บทที่ 2เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึก การแปล - บทที่ 2เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึก ไทย วิธีการพูด

บทที่ 2เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้


บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง

ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารที่และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์ การสอนคำศัพท์ กลวิธีการเดาความหมายจากคำศัพท์ การแปลความหมายโดยเสนอผลการศึกษาตามลำดับดังนี้

1. คำศัพท์
1.1 นิยาม
1.2 ประเภทของคำศัพท์
1.3 ชนิดของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Parts of Speech)
1.4 การสอนคำศัพท์
1.5 การประเมินความสามารถด้านการรู้คำศัพท์
2. การแปลความหมาย
2.1 รูปแบบ ชนิด และประเภทของการแปล
2.2 กลวิธีการเดาความหมายจากคำศัพท์
2.3 ความสำคัญของการแปล
2.4 หลักการแปล และลักษณะของภาษาในงานแปลที่ดี

คำศัพท์
นิยาม
คำศัพท์ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการเรียนรู้ภาษา มีนักการศึกษาได้ให้ความหมายของคำศัพท์ไว้ดังนี้ Morris (1979) ได้ให้ความหมายว่า คำศัพท์ หมายถึง คำทุกคำในภาษาที่ถูกใช้และเป็นที่เข้าใจเฉพาะบุคคล วงสังคม วงการอาชีพ เชื้อชาติต่าง ๆ โดยที่ได้รับการเรียงตามตัวอักษรได้รับการแปลความหมายและบางครั้งอาจมีตัวอย่างประกอบได้ วรชาติ ภู่ทอง (2537) ได้กล่าวว่า คำศัพท์ คือ คำ หรือถ้อยคำ และวลีในภาษาทั้งหมด ที่ใช้เป็นสื่อในการสื่อความหมาย ความรู้ ความคิด ระหว่าง หรือเฉพาะบุคคล กลุ่มสังคมอาชีพ และชนชาติ และพะเยา พรหมเทศ (2549) กล่าวว่า คำศัพท์ คือ คำ หรือกลุ่มคำ ที่ปรากฏในภาษาที่ใช้ในการสื่อความหมาย ความรู้ ความคิด ลักษณะอาการ คน สัตว์ และสิ่งของ ที่เข้าใจในกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มอาชีพ สังคม และชนชาตินั้นจากความหมายของคำศัพท์ดังกล่าวข้างต้น สรุปได้ว่า คำศัพท์ คือ คำต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มชนที่ใช้ในการสื่อสาร สื่อความหมาย ความคิด ความรู้ ลักษณะของแต่ละบุคคล


ประเภทของคำศัพท์

มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ได้ศึกษาเกี่ยวกับประเภทของคำศัพท์ดังนี้ (บำรุง โตรัตน์;2524; อิสรา
สาระงาม, 2529; นันทยา แสงสิน, อ้างใน เดชา เซซ่ง, 2546)
1. คำศัพท์ที่เรียนเพื่อการนำไปใช้ (Active Vocabulary) เป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนมักพบและได้ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งถือว่าเป็นคำศัพท์ที่เรียนเพื่อที่จะนำไปใช้ในการสื่อสารทั้ง 4ลักษณะ คือ ฟัง พูด อ่าน และ เขียน
2. คำศัพท์ที่เรียนเพื่อรู้ (Passive Vocabulary) เป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนได้เรียนเพื่อให้ทราบและรู้ความหมาย เพื่อที่จะได้ใช้ในการเรียนในระดับสูงขึ้นต่อไปนอกจากนี้ยังได้มีการจำแนกประเภทของคำศัพท์ตามโอกาสที่ได้ใช้หรือพบในแต่ละทักษะภาษา ดังต่อไปนี้
2.1 คำศัพท์เพื่อการฟัง (A person’s listening vocabulary) เป็นคำศัพท์ที่ใช้มากใน
เด็กเล็กเพราะเด็กยังไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อน หรือเพิ่งจะเริ่มเรียนในการหัดฟัง พูด อ่านและเขียนคำศัพท์จึงเป็นคำศัพท์ที่ค่อนข้างง่าย เหมาะสมกับระดับอายุ
2.2 คำศัพท์เพื่อการพูด (A person’s speaking vocabulary) เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในภาษา
พูดซึ่งต้องสัมพันธ์กับการฟัง คำศัพท์ประเภทนี้อาจเป็นแบบทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ที่สำคัญคือ ต้องสื่อวามหมายให้เข้าใจ ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
1. คำศัพท์ที่ใช้ภายในบ้านหรือระหว่างเพื่อนฝูง หรืออาจะเป็นคำแสลงได้
2. คำศัพท์ที่ใช้ในการเรียนหรือการทำงาน
3. คำศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อราชการหรือใช้ในสังคมชีวิตประจำวัน
2.3 คำศัพท์เพื่อการอ่าน (A person’s reading vocabulary) เป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียน
จะต้องฝึกทักษะต่างๆ เช่น การเดาจากบริบท (Context) หรือการใช้พจนานุกรมและจดจำความหมายของคำศัพท์นั้น ๆ ไว้เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการอ่านตำรา หรือเอกสารต่าง ๆ ต่อไป
2.4 คำศัพท์เพื่อการเขียน (A person’s writing vocabulary) เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการ
เขียนเพื่อเป็นการสื่อสารความหมายหรือการถ่ายทอดความคิดซึ่งเป็นแบบที่ค่อนข้างจะมีความถูกต้องและเป็นทางการประเภทคำศัพท์ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือคำศัพท์เพื่อการอ่าน เป็นการฝึกให้ผู้เรียนเรียนรู้คำศัพท์ ซึ่งประกอบอยู่ในบทอ่านแต่ละเรื่อง มีทั้งคำศัพท์ที่เรียนเพื่อรู้และคำศัพท์ที่เรียนเพื่อนำไปใช้ และเป็นคำศัพท์ที่มีความหลากหลาย เพราะบทอ่านที่ได้นำมาให้ผู้เรียนนั้นล้วนมีความแตกต่างกันทั้งสิ้น และเป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

ชนิดของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (Parts of Speech)
ปาริชาติ นาคะตะ (2536: 16, 35-36) ได้จำแนกคำออกเป็น 2 ชนิดตามการประกอบคำหรือ
ตามหน้าที่ที่อยู่ในคำคือ หน่วยคำหลัก (base morpheme) และหน่วยคำประกอบ (affix) และแบ่งคำ
ผสมออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ๆ คือ คำผสมที่เป็นคำนาม (compound noun) เช่น cable television,
birthcontrol, dog-in-the-manger คำผสมที่เป็นคำคุณศัพท์ (compound adjective) เช่น bloodthirsty,card carrying, see-through และคำผสมที่เป็นคำกริยา (compound verb) เช่น overcome, sky-dive,soft-land
อรมา ประสิทธิ์รัฐสินธุ์ (2546: 20-25) กล่าวว่าชนิดของคำตรงกับภาษาอังกฤษว่า parts of
speech ซึ่งเป็นคำที่มักใช้ในไวยากรณ์ดั้งเดิม และตรงกับคำว่า word classes หรือ forms classes ซึ่ง
เป็นคำที่ใหม่กว่า และริเริ่มใช้โดยนักไวยากรณ์โครงสร้าง ในปัจจุบัน คำว่า parts of speech และ
word classes เป็นที่นิยมใช้เท่าๆ กัน ส่วนคำว่า form classes ไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ชนิดของคำอาจ
แบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ๆ ตามเกณฑ์ดังนี้ คือ
1. เกณฑ์ความหมาย แบ่งคำออกเป็น 8 ชนิดคือคำนาม คำสรรพนาม คำกริยา คำคุณศัพท์
คำวิเศษณ์ คำบุพบท คำสันธาน และคำอุทาน
2. เกณฑ์โครงสร้าง จำแนกชนิดของคำออกเป็น 8 ชนิดคือ verb, noun, adjective,
determiner, adverb, preposition, conjunction, sentence particle
3. เกณฑ์หน้าที่ แบ่งคำออกเป็นกลุ่มดังนี้คือ กลุ่มคำนาม (nominals) ได้แก่ noun, adjective,
numeral, determiner กลุ่มคำกริยา (verbals) ได้แก่ verb, preposition และกลุ่มคำกริยาวิเศษณ์
(adverbals) ได้แก่ adverb, conjunction
Wren & Martin (1993:3) ได้แบ่งคำภาษาอังกฤษออกเป็น 8 ชนิดตามที่ใช้ในประโยค คือ
1. คำนาม (Noun) คือคำที่ใช้เป็นชื่อของคน สถานที่และสิ่งของ
2. คำคุณศัพท์ (Adjective) คือคำที่ใช้เพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำนาม
3. คำสรรพนา (Prono
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
บทที่ 2เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ศึกษาเอกสารที่และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์การสอนคำศัพท์กลวิธีการเดาความหมายจากคำศัพท์การแปลความหมายโดยเสนอผลการศึกษาตามลำดับดังนี้1. คำศัพท์ 1.1 นิยาม 1.2 ประเภทของคำศัพท์ 1.3 ชนิดของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (ส่วนของการพูด) 1.4 การสอนคำศัพท์ 1.5 การประเมินความสามารถด้านการรู้คำศัพท์2. การแปลความหมาย 2.1 รูปแบบสิ่งและประเภทของการแปล 2.2 กลวิธีการเดาความหมายจากคำศัพท์ 2.3 ความสำคัญของการแปล 2.4 หลักการแปลและลักษณะของภาษาในงานแปลที่ดีคำศัพท์นิยามคำศัพท์ถือได้ว่าเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการเรียนรู้ภาษามีนักการศึกษาได้ให้ความหมายของคำศัพท์ไว้ดังนี้มอร์ริส (1979) ได้ให้ความหมายว่าคำศัพท์หมายถึงคำทุกคำในภาษาที่ถูกใช้และเป็นที่เข้าใจเฉพาะบุคคลวงสังคมวงการอาชีพเชื้อชาติต่างๆ โดยที่ได้รับการเรียงตามตัวอักษรได้รับการแปลความหมายและบางครั้งอาจมีตัวอย่างประกอบได้วรชาติภู่ทอง (2537) ได้กล่าวว่าคำศัพท์คือคำหรือถ้อยคำและวลีในภาษาทั้งหมดที่ใช้เป็นสื่อในการสื่อความหมายความรู้ความคิดระหว่างหรือเฉพาะบุคคลกลุ่มสังคมอาชีพและชนชาติและพะเยาพรหมเทศ (2549) กล่าวว่าคำศัพท์คือคำหรือกลุ่มคำที่ปรากฏในภาษาที่ใช้ในการสื่อความหมายความรู้ความคิดลักษณะอาการคนสัตว์และสิ่งของที่เข้าใจในกลุ่มคนที่อยู่ในกลุ่มอาชีพสังคมและชนชาตินั้นจากความหมายของคำศัพท์ดังกล่าวข้างต้นสรุปได้ว่าคำศัพท์คือคำต่างๆ ของแต่ละกลุ่มชนที่ใช้ในการสื่อสารสื่อความหมายความคิดความรู้ลักษณะของแต่ละบุคคลประเภทของคำศัพท์มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ศึกษาเกี่ยวกับประเภทของคำศัพท์ดังนี้ (บำรุงโตรัตน์ 2524 อิสรา สาระงาม 2529 นันทยาแสงสิน อ้างในเดชาเซซ่ง 2546)1. คำศัพท์ที่เรียนเพื่อการนำไปใช้ (ใช้คำศัพท์) เป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนมักพบและได้ใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งถือว่าเป็นคำศัพท์ที่เรียนเพื่อที่จะนำไปใช้ในการสื่อสารทั้ง 4ลักษณะ คือฟังพูดอ่านและเขียน2. คำศัพท์ที่เรียนเพื่อรู้ (แฝงคำศัพท์) เป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนได้เรียนเพื่อให้ทราบและรู้ความหมายเพื่อที่จะได้ใช้ในการเรียนในระดับสูงขึ้นต่อไปนอกจากนี้ยังได้มีการจำแนกประเภทของคำศัพท์ตามโอกาสที่ได้ใช้หรือพบในแต่ละทักษะภาษาดังต่อไปนี้เป็นคำศัพท์ที่ใช้มากในคำศัพท์เพื่อการฟัง 2.1 (ศัพท์ของคนฟัง)เด็กเล็กเพราะเด็กยังไม่เคยเรียนภาษาอังกฤษมาก่อนหรือเพิ่งจะเริ่มเรียนในการหัดฟังพูดอ่านและเขียนคำศัพท์จึงเป็นคำศัพท์ที่ค่อนข้างง่ายเหมาะสมกับระดับอายุเป็นคำศัพท์ที่ใช้ในภาษาคำศัพท์เพื่อการพูด 2.2 (ผู้พูดคำศัพท์)พูดซึ่งต้องสัมพันธ์กับการฟังคำศัพท์ประเภทนี้อาจเป็นแบบทางการหรือไม่เป็นทางการก็ได้ที่สำคัญคือต้องสื่อวามหมายให้เข้าใจซึ่งแบ่งได้ดังนี้1. คำศัพท์ที่ใช้ภายในบ้านหรือระหว่างเพื่อนฝูงหรืออาจะเป็นคำแสลงได้2. คำศัพท์ที่ใช้ในการเรียนหรือการทำงาน3. คำศัพท์ที่ใช้ในการติดต่อราชการหรือใช้ในสังคมชีวิตประจำวันเป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนคำศัพท์เพื่อการอ่าน 2.3 (คำศัพท์ของคนอ่าน)จะต้องฝึกทักษะต่าง ๆ เช่นการเดาจากบริบท (บริบท) หรือการใช้พจนานุกรมและจดจำความหมายของคำศัพท์นั้นๆ ไว้เพื่อที่จะได้นำไปใช้ในการอ่านตำราหรือเอกสารต่างๆ ต่อไปเป็นคำศัพท์ที่ใช้ในการ 2.4 คำศัพท์เพื่อการเขียน (ของคนเขียนคำศัพท์)เขียนเพื่อเป็นการสื่อสารความหมายหรือการถ่ายทอดความคิดซึ่งเป็นแบบที่ค่อนข้างจะมีความถูกต้องและเป็นทางการประเภทคำศัพท์ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือคำศัพท์เพื่อการอ่านเป็นการฝึกให้ผู้เรียนเรียนรู้คำศัพท์ซึ่งประกอบอยู่ในบทอ่านแต่ละเรื่องมีทั้งคำศัพท์ที่เรียนเพื่อรู้และคำศัพท์ที่เรียนเพื่อนำไปใช้และเป็นคำศัพท์ที่มีความหลากหลายเพราะบทอ่านที่ได้นำมาให้ผู้เรียนนั้นล้วนมีความแตกต่างกันทั้งสิ้นและเป็นคำศัพท์ที่ผู้เรียนสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วยชนิดของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (ส่วนของการพูด)ปาริชาตินาคะตะ (2536:16, 35-36) ได้จำแนกคำออกเป็น 2 ชนิดตามการประกอบคำหรือตามหน้าที่ที่อยู่ในคำคือหน่วยคำหลัก (ฐาน morpheme) และหน่วยคำประกอบ (ส่วนผนวก) และแบ่งคำผสมออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือคำผสมที่เป็นคำนาม (คำนามผสม) เช่นโทรทัศน์(เคเบิล)birthcontrol คำผสมที่เป็นคำคุณศัพท์สุนัขในการตัวจัดการ (คุณศัพท์ผสม) เช่นกระหายเลือด พกบัตร ดูผ่านและคำผสมที่เป็นคำกริยา (ผสมคำกริยา) เช่นเอาชนะ ฟ้า ดำ นุ่ม-ที่ดินอรมาประสิทธิ์รัฐสินธุ์ (2546:20-25) ส่วนกล่าวว่าชนิดของคำตรงกับภาษาอังกฤษว่าเสียงซึ่งเป็นคำที่มักใช้ในไวยากรณ์ดั้งเดิมและตรงกับคำว่าคำเรียนหรือแบบเรียนซึ่งเป็นคำที่ใหม่กว่าและริเริ่มใช้โดยนักไวยากรณ์โครงสร้างในปัจจุบันคำว่าส่วนของการพูดและคำเรียนเป็นที่นิยมใช้เท่า ๆ กันส่วนคำว่าแบบฟอร์มคลาไม่ค่อยเป็นที่นิยมนักชนิดของคำอาจแบ่งออกเป็นสามประเภทใหญ่ ๆ ตามเกณฑ์ดังนี้คือ1. เกณฑ์ความหมายแบ่งคำออกเป็น 8 ชนิดคือคำนามคำสรรพนามคำกริยาคำคุณศัพท์คำวิเศษณ์คำบุพบทคำสันธานและคำอุทาน2. เกณฑ์โครงสร้างจำแนกชนิดของคำออกเป็น 8 ชนิดคือคำกริยา คำนาม คุณศัพท์สิ่ง กริยาวิเศษณ์ วิเศษณ์ ร่วม อนุภาคประโยค3. เกณฑ์หน้าที่แบ่งคำออกเป็นกลุ่มดังนี้คือกลุ่มคำนาม (nominals) ได้แก่คำนาม คุณศัพท์ตัวเลข คำกริยาได้แก่สิ่งกลุ่มคำกริยา (verbals) วิเศษณ์และกลุ่มคำกริยาวิเศษณ์(adverbals) ได้แก่คำกริยาวิเศษณ์ ร่วมนกกระจิบและมาร์ติน (1993:3) ได้แบ่งคำภาษาอังกฤษออกเป็น 8 ชนิดตามที่ใช้ในประโยคคือ1. คำนาม (คำนาม) คือคำที่ใช้เป็นชื่อของคนสถานที่และสิ่งของ2. คือคำที่ใช้เพื่อเพิ่มความหมายให้กับคำนามคำคุณศัพท์ (คุณศัพท์)3. คำสรรพนา (Prono
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!

บทที่ การสอนคำศัพท์กลวิธีการเดาความ หมายจากคำศัพท์ คำศัพท์1.1 นิยาม1.2 ประเภทของคำศัพท์1.3 ชนิดของคำศัพท์ภาษาอังกฤษ (ส่วนของการพูด) 1.4 การสอนคำศัพท์1.5 การแปลความหมาย2.1 รูปแบบชนิดและประเภทของการแปล2.2 กลวิธีการเดาความหมายจากคำศัพท์2.3 ความสำคัญของการแปล2.4 หลักการแปล มอร์ริส (1979) ได้ให้ความหมายว่าคำศัพท์หมาย ถึง วงสังคมวงการอาชีพเชื้อชาติต่าง ๆ วรชาติภู่ทอง (2537) ได้กล่าวว่าคำศัพท์คือคำหรือ ถ้อยคำและวลีในภาษาทั้งหมดที่ใช้เป็นสื่อในการสื่อความหมายความรู้ความคิดระหว่างหรือเฉพาะบุคคลกลุ่มสังคมอาชีพและชนชาติและพะเยาพรหมเทศ (2549) กล่าวว่าคำศัพท์คือคำหรือกลุ่ม คำ ความรู้ความคิดลักษณะอาการคนสัตว์ และสิ่งของ สังคม สรุปได้ว่าคำศัพท์คือคำต่าง ๆ ของแต่ละกลุ่มชนที่ใช้ในการสื่อสารสื่อความหมายความคิดความรู้ (บำรุงโตรัตน์; 2524; ราอิสสาระงาม, 2529; นันทยาแสงสิน, อ้างในเดชาเซซ่ง, 2546) 1 คำศัพท์ที่เรียนเพื่อการนำไปใช้ (Active คำศัพท์) 4 ลักษณะคือฟังพูดอ่านและเขียน2 คำศัพท์ที่เรียนเพื่อรู้ (Passive คำศัพท์) ดังต่อไปนี้2.1 คำศัพท์เพื่อการฟัง (คนฟังคำศัพท์) หรือเพิ่งจะเริ่มเรียนในการหัด ฟังพูด เหมาะสมกับระดับอายุ2.2 คำศัพท์เพื่อการพูด (พูดคำศัพท์ของบุคคล) ต้องสื่อวามหมายให้เข้าใจซึ่งแบ่ง ได้ดังนี้ 1 หรืออาจะเป็นคำแสลงได้2 คำศัพท์เพื่อการอ่าน (ของคนอ่านคำศัพท์) เช่นการเดาจากบริบท (Context) ๆ หรือเอกสารต่าง ๆ ต่อไป2.4 คำศัพท์เพื่อการเขียน (ของคนเขียนคำศัพท์) คือคำศัพท์เพื่อการอ่าน ซึ่งประกอบอยู่ในบทอ่านแต่ละเรื่อง และเป็นคำศัพท์ที่มีความหลากหลาย (ส่วนของการพูด) ปาริชาตินาคะตะ (2536: 16, 35-36) ได้จำแนกคำออกเป็น 2 หน่วยคำหลัก (ฐานหน่วย) และหน่วยคำประกอบ (ติด) และแบ่งคำผสมออกเป็น 3 ชนิดใหญ่ ๆ คือคำผสมที่เป็น คำนาม (สารประกอบที่เป็นรูปธรรม) เช่นเคเบิลทีวีbirthcontrol สุนัข-in-the-รางหญ้าคำผสม ที่เป็นคำคุณศัพท์ (สารประกอบคำคุณศัพท์) เช่นกระหายเลือดถือบัตรดูผ่านและคำผสมที่เป็นคำกริยา (สารประกอบ verb) เช่นเอาชนะท้องฟ้าดำน้ำนุ่มที่ดินอรมาประสิทธิ์รัฐสินธุ์ (2546: 20-25 ) ส่วนของคำพูด และตรงกับคำว่าเรียนคำหรือรูปแบบการเรียนซึ่งเป็นคำที่ใหม่กว่า ในปัจจุบันคำว่าส่วนของการพูดและการเรียนคำเป็นที่นิยมใช้เท่า ๆ กันส่วน คำว่า การเรียนแบบฟอร์มไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก ตามเกณฑ์ดังนี้คือ1 เกณฑ์ความหมายแบ่งคำออกเป็น 8 คือคำชนิดนามคำสรรพนามคำกริยาคำคุณศัพท์คำวิเศษณ์คำบุพบทคำสันธานและคำอุทาน2 เกณฑ์โครงสร้างจำแนกชนิดของคำออกเป็น 8 ชนิดคือคำกริยาคำนามคำคุณศัพท์มุ่งมั่น, วิเศษณ์บุพบทร่วมประโยคอนุภาค3 เกณฑ์หน้าที่แบ่งคำออกเป็นกลุ่มดังนี้ คือกลุ่มคำนาม (nominals) ได้แก่ คำนามคำคุณศัพท์เลข, มุ่งมั่นกลุ่มคำกริยา (verbals) ได้แก่ คำกริยาคำบุพบทและกลุ่มคำกริยาวิเศษณ์(adverbals) ได้แก่ วิเศษณ์ร่วมนกกระจิบและมาร์ติน (1993: 3) ได้แบ่งคำภาษาอังกฤษออกเป็น 8 ชนิดตามที่ใช้ในประโยคคือ1 คำนาม (Noun) คือคำที่ใช้เป็นชื่อของคน สถานที่และสิ่งของ ที่ 2 คำคุณศัพท์ (Adjective) คำสรรพนา (prono



























































การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: