Cognitive Behavioral Therapy for ne

Cognitive Behavioral Therapy for negative symptoms (CBT-n) in psychotic disorders: A pilot study

Background and objectives: The treatment of negative symptoms in schizophrenia is a major challenge for mental health care. One randomized controlled trial found that cognitive therapy for low-functioning patients reduced avolition and improved functioning, using an average of 50.5 treatment sessions over the course of 18 months. The aim of our current pilot study was to evaluate whether 20 sessions of Cognitive Behavioral Therapy for negative symptoms (CBT-n) would reduce negative symptoms within 6 months. Also, we wanted to test the cognitive model of negative symptoms by analyzing whether a reduction in dysfunctional beliefs mediated the effects on negative symptoms.
Method: In an open trial 21 adult outpatients with a schizophrenia spectrum disorder with negative symptoms received an average of 17.5 sessions of CBT-n. At baseline and end-of-treatment, we assessed negative symptoms (PANSS) and dysfunctional beliefs about cognitive abilities, performance, emotional experience, and social exclusion. Bootstrap analysis tested mediation.
Results: The dropout rate was 14% (three participants). Intention-to-treat analyses showed a within group effect size of 1.26 on negative symptoms (t ¼ 6.16, j Sig ¼ 0.000). Bootstrap analysis showed that dysfunctional beliefs partially mediated the change.
Limitations: The uncontrolled design induced efficacy biases. Also, the sample was relatively small, and there were no follow-up assessments.
Conclusions: CBT-n may be effective in reducing negative symptoms. Also, patients reported fewer dysfunctional beliefs about their cognitive abilities, performance, emotional experience, and social exclusion, and this reduction partially mediated the change in negative symptoms. The reductions were clinically important. However, larger and controlled trials are needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รับรู้พฤติกรรมบำบัดสำหรับอาการลบ (ชุมชน-n) ในโรค psychotic: การศึกษานำร่องพื้นหลังและวัตถุประสงค์: การรักษาอาการติดลบในโรคจิตเภทเป็นความท้าทายที่สำคัญสำหรับสุขภาพจิต ทดลองควบคุม randomized หนึ่งพบว่า รับรู้บำบัดสำหรับผู้ป่วยที่มีการทำงานต่ำลด avolition และปรับปรุงการทำงาน การใช้ค่าเฉลี่ยของรอบรักษา 50.5 ในช่วง 18 เดือน จุดประสงค์ของการศึกษานำร่องของเราปัจจุบันถูกประเมินว่าเซสชันของรับรู้พฤติกรรมบำบัด 20 สำหรับอาการลบ (ชุมชน-n) จะช่วยลดอาการลบภายใน 6 เดือน ยัง เราต้องการที่จะทดสอบแบบรับรู้อาการลบ โดยวิเคราะห์ว่าลดความเชื่อนบา mediated ลักษณะอาการลบวิธีการ: ในการเปิดทดลอง 21 ผู้ใหญ่ outpatients กับโรคสเปกตรัมเป็นโรคจิตเภทมีอาการลบรับเฉลี่ย 17.5 รอบเวลาของชุมชน-n พื้นฐานและสุดท้ายรักษา เราประเมินอาการลบ (PANSS) และนบาความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถในการรับรู้ ประสิทธิภาพ ประสบการณ์ทางอารมณ์ และแยกทางสังคม เริ่มต้นระบบวิเคราะห์ทดสอบกาชาดผลลัพธ์: อัตราเป็นถอนได้ 14% (3 คน) ตั้งใจรักษาวิเคราะห์พบการภายในกลุ่มผลจำนวน 1.26 อาการลบ (t ¼ 6.16 เจ Sig ¼ 0.000) เริ่มต้นระบบวิเคราะห์พบว่า ความเชื่อนบา mediated เปลี่ยนแปลงบางส่วนข้อจำกัด: การออกแบบทางเกิดยอม efficacy ยัง ตัวอย่างเล็ก และมีการประเมินติดตามผลไม่บทสรุป: ชุมชน-n อาจมีประสิทธิภาพในการลดอาการลบ ยัง ผู้ป่วยรายงานความเชื่อนบาน้อยลงเกี่ยวกับการรับรู้ความสามารถ ประสิทธิภาพ ประสบการณ์ทางอารมณ์ และแยกสังคม และลดนี้บางส่วน mediated การเปลี่ยนแปลงอาการลบ การลดมีความสำคัญทางคลินิก อย่างไรก็ตาม ขนาดใหญ่ และมีการควบคุมการทดลองจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมบำบัดสำหรับอาการทางลบ (CBT-n) ในความผิดปกติทางจิต: การศึกษานำร่องเป็นมาและวัตถุประสงค์การรักษาอาการจิตเภทในเชิงลบคือความท้าทายที่สำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพจิต การพิจารณาคดีหนึ่งควบคุมแบบสุ่มพบว่าการรักษาด้วยองค์ความรู้สำหรับผู้ป่วยต่ำทำงานลดลง avolition และการทำงานที่ดีขึ้นโดยใช้ค่าเฉลี่ยของ 50.5 บำบัดรักษาในช่วง 18 เดือน จุดมุ่งหมายของการศึกษานำร่องในปัจจุบันของเราคือการประเมินว่า 20 ครั้งของการรักษาด้วยความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมสำหรับอาการทางลบ (CBT-n) จะช่วยลดอาการทางลบภายใน 6 เดือน นอกจากนี้เรายังต้องการที่จะทดสอบรูปแบบองค์ความรู้ของอาการทางลบโดยการวิเคราะห์ว่าการลดลงของความเชื่อที่ผิดปกติพึ่งผลกระทบต่ออาการลบ. วิธีการ: ในการทดลองเปิด 21 ผู้ป่วยนอกผู้ใหญ่ที่มีความผิดปกติของโรคจิตเภทคลื่นความถี่ที่มีอาการทางลบได้รับค่าเฉลี่ยของ 17.5 การประชุม ของ CBT-n ที่ baseline และสิ้นสุดของการรักษาเราประเมินอาการทางลบ (PANSS) และความเชื่อที่ผิดปกติเกี่ยวกับความสามารถทางปัญญา, การทำงาน, ประสบการณ์ทางอารมณ์และการกีดกันทางสังคม เงินทุนในการวิเคราะห์การไกล่เกลี่ยที่ผ่านการทดสอบ. ผลการศึกษา: อัตราการออกกลางคันเป็น 14% (สามผู้เข้าร่วม) การวิเคราะห์ความตั้งใจที่จะแสดงให้เห็นว่าการรักษาในกลุ่มขนาดผลกระทบจาก 1.26 ในอาการทางลบ (t ¼ 6.16 เจ Sig ¼ 0.000) เงินทุนการวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าความเชื่อที่ผิดปกติพึ่งบางส่วนเปลี่ยนแปลง. ข้อ จำกัด : การออกแบบที่ไม่สามารถควบคุมไฟ EF เหนี่ยวนำให้เกิดอคติ cacy นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างเป็นขนาดค่อนข้างเล็กและไม่มีการติดตามประเมินผล. สรุป: CBT-n อาจจะมีประสิทธิภาพในการลดอาการทางลบ นอกจากนี้ผู้ป่วยที่รายงานความเชื่อที่ผิดปกติน้อยลงเกี่ยวกับองค์ความรู้ของพวกเขามีความสามารถ, การทำงาน, ประสบการณ์ทางอารมณ์และการกีดกันทางสังคมและการลดลงนี้พึ่งบางส่วนการเปลี่ยนแปลงในเชิงลบอาการ การลดลงมีความสำคัญทางคลินิก อย่างไรก็ตามการทดลองที่มีขนาดใหญ่และมีการควบคุมที่มีความจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พฤติกรรมบำบัดสำหรับอาการด้านลบ ( cbt-n ) ความผิดปกติทางจิต : การศึกษานำร่อง

ความเป็นมาและวัตถุประสงค์การรักษาอาการทางลบในโรคจิตเภทคือความท้าทายที่สำคัญสำหรับการดูแลสุขภาพจิต เป็นการวิจัยเชิงทดลองแบบควบคุม พบว่า การรักษาผู้ป่วยการทำงานต่ำลดลง avolition และปรับปรุงการทำงานโดยเฉลี่ย 505 การรักษาเซสชันผ่านหลักสูตร 18 เดือน จุดมุ่งหมายของการศึกษานำร่องของเราในปัจจุบันคือประเมินว่า 20 การประชุมของพฤติกรรมบำบัดสำหรับอาการด้านลบ ( cbt-n ) จะลดอาการด้านลบภายใน 6 เดือน นอกจากนี้เรายังต้องการที่จะทดสอบรูปแบบการรับรู้ของอาการทางลบ โดยวิเคราะห์ว่า การลดความเชื่อที่ผิดปกติ ( ผลต่ออาการทางลบ .
วิธีการ : เปิดทดลองในผู้ป่วยนอกโรคจิตเภทโรค 21 ผู้ใหญ่กับสเปกตรัมด้วยอาการทางลบได้รับเฉลี่ย 17.5 ครั้ง cbt-n. ที่ baseline และจุดสิ้นสุดของการรักษา เราประเมินอาการด้านลบ ( การศึกษา ) และแตกแยก ความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถ , สมรรถนะ , การรับรู้ประสบการณ์ทางอารมณ์และสังคม . การวิเคราะห์ทดสอบการบูตสแตรป .
ผลลัพธ์ :ส่วน dropout อัตรา 14% ( 3 คน ) ความตั้งใจที่จะรักษาวิเคราะห์พบว่าภายในกลุ่มผลขนาด 1.26 ต่ออาการทางลบ ( T ¼ 6.16 J Sig ¼ 0.000 ) การวิเคราะห์แสดงให้เห็นว่าความเชื่อที่ผิดปกติ ( บูทบางส่วนเปลี่ยนแปลง .
ข้อจำกัด : ออกแบบควบคุมการถ่ายทอด cacy EF biases นอกจากนี้ จำนวนที่ค่อนข้างเล็ก และไม่มีการประเมิน
ติดตามสรุป : cbt-n อาจจะมีประสิทธิภาพในการลดอาการลบ นอกจากนี้ผู้ป่วยรายงานน้อยลงผิดปกติ ความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถทางปัญญาของพวกเขา ประสิทธิภาพ ประสบการณ์ อารมณ์ และสังคม และการลดลงนี้บางส่วนโดยการเปลี่ยนแปลงในอาการลบ ดัชนีการใช้ทางคลินิกที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม การทดลองขนาดใหญ่และควบคุมที่จำเป็น