เอดิสันเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1847 ที่เมืองมิลาน มลรัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา
เขาเป็นลูกคนที่ 7 และคนสุดท้าย
- บิดาของเขาชื่อว่า แซมมวลเอดิสัน (Samuel Edison) ประกอบธุรกิจในประเทศแคนาดา
- ได้รับการศึกษาขั้นต้นที่โรงเรียนในเมืองพอร์ตฮิวรอน แต่ด้วยความซูนซนของเขาจนโดนที่
โรงเรียนทำโทษบ่อยๆเขาจึงไม่ไปเรียน ต่อมามารดาเป้นคนสอนหนังสือให้เขาจนสามารถอ่าน
ออกเขียนได้
- เอดิสัน คาวานี่ เอ้ย เอดิสัน ในวัย 12 ขวบเขาเริ่มทำงานเพื่อนำเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายในการซื้อ
หาเครื่องมือ เครื่องใช้ รวมไปถึงหนังสือ เพื่อสร้างห้องทดลองของตัวเอง (เป็นคนชอบประดิษฐ์
ตั้งแต่เด็ก)
- หูของเขาต้องพิการจากการระเบิดของแท่งฟอสฟอรัสตกกระแทกพื้นทำให้ไฟไหม้ตู้รถไฟของ
เขา ในตู้รถไฟที่เขาใช้เก็บสารเคมีตอนทำงานเป็นเด็กขายหนังสือพิมพ์ บนรถไฟสายพอร์ตฮิวรอน
ดีทรอยต์ และยังทำให้เขาโดนไล่ออกจากงานอีกด้วย
- ในปี ค.ศ.1862 เขาจึงเช่าที่ว่างในร้านขายยาบริเวณใกล้กับสถานีรถไฟ เปิดร้านรับจ้างส่งโทรเลข
แต่กิจการไม่ค่อยดีนัก เพราะมีร้ายรับส่งโทรเลขมากเกินไปและร้านเขาก็เล็กและเพิ่งเปิดใหม่
- ต่อมาเขาก็หันมาทำกิจการขายเครื่องจักร และยังได้ประดิษฐ์ของอีกหลายชิ้นเช่น เครื่องบันทึก
คะแนนเสียงในรัฐสภา เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้น และเครื่องโทรเลข 2 ทาง
- เครื่องพิมพ์ราคาตลาดหุ้น และเครื่องโทรเลข 2 ทาง ของเขาได้รับการตอบรับอย่างดี เขาจึงได้
นำไปเสนอบริษัทเวสเทิร์ส ยูเนียนเทเลกราฟ แต่ก็โดนปัดมา จึงได้ไปเสนอต่อให้กับบริษัทโทรเลข
แอตแลนติก และแปซิฟิก และก็ได้การตอบรับชิ้นงานนั้น แต่เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง เขาได้
ทดลองส่งสัญญาณจากนิวยอร์คถึงโรเชสเตอร์ ปรากฏว่าเกิดขัดข้องไม่สามารถส่งสัญญาณได้
ซะอย่างนั้น
- เขาทั้งหมดตูดและตกงาน และบังเอิญไปเจอกับวิศวกรไฟฟ้าผู้หนึ่ง ชื่อ แฟรงคลิน โปป ที่ให้เขา
อาศัยอยู่ด้วยและหางานในบริษัทเดียวกันให้คือ บริษัท ลอว์โกลด์ อินดิเคเตอร์ เป็นแจ้งราคาทอง
ในตำแหน่งนายโทรเลขประจำบริษัท ต่อมาเขาสามารถเลื่อนตำแหน่งของตัวเองขึ้นไปเป็นผู้ช่วย
ของโปป เมื่อโปป ลาออก เขาก็เสียบแทนตำแหน่งนั้นทันที
- ต่อมาบริษัทได้รวมกิจการเข้ากับบริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน เทเลหราฟ เอดิสันที่เคยเอาชิ้นงานไป
เสนอบริษัทนี้แล้วโดนปฏิเสธกลับมาเขาจึงลาออกหลังจากนั้นก็ได้มาเปิดบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า
ร่วมกับโปป โดยมีหุ้นส่วนอีกคนชื่อว่า เจ.เอช.แอชลีย์
- เขามักรู้สึกว่าต้องทำงานหนักเพียงคนเดียว ต่างกับหุ้นส่วนคนอื่นๆที่นั่งรอนอนรอส่วนแบ่งอย่าง
สบาย ทำให้เอดิสันเองรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบ
- ในปี ค.ศ.1871 เอดิสันจึงถอนหุ้นออกจากโรงงาน และเดินทางไปยังเมืองนิววาร์ด รัฐนิวเจอร์ซี
เพื่อเปิดบริษัทผลิตเครื่องใช้ต่าง ๆ
- และก็เป็นเรื่องดีบริษัทของเขาประสบความสำเร็จอย่างมากจาก ผลงานการจำหน่ายเครื่องป้องกัน
ความผิดพลาดของใบแจ้งราคาหุ้น
- ค.ศ.1876 อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) สามารถประดิษฐ์โทรศัพท์
ขึ้นเป็นผลสำเร็จ ส่งผลให้ธุระกิจโทรเลขซบเซาขาดทุนอย่างหนักหน่วง บริษัทเวสเทิร์น ยูเนียน
เทเลกราฟ (คนที่ปัดงานของ เอดิสันในตอนแรก) จึงได้จ้างเขาให้มาช่วยปรับปรุงโทรศัพท์ของ
อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ต่อมาหลังจากที่เขา
ทดลองปรับเปลี่ยนนับครั้งไม่ถ้วนจนกระทั่งเอดิสันทดลองนำคาร์บอนมาทาบริเวณแผ่นเหล็ก
ปรากฏว่าได้ยินเสียงอย่างชัดเจนขึ้น ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว เอดิสันได้รับค่าตอบแทน
เพียง 1 แสนดอลล่า ซึ่งไม่มากเลยถ้าเทียบกับจำนวนการขายได้ของโทรศัพท์ที่เขาพัฒนา
- แต่จากการที่เขาพัฒนาโทรศัพท์ครั้งนั้น ทำให้เขาค้นพบวิธีการประดิษฐ์หีบเสียง และได้รับ
ความนิยมเป็นอย่างมากรวมไปถึง เครื่องบันทึกเสียงที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ซึ่งต่อมาเขาได้
ปรับปรุงเครื่องบันทึกเสียงให้เป้นเครื่องบันทึกโทรเลข
- เขาได้นำผลงานทั้ง 2 ชิ้นไปให้นักหนังสือพิมพ์ดูและสิ่งประดิษฐ์ของเขาทำให้นักหนังสือพิมพ์
ที่ชื่อว่า อัลเฟรด อีลีบัช ถูกใจอย่างมากนำเอาไปลงในหนังสือ Scientific American Newspaper
ทำให้ โทมัน อัลวา เอดิสัน คาวานี่ (ยังจะคาวานี่อีก) มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และฉายา พ่อมด
แห่งเมนโลพาร์ก ก็ได้มาจากการที่เขาประดิษฐ์เครื่องบันทึกเสียงนี้
- ค.ศ. 1878 เอดิสันเริ่มศึกษาค้นคว้าคิดจะทำหลอดไฟ เพราะไฟส่องสว่างในสมัยนั้นสามารถก่อ
ให้เกิดไฟไหม้ได้ง่าย
- การทดลองในช่วงแรกนั้น ไม่ค่อยจะได้ผลดีนักเนื่องจากเซอร์ฮัมฟรี เดวี่ ได้ทำการทดลอง
เกี่ยวกับหลอดไฟเอาไว้ที่มีชื่อว่า Arc Light แต่เส้นลวดไม่สามารถทนความร้อนได้สูง ทำให้
การใช้งานของหลอดชนิดนี้มีอายุสั้น ทำให้เอดิสันต้องพยายามหาตัวนำที่สามารถทนความร้อน
ได้สูง เขาทดลองใช้วัสดุกว่า 10,000 ชนิด มาทำการทดลองใช้เป็นไส้ของหลอดไฟ
- ในปี ค.ศ.1879 เอดิสันก็สามารถประดิษฐ์หลอดไฟไส้คาร์บอนสำเร็จ โดยการนำเส้นใยที่ทำ
ด้วยฝ้ายมาทำเป็นเส้นด้าย แล้วก็นำมาเผาไฟ ก็จะได้ถ่านคาร์บอนที่สามารถทนความร้อนได้สูง
จากนั้นเอง เอดิสันจึงนำมันมาบรรจุไว้ในหลอดสูญญากาศ หลอดไฟของเอดิสันนั้นสามารถจุด
ให้แสงสว่างได้นานถึง 45 ชั่วโมง หลอดไฟฟ้าชนิดนี้มีชื่อว่า Incandesent Electric Lamp
- ค.ศ. 1880 เปลี่ยนไส้หลอดไฟจากคาร์บอนเป็นไม่ไผ่ญี่ปุ่น เพราะหลอดคาร์บอน ส่องสว่าง
ได้นาน 40 ชั่วโมง แต่หลอดไม้ไผ่ญี่ปุ่น ส่องสว่างได้นานกว่าและมีคุณภาพดีกว่า แต่ถึง
อย่างนั้นก็ยังไม่เป็นที่นิยมเพราะราคาค่าไฟฟ้าในช่วงเวลาสมัยนั้นแพงมาก
- เอดิสัน เดินทางกลับไปที่นิวยอร์ค เพื่อไปตั้งบริษัทที่ชื่อว่า Edison Electric Limit Company
เพื่อที่จะสร้างเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการนำไดนาโมของไมเคิล ฟาราเดย์ มาปรับปรุงให้
ดีขึ้น มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น และได้ตั้งชื่อมันว่า Beauty Mary Ann"ตามชื่อของภรรยาของเขา
- หลังจากนั้นเองค.ศ. 1882 สร้างโรงจ่ายกระแสไฟฟ้าขึ้นที่นิวยอร์ก และเริ่มประกาศเทคโนโลยี
หลอดไฟให้เป็นที่รู้จัก ลากสายไปทั่วทั้งเมือง ทุกคนในเมืองก็มีโอกาศใช้ไฟฟ้าอย่างทั่วถึงกัน
- นอกจากกระสร้างเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าแล้วนั้นเขาก็ยังสร้างเครื่องวัดกระแสไฟฟ้า และ
เครื่องป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าอีกด้วย
- ค.ศ. 1891 ประดิษฐ์เครื่องถ่ายภาพตัดต่อสำเร็จ บันทึกภาพเคลื