก้าวไปข้างหน้ากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มนุษยจะเพิ่มขึ้น และจะแก้กับดักมี . TCDC คาดว่า 20 ล้านคนจะสามารถเข้าถึงความรู้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในปี 2020 เพื่อให้พวกเขาจะรู้วิธีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาธุรกิจ และพัฒนาคุณภาพชีวิต ศูนย์ได้เล่นบทบาทสำคัญในการดูแลเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะได้ช่วยผู้ประกอบการมากกว่า 100,000 และเริ่มต้นสร้างสรรค์ ที่เห็นของพวกเขาขายขึ้น 26.2% ปี . นาย Petipong แนะคนไทยเพื่อเพิ่มค่าการเกษตรเช่นข้าว สับปะรด ยาง และปาล์มในการสร้างราคาที่สูงขึ้น "เราขายผลิตภัณฑ์ฟาร์มเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ และลังเลใจที่จะเพิ่มค่ามากขึ้นกับพวกเขา ที่ว่าทำไมเกษตรกรไทยส่วนใหญ่ได้รับน้อยมาก, "เขากล่าวว่า ผู้บริหาร บริษัท Agrifood Limjaroenrat ปิตาตกลงกับนาย Petipong ระบุว่า ประเทศไทยมี 24 ล้านคนในภาคเกษตร แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างสัดส่วนใหญ่ของรายได้ภาคเกษตร แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างสัดส่วนใหญ่ของรายได้สำหรับประเทศ ภาคการเกษตรไม่แข็งแรง ถ้าข้าวมีมูลค่าเพิ่ม หรือมีการประมวลผล ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น รำข้าวเป็นราคาที่ 32 เซนต์ สหรัฐต่อ kilogramme แต่เมื่อน้ำมันรำข้าว ราคาเพิ่มไปสหรัฐฯ $3.30 ต่อกิโลกรัม น้ำมันรำข้าวยังสามารถใช้ในการผลิตวิตามินเครื่องสำอาง (copy65 ต่อกก.), ($300) และส่วน ($600) "ห่วงโซ่คุณค่าของข้าวค่อนข้างนาน และสามารถใช้ข้าวในการผลิตไบโอดีเซล แต่เราไม่มีเทคโนโลยีหรือทีมที่จะเลื่อนระดับปัญหานี้ นาย Pita กล่าว . Agrifood ผลิตข้าวน้ำมันรำ กับหนึ่งลิตรมาจากข้าวที่ปลูกในไร่ นาย Petipong กล่าวว่า ประเทศไทยควรส่งออกวัฒนธรรมไทยเพิ่มเติม ร้านอาหารไทยและมวยไทยถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวแม่เหล็ก และมีชื่อเสียงมากในหลายประเทศทั่วโลก Pranitan ประภา Asiola เมฆเงินแพลตฟอร์มสำหรับศิลปินไทย ผู้ร่วมก่อตั้งเห็นด้วยกับแผนการส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ เขาให้จิมทอมป์สันฟาร์มจังหวัดนครราชสีมาเป็นตัวอย่าง ฟาร์มใช้จัดนิทรรศการ การตลาด และกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการเกษตร ผ้าทอ และอาหาร ."ถ้าเราพบผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมที่น่าสนใจที่สามารถส่งเสริมในหมู่ชาวต่างชาติ และเพิ่มค่า พวกเขาจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ดี นาย Pranitan กล่าวว่า ถ้ามีโครงการที่น่าสนใจ เจ้าของสามารถแชร์ความคิด และระดมเงินทุนจากผู้อื่นผ่าน cloud ทุนแพลตฟอร์ม ในขณะที่คนไทยสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ เขากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเทศไทยควรวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อช่วยให้ บริษัท เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเป็นนวัตกรรมจริงเสนอของเศรษฐกิจสร้างสรรค์กล่าวว่า. รัฐบาลควรมีระบบการบ่มเพาะนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ บริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเริ่มต้นสามารถนำพวกเขาเพื่อการพาณิชย์ การใช้งานกล่าวว่า Petipong Pungbun ณ อยุธยาประธานของเศรษฐกิจยุคใหม่คณะอนุกรรมการพวงมาลัย.. หลังจากนั้นการลงทะเบียนของทรัพย์สินทางปัญญาควรจะมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อลงทะเบียนพวกเขา. เพียง 20,000 ถึง 30,000 สิทธิบัตรไทยและลิขสิทธิ์ได้รับการจดทะเบียน เป็นประจำทุกปีโดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับมากกว่า 300,000 แอพพลิเคได้รับในสหรัฐอเมริกาในปี 2014. นอกจากนี้เริ่มอัพควรมีการเข้าถึงมากขึ้นในระบบการเงินและสถาบันการเงินควรเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจของพวกเขา. "ถ้าโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวสามารถใช้ได้เรา สามารถผลักดันประเทศไทยเข้าสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจใหม่. แม้ว่าประเทศเป็นการเกษตรที่ใช้เราสามารถเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอนาคต "นาย Petipong กล่าวว่าในการเปิดสัปดาห์สุดท้ายของของสำนักงานใหม่สำหรับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC).. ในการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์กรรมการผู้จัดการอภิสิทธิ์ Laistrooklai กล่าวว่า TCDC จะสนับสนุนความสามารถของคนไทยมากขึ้นที่จะมากับความคิดสร้างสรรค์ซึ่งจะกลายเป็นนวัตกรรมที่แท้จริงจะเกิดขึ้นกับความคิดสร้างสรรค์ซึ่งจะกลายเป็นจริง นวัตกรรมในการพัฒนาประเทศ.. "ถ้าประเทศจะก้าวไปข้างหน้ากับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในการแข่งขันของเราจะเพิ่มขึ้นและกับดักรายได้ปานกลางจะได้รับการแก้ไข" เขากล่าว.. TCDC คาดว่า 20 ล้านคนไทยจะสามารถเข้าถึง creative- ความรู้เศรษฐกิจในปี 2020 เพื่อที่พวกเขาจะรู้วิธีการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการพัฒนาธุรกิจและปรับปรุงคุณภาพของชีวิต. ศูนย์มีบทบาทสำคัญในการบำรุงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ จะได้ช่วยมากกว่า 100,000 ผู้ประกอบการและความคิดสร้างสรรค์เริ่มต้นสุขภาพที่เห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นของพวกเขาโดย 26.2% ในปีที่ผ่านมา.. นาย Petipong ให้คำแนะนำแก่คนไทยที่จะเพิ่มมูลค่ามากขึ้นในสินค้าเกษตรเช่นข้าวสับปะรดยางพาราและปาล์มในการสร้างราคาที่สูงขึ้น"เราขายสินค้าเกษตรเป็นสินค้าโภคภัณฑ์และไม่เต็มใจที่จะเพิ่มมูลค่ามากขึ้นให้กับพวกเขา. นั่นเป็นเหตุผลที่เกษตรกรไทยส่วนใหญ่มีรายได้น้อยมาก" เขากล่าว. Agrifood ร่วมผู้บริหารระดับสูง Pita Limjaroenrat เห็นด้วยกับนาย Petipong บอกว่าประเทศไทยมี 24 ล้านคนที่อยู่ใน ภาคเกษตร แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างสัดส่วนใหญ่ของรายได้ภาคเกษตร แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างสัดส่วนใหญ่ของรายได้ให้กับประเทศ. ภาคเกษตรคือไม่แข็งแรง หากข้าวมีมูลค่าเพิ่มหรือมีการประมวลผลราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่นรำข้าวมีราคาอยู่ที่ 32 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม แต่เมื่อมันกลายเป็นน้ำมันรำข้าวเพิ่มขึ้นราคา US $ 3.30 ต่อกิโลกรัม น้ำมันรำข้าวยังสามารถนำมาใช้ในการผลิตวิตามิน (copy65 ต่อกิโลกรัม) เครื่องสำอาง ($ 300) และซานอล ($ 600). "ห่วงโซ่คุณค่าของข้าวที่ค่อนข้างยาวและข้าวสามารถนำมาใช้ในการผลิตไบโอดีเซล แต่เราไม่ได้มี เทคโนโลยีหรือทีมงานในการส่งเสริมเรื่องนี้ "นาย Pita กล่าวว่า.. Agrifood ผลิตน้ำมันรำข้าวที่มีหนึ่งลิตรมาจากข้าวที่ปลูกในหนึ่งไร่. นาย Petipong กล่าวว่าประเทศไทยควรส่งออกวัฒนธรรมไทยมากขึ้น ร้านอาหารไทยและมวยไทยได้รับการพิจารณาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวแม่เหล็กและมีชื่อเสียงมากในหลายประเทศทั่วโลก. Pranitan พรประภา, ผู้ร่วมก่อตั้งของ Asiola เป็นแพลตฟอร์มการระดมทุนเมฆสำหรับศิลปินไทยเห็นด้วยกับแผนการที่จะส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ. เขา ให้ฟาร์มจิมทอมสันในจังหวัดนครราชสีมาเป็นตัวอย่าง ฟาร์มใช้การแสดงผลงานการตลาดและกิจกรรมการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการเลี้ยงการทอผ้าและอาหาร.. "ถ้าเราได้พบกับผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจอื่น ๆ ที่สามารถได้รับการส่งเสริมหมู่ชาวต่างชาติและเพิ่มมูลค่ามากขึ้นพวกเขาจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ดี" นาย Pranitan กล่าวว่าหากมีโครงการที่น่าสนใจเป็นเจ้าของสามารถแบ่งปันความคิดและระดมทุนจากคนอื่น ๆ ผ่านระบบคลาวด์แพลตฟอร์มการระดมทุนในขณะที่คนไทยสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิตอลจะได้รับประโยชน์ในการพัฒนาเศรษฐกิจเขากล่าวว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประเทศไทยควรวางโครงสร้างพื้นฐานเพื่อช่วยให้ บริษัท เปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาเป็นนวัตกรรมที่แท้จริง ว่า ผู้เสนอของเศรษฐกิจสร้างสรรค์รัฐบาลควรมีการบ่มเพาะระบบนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ เพื่อให้ บริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่ง start-ups สามารถนำพวกเขาสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ กล่าวว่า petipong pungbun ณ อยุธยา ประธานคณะอนุกรรมการเศรษฐกิจใหม่พวงมาลัย ..หลังจากนั้น การจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาควรมีประสิทธิภาพสูงเพื่อกระตุ้นให้ผู้ที่เป็นเจ้าของนวัตกรรมที่จะลงทะเบียนได้เพียง 30 , 000 สิทธิบัตรและลิขสิทธิ์ไทยได้รับการจดทะเบียนเป็นรายปีโดยเฉลี่ยในปีที่ผ่านมาเมื่อเทียบกับมากกว่า 300000 โปรแกรมที่ได้รับในสหรัฐอเมริกาในปี 2014. นอกจากนี้เริ่มควรจะมีการเข้าถึงระบบการเงินและสถาบันทางการเงินควรเข้าใจธรรมชาติของธุรกิจของพวกเขา" ถ้าโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวสามารถใช้ได้ เราสามารถผลักดันให้ประเทศไทยเข้าสู่ยุคใหม่ของเศรษฐกิจใหม่ แม้ว่าประเทศเกษตรตาม เราสามารถเติบโตไปพร้อมกับเศรษฐกิจสร้างสรรค์ในอนาคต " นาย petipong กล่าวในสัปดาห์สุดท้ายของการเปิดสำนักงานใหม่สำหรับศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ ( TCDC ). เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท laistrooklai อภิสิทธิ์กล่าวว่า TCDC จะสนับสนุนให้ไทยมากขึ้นความสามารถที่จะมากับความคิดที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะถูกแปลงเป็นนวัตกรรมที่แท้จริงที่จะมากับความคิดที่สร้างสรรค์ ซึ่งจะถูกแปลงเป็นนวัตกรรมที่แท้จริงในการพัฒนาประเทศ" . ถ้าประเทศจะก้าวไปข้างหน้ากับเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ , การแข่งขันของเราจะเพิ่มขึ้น และกับดักรายได้ปานกลางจะแก้ปัญหาได้ " เขากล่าว. TCDC คาดว่า 20 ล้านคนไทยจะสามารถเข้าถึงความรู้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ใน 2020 เพื่อที่พวกเขาจะได้รู้จักใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาธุรกิจ และปรับปรุงคุณภาพของชีวิตศูนย์มีบทบาทสําคัญในการบำรุงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มันได้ช่วยมากกว่า 100000 ผู้ประกอบการและสร้างสรรค์ start-ups ซึ่งเห็นยอดขายเพิ่มขึ้น 26.2 % ในปีที่แล้ว. นาย petipong แนะคนไทยเพื่อเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ของฟาร์ม เช่น ข้าว สับปะรด ยางพารา และปาล์ม เพื่อสร้างราคาที่สูงขึ้น" เราขายสินค้าเกษตรที่เป็นสินค้าและจะลังเลที่จะเพิ่มมูลค่ามากขึ้นเพื่อพวกเขา ว่าทำไมชาวนาไทยส่วนใหญ่มีรายได้น้อยมาก " เขากล่าวเกษตร จำกัด หัวหน้าผู้บริหาร Pita limjaroenrat เห็นด้วยกับคุณ petipong บอกว่า ประเทศไทยมี 24 ล้านคน ในภาคการเกษตร แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างใหญ่สัดส่วนของรายได้ในภาคการเกษตร แต่พวกเขาไม่สามารถสร้างสัดส่วนใหญ่ของรายได้ให้กับประเทศภาคการเกษตรก็ยังไม่แข็งแรง ถ้าข้าวมีมูลค่าเพิ่มหรือแปรรูป ราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น น้ำมันรำข้าว ราคาอยู่ที่ 32 เซนต์สหรัฐต่อกิโลกรัม แต่เมื่อมันกลายเป็นน้ํามันรําข้าว , ราคาของมันเพิ่มขึ้น US $ 3.30 บาทต่อกิโลกรัม น้ำมันรำข้าวยังสามารถใช้ในการผลิตวิตามิน ( copy65 ต่อกิโลกรัม ) , เครื่องสําอาง ( $ 300 ) และโอรีซานอล ( $ 600 )" ห่วงโซ่คุณค่าของข้าวค่อนข้างยาวและข้าวสามารถใช้ผลิตไบโอดีเซล แต่เราไม่มีเทคโนโลยีหรือทีมส่งเสริมประเด็นนี้ " นายพิต้ากล่าว. เกษตรผลิตน้ำมันรำข้าว กับหนึ่งลิตร ที่มาจากข้าวที่ปลูกในไร่ของที่ดินนาย petipong กล่าวว่า ประเทศไทยควรส่งออกมากกว่าไทยวัฒนธรรม ร้านอาหารไทยและมวยไทยถือว่าเป็นแม่เหล็กและผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากใน หลายประเทศทั่วโลกปณิธาน พรประภา ผู้ร่วมก่อตั้งกองทุน asiola , แพลตฟอร์มเมฆสำหรับศิลปินไทย เห็นด้วยกับแผนเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศเขาให้จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม ใน จ. นครราชสีมา เป็น ตัวอย่าง ฟาร์มที่ใช้จัดนิทรรศการ และกิจกรรมส่งเสริมการตลาดการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ผ้าทอ และอาหาร." ถ้าเราหาสินค้าทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากขึ้นที่สามารถส่งเสริมในหมู่ชาวต่างชาติและเพิ่มมูลค่ามากขึ้นพวกเขาจะกลายเป็นผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่ดี " นายปณิธาน กล่าวหากมีโครงการที่น่าสนใจ เจ้าของสามารถแบ่งปันความคิดและระดมทุนจากบุคคลอื่นผ่านเมฆแพลตฟอร์มเดิม ในขณะที่คนไทยสามารถใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ เขากล่าวว่า