The purpose of this study was to in

The purpose of this study was to investigate relationship among principal leadership, collective efficacy, teacher efficacy and teacher commitment to the profession. For this investigation, three mediation models were hypothesized and tested. The design of this study utilized a six page survey to in-service teachers who enrolled in a Master's program. Teachers (N = 260) responded to the survey consisted of four scales on the variables of principal leadership, collective efficacy, teacher efficacy, and teacher commitment to the profession. Quantitative analysis involved examining preliminary analyses, descriptive statistics and four hypotheses testing. Data were analyzed using Baron and Kenny's (1986) meditational testing. The first hypothesis was partially supported for most of the study variables had positive significant associations. The data partially supported the first mediation model when collective efficacy was hypothesized to be the mediator of principal leadership and teacher commitment to the profession. The third and fourth hypotheses were not supported when general teacher efficacy and personal teacher efficacy hypothesized to be the mediator of principal leadership and teacher commitment to the profession.

By hypothesizing collective efficacy and teacher efficacy to teacher commitment to the profession, this study has added to a growing awareness of the important influence of principal leadership to teacher commitment to the profession. Also, the lack of association between self efficacy and principal leadership in relation to teachers' commitment to the profession was a substantial addition to teacher efficacy, principal leadership and teacher commitment literature. Additional research is needed to (a) assess causal relations between other personal and organizational factor measures, (b) describe the differences in teacher commitment among teachers who have a Master's degree, are earning a Master's degree, and those who have not earned a Master's degree.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เป็นการ ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำหลัก รวมประสิทธิภาพ ครูประสิทธิภาพ และความมุ่งมั่นของครูอาชีพ การสืบสวนนี้ สามรุ่นไกล่เกลี่ยได้ตั้งสมมติฐาน และทดสอบ การออกแบบของการศึกษานี้ใช้การสำรวจหน้าหกครูในการให้บริการที่ลงทะเบียนปริญญาโท ครูผู้สอน (N = 260) ตอบแบบสำรวจประกอบด้วยสี่ชั่งบนตัวแปรนำหลัก รวมประสิทธิภาพ ประสิทธิภาพครู และความมุ่งมั่นของครูอาชีพ วิเคราะห์เชิงปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบวิเคราะห์เบื้องต้น สถิติเชิงพรรณนา และสี่สมมติฐานการทดสอบ ข้อมูลที่ได้วิเคราะห์โดยใช้ของเคนนีและบารอน (1986) meditational ทดสอบ สมมติฐานแรกบางส่วนได้รับการสนับสนุนสำหรับส่วนมากของตัวแปรศึกษามีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยสำคัญของการ ข้อมูลบางส่วนได้รับการสนับสนุนแบบไกล่เกลี่ยครั้งแรกเมื่อมีการตั้งสมมติฐานรวมประสิทธิภาพเป็น คนกลางเป็นผู้นำหลักและความมุ่งมั่นของครูอาชีพ Hypotheses สาม และสี่ไม่ถูกสนับสนุนเมื่อประสิทธิภาพครูทั่วไปและประสิทธิภาพส่วนตัวครูตั้งสมมติฐานให้ คนกลางมุ่งมั่นเป็นผู้นำและครูอาชีพหลักโดย hypothesizing รวมประสิทธิภาพและประสิทธิภาพของครูให้ครูมุ่งมั่นอาชีพ การศึกษานี้ได้เพิ่มการรับรู้การเติบโตของอิทธิพลสำคัญของความเป็นผู้นำหลักการความมุ่งมั่นของครูอาชีพ ยัง การขาดความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพตนเองและนำหลักเกี่ยวกับอาชีพครูแปลกเป็นครูประสิทธิภาพ ผู้นำหลัก และครูมุ่งมั่นประกอบการแก่พบ วิจัยเพิ่มเติมจะต้อง (ก) ประเมินความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างปัจจัยส่วนบุคคล และองค์กรมาตรการอื่น ๆ (b) อธิบายความแตกต่างในความมุ่งมั่นของครูอาจารย์ที่มีปริญญา จะรับปริญญา และผู้ที่ได้รับปริญญา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำหลักประสิทธิภาพโดยรวมของการรับรู้ความสามารถของครูและความมุ่งมั่นของครูวิชาชีพ สำหรับการตรวจสอบนี้สามรุ่นไกล่เกลี่ยและทดสอบสมมติฐาน การออกแบบของการศึกษาครั้งนี้ใช้การสำรวจหกหน้าไปยังครูผู้สอนในการให้บริการที่ลงทะเบียนเรียนในโปรแกรมโท ครู (N = 260) ตอบสนองต่อการสำรวจประกอบด้วยสี่เครื่องชั่งน้ำหนักกับตัวแปรของการเป็นผู้นำหลักประสิทธิภาพโดยรวมของการรับรู้ความสามารถของครูและความมุ่งมั่นที่จะเป็นครูวิชาชีพ การวิเคราะห์เชิงปริมาณที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบการวิเคราะห์เบื้องต้นสถิติเชิงพรรณนาและสี่การทดสอบสมมติฐาน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้บารอนและเคนนี (1986) การทดสอบพอง สมมติฐานแรกได้รับการสนับสนุนบางส่วนสำหรับส่วนมากของตัวแปรการศึกษามีการเชื่อมโยงอย่างมีนัยสำคัญในเชิงบวก ข้อมูลบางส่วนที่ได้รับการสนับสนุนรูปแบบการไกล่เกลี่ยครั้งแรกเมื่อประสิทธิภาพโดยรวมได้รับการตั้งสมมติฐานที่จะเป็นคนกลางในการเป็นผู้นำเงินต้นและความมุ่งมั่นของครูวิชาชีพ สมมติฐานที่สามและสี่ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเมื่อรับรู้ความสามารถของครูทั่วไปและการรับรู้ความสามารถของครูส่วนบุคคลการตั้งสมมติฐานที่จะเป็นคนกลางในการเป็นผู้นำเงินต้นและความมุ่งมั่นของครูวิชาชีพ. ตามสมมติฐานประสิทธิภาพโดยรวมและประสิทธิภาพครูถึงความมุ่งมั่นของครูในการประกอบอาชีพการศึกษานี้ได้เพิ่ม การรับรู้ที่เพิ่มขึ้นของอิทธิพลสำคัญของการเป็นผู้นำหลักในความมุ่งมั่นของครูวิชาชีพ นอกจากนี้การขาดความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความสามารถของตนเองและความเป็นผู้นำที่สำคัญในความสัมพันธ์กับความมุ่งมั่นของครูที่จะประกอบอาชีพเป็นอย่างมากนอกจากนี้ยังมีการรับรู้ความสามารถของครูผู้นำเงินต้นและวรรณกรรมความมุ่งมั่นของครู การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อ (ก) การประเมินความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างมาตรการปัจจัยส่วนบุคคลและองค์กรอื่น ๆ (ข) อธิบายความแตกต่างในความมุ่งมั่นของครูระหว่างครูที่มีการศึกษาระดับปริญญาโทที่มีรายได้ปริญญาโทและผู้ที่ยังไม่ได้รับปริญญาโท ระดับ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำ อาจารย์ใหญ่รวมประสิทธิภาพ ประสิทธิผลครูและครูยึดมั่นในอาชีพ สำหรับคดีนี้ สามรุ่น คือการตั้งสมมติฐานและทดสอบ การวิจัยครั้งนี้ใช้แบบสำรวจหกหน้า ครูประจำการ ที่ลงทะเบียนเรียนในโปรแกรมของอาจารย์ ครู ( n = 260 ) ตอบแบบสอบถามจำนวน 4 เกล็ดบนตัวของผู้นำ กลุ่มหลักประสิทธิภาพ ครูมีประสิทธิภาพและความผูกพันต่อวิชาชีพครู . การวิเคราะห์เชิงปริมาณที่เกี่ยวข้องตรวจสอบวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสี่การทดสอบสมมติฐาน . วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ บารอน และ เคนนี่ ( 1986 ) การทดสอบพอง . สมมติฐานแรกคือบางส่วนที่สนับสนุนมากที่สุดของตัวแปรมีสมาคมที่สำคัญบวก ข้อมูลบางส่วนที่ได้รับการสนับสนุนรูปแบบการไกล่เกลี่ยก่อน เมื่อรวมผลการศึกษาสมมติฐานที่จะเป็นคนกลางของภาวะผู้นำครูใหญ่และครูยึดมั่นในอาชีพ ข้อที่สามและสี่ที่ไม่ได้รับการสนับสนุนเมื่อทั่วไปครูครูส่วนตัวเพื่อประสิทธิภาพประสิทธิผลและความเป็นคนกลางของภาวะผู้นำครูใหญ่และครูยึดมั่นในอาชีพสมมติฐานประสิทธิภาพโดยรวมและครูความสามารถครูยึดมั่นในวิชาชีพ การศึกษานี้ได้เพิ่มการรับรู้ของอิทธิพลที่สำคัญของภาวะผู้นำครูใหญ่กับครูยึดมั่นในอาชีพ ยังขาดจากความสัมพันธ์ระหว่างตนเองและหลักการความเป็นผู้นำในความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อวิชาชีพครู โดยครูเป็นรูปธรรม ) , ภาวะผู้นำครูใหญ่และครูต่อวรรณกรรม การวิจัยเพิ่มเติมเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อ ( 1 ) ประเมินความสัมพันธ์เชิงสาเหตุระหว่างมาตรการส่วนบุคคล และปัจจัยด้านองค์การ อื่น ๆ , ( B ) อธิบายถึงความแตกต่างในความมุ่งมั่นของครูระหว่างครูที่มีการศึกษาระดับปริญญาโท จะได้รับปริญญาโท และผู้ที่ไม่ได้รับการศึกษาระดับปริญญาโท