The Crisis Of Russian-American Rela

The Crisis Of Russian-American Relations And America's Failed Russia Policy

Although the extreme levels of noise in the current presidential election campaign has tended to drown out all other news, no matter how important, events of the past month with regards to Russia’s relations with the United States, and with the West in general, have brought relations to such a heightened level of tension that its in everyone’s interest to pay it some concerted attention. September saw the United States and Russia in talks to find terms upon which they could agree to cooperate against ISIS in Syria and hopefully stave off a further dangerous deterioration of tensions. The downward spiral since late September has been swift and precipitous.

After reaching a tentative agreement on cooperation against ISIS in Syria in early September , a series of events have taken place which has led each side to blame the other for the failure of the agreement. On September 17, US-led coalition warplanes, in an airstrike targeting ISIS, mistakenly struck Syrian troops, leading to Russian charges of perfidy. A couple of days later, a UN aid convey was attacked and destroyed, with the White House and several Western leaders saying that Russia was responsible.

A few days after this a Syrian government assault on Aleppo began, with backing and support from Russia, Iran and Hezbollah, which assault has been characterized by indiscriminate bombing of civilians. There have been widespread reports that Russia has been using bunker-busting bombs, cluster bombs, barrel bombs and thermobaric bombs. Tensions have risen as the assault has continued and the civilian death toll has risen, leading to charges from many Western observers, including the UN Secretary General, that Russia was committing war crimes in purposefully targeting civilians, hospitals and aid convoys, and due to the types of weaponry it and its Syrian allies have utilized against those civilian targets.


A Syrian medical staff member inspects the damage at the site of a medical facility after it was reportedly hit by Syrian regime barrel bombs on October 1, 2016, in the rebel-held neighbourhood of al-Sakhour, in the northern city of Aleppo.The largest hospital in rebel-held east Aleppo was bombed for the second time in days as Syrian government forces pressed a Russian-backed offensive to retake the entire city. / AFP / THAER MOHAMMED (Photo credit should read THAER MOHAMMED/AFP/Getty Images)

In the midst of the growing tensions over Syria, on September 28 the Dutch-led investigation that had been painstakingly investigating the July 2014 shoot-down of the Malaysian Airlines civilian airliner over eastern Ukraine, which resulted in the deaths of all 298 people on board, was released, further embarrassing Moscow and leading to angry retorts from the Kremlin. The investigation, undertaken by an multinational team of seasoned investigators, announced that they had discovered “irrefutable evidence” that the missile was Russian and that it had been fired from the region of eastern Ukraine controlled by pro-Russian rebels. The team also documented the journey of the missile system, which had been transported into eastern Ukraine from Russia, and then snuck back into Russia the evening after its use against the civilian airliner.

The day after the Dutch report was issued, on Thursday, September 29 State Department spokesman John Kirby warned that a collapse of Russian-American cooperation against ISIS in Syria could exacerbate conditions within which terrorists would have greater freedom to attack Russian interests and possibly even Russian cities. The Russian Foreign Ministry immediately responded, labeling Kirby’s statement as a threat and accusing the US of controlling an “international terrorist alliance”, and saying that “an emotional breakdown occurred” on the part of the Americans.

Amidst the growing confrontation a Russian general visited US officials in Baghdad and “suggested” that the United States stand down its military activities against ISIS in Syria. Russia continued to ratchet up the war of words, with the Russian government on September 30 telling its people that the West was bent on nuclear war, and the state-run news agency Pravda declaring that Russia was prepared and had built an extensive system of underground bunkers that could accommodate the whole population of Moscow.

By the beginning of the next week, Monday, October 3, with the Russian-backed assault on Aleppo continuing to result in massive civilian deaths, the Obama Administration announced that it was suspending talks with Kremlin on cooperation in Syria. On the same day, the Kremlin announced it was withdrawing from the Plutonium Management & Disposition Agreement, which was designed to reduce each sides’ stockpile of weapons-grade plutonium as well as to keep it out of the hands of terrorists, due to “unfriendly actions” from the United States. The Russian Civil Defense Ministry also announced

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วิกฤติความสัมพันธ์อเมริการัสเซียและอเมริกาล้มเหลวนโยบายรัสเซียแม้ว่าระดับ extreme เสียงในการรณรงค์การเลือกตั้งประธานาธิบดีในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะกลบข่าวอื่น ๆทั้งหมด ไม่ว่าที่สำคัญ , เหตุการณ์ในเดือนที่ผ่านมาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของรัสเซียกับสหรัฐฯ และตะวันตกโดยทั่วไปได้นำความสัมพันธ์ดังกล่าวเพิ่มระดับความตึงเครียดที่ในผลประโยชน์ของ ทุกคนต้องจ่าย บางคนกุลีกุจอสนใจ กันยายนเห็นสหรัฐอเมริกาและรัสเซียในการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงที่พวกเขาได้ตกลงที่จะร่วมมือกับมาเลเซียในซีเรีย และหวังขจัดอันตรายต่อการเสื่อมสภาพของความตึงเครียด เกลียวลงตั้งแต่ปลายเดือนกันยายน ได้รวดเร็ว และทันทีทันใด .หลังจากถึงข้อตกลงเบื้องต้นเกี่ยวกับความร่วมมือกับมาเลเซียในซีเรียในช่วงต้นเดือนกันยายน , ชุดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งได้นำแต่ละด้านให้โทษสำหรับความล้มเหลวของข้อตกลง เมื่อวันที่ 17 กันยายน เรานำพันธมิตรทิ้งใน airstrike เป้าหมาย Isis , เข้าใจผิดหลงกองทัพซีเรียได้นำค่าธรรมเนียมของรัสเซียการทรยศ . สองวันต่อมา และช่วยถ่ายทอดถูกทำร้ายและทำลาย กับทำเนียบขาวและผู้นำหลายตะวันตกบอกว่ารัสเซีย ต้องรับผิดชอบไม่กี่วัน หลังจากรัฐบาลซีเรียโจมตีใน Aleppo เริ่มด้วยการสนับสนุนและการสนับสนุนจากรัสเซีย , อิหร่านและบุปผชาติซึ่งโจมตีได้ ลักษณะการพิจารณาของพลเรือน มีรายงานว่า รัสเซียได้ใช้แพร่หลายบังเกอร์ระเบิดระเบิดระเบิดระเบิดและระเบิดคลัสเตอร์ ถัง thermobaric . ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเมื่อโจมตีได้ต่อเนื่อง และผู้เสียชีวิตพลเรือนได้เพิ่มขึ้น ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายจากผู้สังเกตการณ์หลายตะวันตก รวมทั้งเลขา UN ทั่วไป ที่รัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงครามในตั้งใจมุ่งเป้าไปที่พลเรือน โรงพยาบาล และช่วยจัดขบวน และเนื่องจากชนิดของอาวุธและพันธมิตรของซีเรียได้ใช้เทียบกับเป้าหมายพลเรือน .สมาชิกแพทย์ชาวซีเรียตรวจสอบความเสียหาย ที่เว็บไซต์ของศูนย์การแพทย์หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลซีเรียตีถังระเบิดในวันที่ 1 ตุลาคม ปี 2016 ในกบฏถือตาง ๆของอัล sakhour ในภาคเหนือของเมืองอเลปโป โรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในกบฏจัดขึ้นตะวันออกโปถูกระเบิดเป็นครั้งที่สองในวันนี้ กองกำลังรัฐบาลซีเรียกดรัสเซียสนับสนุนโจมตียึดเมืองทั้งหมด / เอเอฟพี / thaer มุฮัมมัด ( เครดิตภาพควรอ่าน thaer Mohammed / AFP / Getty )ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นเหนือซีเรีย ในวันที่ 28 กันยายนชาวดัตช์นำการสืบสวนที่ได้รับการตรวจสอบอย่างระมัดระวังกรกฎาคม 2014 ยิงลงของสายการบินมาเลเซียพลเรือนสายการบินมากกว่าตะวันออก ยูเครน ซึ่งก่อให้เกิดการตายของทุกผู้คนบนเรือที่ถูกปล่อยออกมาจากมอสโก และน่าอายาโกรธก็ยังย้อนจากเครมลิน การสอบสวนที่ดำเนินการโดยทีมนักวิจัยนานาชาติเก๋า , ประกาศว่าพวกเขาได้ค้นพบ " ได้หลักฐานว่าขีปนาวุธคือรัสเซีย และมันถูกไล่ออกจากพื้นที่ทางตะวันออกของยูเครนควบคุมโดยโปรชาวรัสเซียพวกกบฏ ทีมงานยังบันทึกการเดินทางของระบบขีปนาวุธ ซึ่งถูกขนส่งในภาคตะวันออกของ ยูเครน จาก รัสเซีย แล้วแอบกลับเข้ารัสเซีย ตอนเย็นหลังจากใช้ของเทียบกับสายการบินพลเรือนวันหลังจากที่รายงานดัตช์ก็ออกมา เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 29 กันยายน จอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า การล่มสลายของรัสเซีย อเมริกัน ความร่วมมือกับมาเลเซียในซีเรียอาจ exacerbate เงื่อนไขภายใน ซึ่งผู้ก่อการร้ายจะมีเสรีภาพมากกว่าโจมตีหักและอาจจะแม้แต่รัสเซีย รัสเซีย ที่เมือง กระทรวงต่างประเทศรัสเซียแถลงตอบโต้ทันที การติดฉลาก เคอร์บี้เป็นการคุกคาม และกล่าวหาว่า เราควบคุมระหว่างประเทศ " ผู้ก่อการร้ายพันธมิตร " และกล่าวว่า " การแบ่งอารมณ์ที่เกิดขึ้น " ในส่วนของคนอเมริกันท่ามกลางการเผชิญทั่วไปรัสเซียเยี่ยมเจ้าหน้าที่สหรัฐในแบกแดดและ " แนะนำ " ที่สหรัฐอเมริกายืนลงกิจกรรมทางทหารกับไอซิส ใน ซีเรีย รัสเซียยังคงวงล้อขึ้นสงครามของคำกับรัฐบาลรัสเซียในวันที่ 30 กันยายน บอกประชาชนว่า เวสต์ โค้งในสงครามนิวเคลียร์ และใช้สำนักข่าวปราฟดากล่าวว่า รัสเซียพร้อมและได้สร้างระบบที่กว้างขวางของบังเกอร์ใต้ดินที่สามารถรองรับประชากรทั้งหมดของมอสโกโดยต้นสัปดาห์ถัดไป วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม กับ รัสเซีย ได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเพื่อผลในการโจมตีใน Aleppo ขนาดใหญ่พลเรือนเสียชีวิต , โอบามาบริหารได้ประกาศว่ามันคือระงับการเจรจากับ เครมลิน ว่าด้วยความร่วมมือใน ซีเรีย ในวันเดียวกัน เครมลิน ประกาศมันถอนตัวจากพลูโตเนียมการจัดการและการจัดการสัญญา , ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อลดในแต่ละด้านคลังสินค้าของพลูโทเนียมเกรดอาวุธ ตลอดจนเพื่อให้มันออกจากมือของผู้ก่อการร้าย เนื่องจาก " การกระทำ " ที่ไม่เป็นมิตรจากสหรัฐอเมริกา การ defe พลเรือนชาวรัสเซีย